วัน 262

ปฏิเสธที่จะติดบ่วงในอดีตของคุณ

ปัญญานิพนธ์ สดุดี 108:6-13
พันธสัญญาใหม่ กาลาเทีย 4:21-5:6
พันธสัญญาเดิม อิสยาห์ 44:24-46:13

เกริ่นนำ

เขาไร้ซึ่งผู้ใดที่จะช่วยให้ตนเองได้เป็นทนายความหรือนักการเมือง เขาไม่สนใจเข้าร่วมกองทัพ เขาไม่มีความปรารถนาที่จะเป็นหมอ ดังนั้น สิ่งเดียวที่ชัดเจนในอาชีพการงานในสมัยหนึ่งสำหรับผู้ชายที่มีภูมิหลังอย่างเขาที่ผมพูดถึงนี้ คือการเป็นนักบวชในคริสตจักรแห่งอังกฤษ

เขาพยายามทำให้ตัวเองเป็นที่ยอมรับจากพระเจ้าโดยรักษากฎเกณฑ์ต่าง ๆ ทั้งหมด ทั้งภายในและภายนอกจิตใจ เขาตื่นแต่เช้า เขาอธิษฐาน เขาปฏิเสธตัวเอง เขาพยายามที่จะรับเอาการให้อภัยและสันติสุขด้วยความพยายามที่เพิ่มขึ้น แต่เขากลับ ‘คร่ำครวญอยู่ใต้แอกที่หนักอึ้ง’

วันที่ 24 พฤษภาคม ค.ศ. 1738 เวลา 20.45 น. เขาได้ยินคนอ่านหนังสือของมาร์ติน ลูเทอร์ นักปฏิรูปผู้ยิ่งใหญ่ เขาเล่าในเวลาต่อมาว่า ‘ในขณะที่มาร์ตินอธิบายถึงการเปลี่ยนแปลงที่พระเจ้าทำงานในหัวใจผ่านความเชื่อในพระคริสต์ ผมรู้สึกอบอุ่นใจอย่างประหลาด ผมเกิดความรู้สึกว่าผมได้วางใจในพระคริสต์ พระคริสต์เพียงผู้เดียวที่ช่วยให้รอด และให้ความมั่นใจ(แก่)ผมว่าพระองค์ได้ทรงนำบาปของผมไปแล้ว แม้กระทั่งสิ่งที่เกิดจากการกระทำของผมและพระองค์ทรงช่วยผมให้พ้นความบาปและความตาย’

จอห์น เวสลีย์ กลายเป็นหนึ่งในนักเทศน์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่ เขาเทศนาไปมากกว่า 40,000 บทเทศนาที่หัวใจหลักอยู่ยนเสรีภาพผ่านความเชื่อในพระเยซูคริสต์ เขาได้ ‘เปลี่ยนความเชื่อของผู้รับใช้เป็นความเชื่อของลูกชาย’ ในที่สุดเขาก็ได้รับเสรีภาพ

‘เสรีภาพ’ เป็นคำที่สรุปชีวิตคริสเตียนได้ดีที่สุด คุณเองก็มีเสรีภาพเช่นกัน ดังนั้นจงปฎิเสธที่จะติดบ่วงในอดีตของคุณ

ปัญญานิพนธ์

สดุดี 108:6-13

6ขอประทานชัยชนะโดยพระหัตถ์ขวาของพระองค์และขอทรงตอบข้าพระองค์
 เพื่อว่าผู้ที่พระองค์ทรงรักจะได้รับการช่วยกู้
7พระเจ้าตรัสในสถานนมัสการของพระองค์ว่า
 “เราจะยินดี เราจะแบ่งเมืองเชเคม
 และแบ่งหุบเขาเมืองสุคคทออก 8กิเลอาดเป็นของเรา มนัสเสห์เป็นของเรา
 เอฟราอิมเป็นหมวกป้องกันศีรษะของเรา
 ยูดาห์เป็นคทาของเรา
9โมอับเป็นอ่างล้างชำระของเรา
 เราเหวี่ยงรองเท้าของเราลงบนเอโดม
 เราโห่ร้องด้วยความมีชัยเหนือฟีลิสเตีย”
10ผู้ใดจะนำข้าพเจ้ามายังนครที่มีป้อม?
 ผู้ใดจะนำข้าพเจ้าไปยังเอโดม?
11ข้าแต่พระเจ้า พระองค์มิได้ทรงทอดทิ้งข้าพระองค์ทั้งหลายแล้วหรือ?
 ข้าแต่พระเจ้า พระองค์ไม่ทรงออกไปกับกองทัพของข้าพระองค์ทั้งหลายแล้วหรือ?
12ขอประทานความช่วยเหลือแก่ข้าพระองค์ทั้งหลายเพื่อต่อต้านศัตรู
 เพราะความช่วยเหลือของมนุษย์ก็ไร้ผล
13โดยพึ่งพระเจ้า เราจะสู้อย่างเข้มแข็ง
 พระองค์เองทรงเป็นผู้เหยียบศัตรูของเราลง

อรรถาธิบาย

ร้องต่อเสรีภาพ

ดาวิดรู้ว่าพระเจ้ารักเขา และเขาอธิษฐานขอให้พระเจ้าช่วยเขาให้รอด ‘ขอประทานชัยชนะโดยพระหัตถ์ขวาของพระองค์และขอทรงตอบข้าพระองค์ เพื่อว่าผู้ที่พระองค์ทรงรักจะได้รับการช่วยกู้’ (ข้อ 6) การช่วยกู้สื่อถึงการได้รับเสรีภาพหรือการได้รับอิสรภาพ

หากคุณกำลังเผชิญกับความท้าทายที่ยากลำบากในชีวิต ให้อธิษฐานเหมือนดาวิด

‘ช่วยเราจัดการงานอันหนักหนา
 ความช่วยเหลือของมนุษย์ก็ไร้ค่า
ในพระเจ้าเราจะทำให้ดีที่สุด’
(ข้อ 12–13ก พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)

คำอธิษฐาน

ข้าแต่พระเจ้า ขอบพระคุณที่พระองค์ทรงรักข้าพระองค์ ทรงช่วยข้าพระองค์และปลดปล่อยข้าพระองค์ให้เป็นอิสระ พระเจ้า วันนี้ข้าพระองค์อธิษฐานขอความช่วยเหลือจากพระองค์ด้วย...
พันธสัญญาใหม่

กาลาเทีย 4:21-5:6

คำเปรียบเทียบเรื่องนางฮาการ์และนางซาราห์

 21ท่านทั้งหลายผู้ที่อยากอยู่ใต้ธรรมบัญญัติ บอกข้าพเจ้าเถิด ท่านไม่ได้ฟังธรรมบัญญัติหรือ? 22เพราะมีเขียนไว้ในพระคัมภีร์ว่าอับราฮัมมีบุตรสองคน คนหนึ่งเกิดจากหญิงทาสปฐก.16:15 อีกคนหนึ่งเกิดจากหญิงที่เป็นไท 23บุตรที่เกิดจากหญิงทาสนั้นก็เกิดตามปกติคำว่าตามปกติ ในข้อนี้และข้อ 29 ภาษากรีกแปลตรงตัวว่า ตามเนื้อหนัง แต่บุตรที่เกิดจากหญิงที่เป็นไทนั้นเกิดตามพระสัญญา 24ข้อความนี้เป็นอุปไมย ผู้หญิงสองคนนั้นได้แก่พันธสัญญาสองอย่าง คนหนึ่งมาจากภูเขาซีนาย คลอดลูกเป็นทาส คือนางฮาการ์ 25นางฮาการ์นั้นได้แก่ภูเขาซีนายในอาระเบีย เล็งถึงกรุงเยรูซาเล็มปัจจุบัน เพราะว่ากรุงนี้กับพลเมืองเป็นทาสอยู่ 26แต่ว่าเยรูซาเล็มซึ่งอยู่เบื้องบนนั้น เป็นไท เป็นมารดาของเรา 27เพราะว่ามีเขียนไว้ในพระคัมภีร์ว่า

“จงชื่นชมยินดีเถิด โอหญิงหมันเอ๋ย ผู้ไม่คลอดบุตร
 จงเปล่งเสียงโห่ร้อง เจ้าผู้ไม่เจ็บครรภ์
เพราะว่าบุตรของแม่ร้าง ก็ยังมีมากกว่าบุตรของหญิงที่มีสามี”

 28พี่น้องทั้งหลาย เราเป็นบุตรแห่งพระสัญญาเช่นเดียวกับอิสอัค 29แต่ในครั้งนั้น ผู้ที่เกิดตามปกติได้ข่มเหงผู้ที่เกิดตามพระวิญญาณอย่างไร ปัจจุบันนี้ก็เหมือนกันอย่างนั้น 30แต่พระคัมภีร์ว่าอย่างไร? ก็ว่า “จงไล่หญิงทาสกับบุตรชายของนางไปเสีย เพราะว่าบุตรของหญิงทาสจะรับมรดกร่วมกับบุตรของหญิงที่เป็นไทไม่ได้” 31เพราะฉะนั้น พี่น้องทั้งหลาย เราไม่ใช่บุตรของหญิงทาส แต่เป็นบุตรของหญิงที่เป็นไท

กาลาเทีย 5

 1เพื่อเสรีภาพนั้นเองพระคริสต์จึงได้ทรงให้เราเป็นไท เพราะฉะนั้น จงตั้งมั่น และอย่าเข้าเทียมแอกของการเป็นทาสอีกเลย

เสรีภาพของคริสเตียน

 2นี่แน่ะ ข้าพเจ้าเปาโล ขอบอกท่านทั้งหลายว่า ถ้าท่านยอมเข้าสุหนัต พระคริสต์จะไม่ทรงเป็นประโยชน์อะไรให้แก่ท่านเลย 3ข้าพเจ้าขอย้ำให้ทุกคนที่ยอมเข้าสุหนัตทราบอีกว่า เขาถูกผูกมัดให้ประพฤติตามธรรมบัญญัติทั้งสิ้น 4ท่านทั้งหลายที่ปรารถนาจะถูกชำระให้ชอบธรรมโดยธรรมบัญญัติ ก็ถูกตัดขาดจากพระคริสต์ และหล่นจากพระคุณไปเสียแล้ว 5เพราะว่าโดยพระวิญญาณและความเชื่อ เราก็รอคอยความชอบธรรมที่เราหวังว่าจะได้รับ 6เพราะว่าในพระเยซูคริสต์นั้น การเข้าสุหนัตหรือไม่เข้าสุหนัตไม่เกิดประโยชน์อันใด แต่ความเชื่อซึ่งแสดงออกเป็นการกระทำด้วยความรักนั้นสำคัญ

อรรถาธิบาย

ใช้ชีวิตอย่างอิสระ

ในวัฒนธรรมของเรา เสรีภาพมักถูกเข้าใจว่าสามารถทำอะไรก็ได้ที่คุณต้องการ ตามวิธีที่คุณต้องการ เมื่อไรก็ตามที่คุณต้องการ แต่เมื่อคุณดำเนินชีวิตในลักษณะนั้น คุณอาจไม่รู้สึกถึงเสรีภาพอย่างแท้จริง

ตามคำสอนของอาจารย์เปาโลในข้อพระคัมภีร์วันนี้ เสรีภาพมาทางพระเยซูคริสต์ สิ่งที่อาจารย์เปาโลสื่อคือคุณไม่ได้ ‘เกิดมาอย่างเสรี’ แต่เพื่อจะได้รับเสรีภาพ คุณต้อง 'เกิดใหม่' เสรีภาพที่แท้จริงพบได้ในชีวิตที่เชื่อในพระคริสต์

แนวคิดเรื่องเสรีภาพหลายอย่างล้มเหลวเพราะพวกเขาไม่ได้ตระหนักถึงธรรมชาติที่แท้จริงของการตกเป็นทาสที่อยู่ในตัวมนุษย์เรา ความเชื่อในเสรีภาพในฐานะสิทธิโดยกำเนิดของคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งมักก่อให้เกิดแนวคิดชาตินิยมที่รุนแรงและการเหยียดเชื้อชาติ ก่อให้เกิดเหตุการณ์ชั่วร้ายที่สุดในอดีตที่ผ่านมา ทั้งลัทธินาซีและการแบ่งแยกสีผิว

ในภาพยนตร์ที่ชื่อ ฝันสู่อิสรภาพ Cry Freedom แสดงถึงบางอย่างที่เราปรารถนา ไม่ว่าจะเป็นเสรีภาพโดยไม่จำกัดเชื้อชาติและเสรีภาพทางการเมือง (อย่างเช่นในกรณีของภาพยนตร์เรื่องนี้) เสรีภาพในการพูด การชุมนุมโดยเสรี การนมัสการอย่างเสรี การเลือกทำไม่ทำด้วยเหตุผลอย่างเสรี หรือเสรีภาพทางเศรษฐกิจและเสรีภาพส่วนบุคคล คนทั้งโลกเรียกร้องหาเสรีภาพ

เสรีภาพทุกรูปแบบเหล่านี้มีความสำคัญ แต่คุณสามารถได้รับเสรีภาพทั้งหมดนี้และยังคงมีสถานะเป็นทาส หรือคุณจะไม่มีเสรีภาพพวกนี้เลยก็ได้แต่กลับมีความรู้สึกอิสระอย่างแท้จริง พระกิตติคุณรวมพระสัญญาเกี่ยวกับเสรีภาพแบบอื่น ๆ ไว้ด้วย โดยเริ่มต้นด้วยเสรีภาพที่ลึกซึ้งกว่าเสรีภาพอื่นใด

‘พระคริสต์ทรงปลดปล่อยเรา ให้มีเสรีภาพในการใช้ชีวิตอย่างอิสระ’ (5:1, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) พระเยซูทำให้เรามีเสรีภาพในการใช้ชีวิตอย่างมีอิสระ มีความเชื่อ และมีความรักผ่านพระวิญญาณ ฝ่ายตรงข้ามของอาจารย์เปาโลคือ ‘พวกยิว’ อวดว่าพวกเขาเป็นลูกของอับราฮัม อาจารย์เปาโลตีความพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาเดิมโดยเปรียบเปรย โดยใช้การโต้แย้งเชิงเปรียบเทียบในการเผชิญหน้ากับพวกเขา

อาจารย์เปาโลกล่าวกับอีกฝ่ายว่า มีสองหนทางที่เราสามารถดำเนินชีวิตได้ คืออยู่ในการเป็นทาส หรืออยู่ในเสรีภาพ เขาอธิบายว่ามีสองพันธสัญญา เขาพูดในทำนองที่ว่า: ‘พวกท่านโอ้อวดว่าเป็นลูกของอับราฮัม แต่แท้จริงแล้วอับราฮัมมีลูกสองคนจริง ๆ คนหนึ่งอยู่ในความเป็นทาสและอีกคนหนึ่งอยู่ในเสรีภาพ’ การสืบเชื้อสายมาจากอับราฮัมไม่ใช่หมายถึงการสืบเชื้อสายทางร่างกาย แต่ทางฝ่ายวิญญาณ การแค่มีอับราฮัมเป็นบิดาอาจไม่พอ คำถามสำคัญคือ ‘ใครคือมารดาของคุณ?'

เขาโต้แย้งฝ่ายตรงข้ามที่เอาแต่ยืนกรานในเรื่องธรรมบัญญัติ ว่าที่แท้แล้วพวกเขาเป็นลูกของฮาการ์ การเปรียบเทียบนี้แสดงถึงพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาเดิม เมืองเยรูซาเล็มเก่า อิชมาเอล บุตรแห่งเนื้อหนัง และชีวิตของการเป็นทาส (ข้อ 25) นี่คือชีวิตที่จอห์น เวสลีย์ที่ประสบก่อนการกลับใจใหม่ของเขา มันคือชีวิตแห่งความผิดหวังและความล้มเหลว ความสับสนและความพ่ายแพ้

ในทางกลับกัน การเป็นคริสเตียนคือการเป็นลูกไม่เฉพาะของอับราฮัมเท่านั้นแต่ของซาราห์ด้วย ซาราห์เป็นตัวแทนของพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาใหม่ กรุงเยรูซาเล็มใหม่ (‘เยรูซาเล็มซึ่งอยู่เบื้องบน’ ข้อ 26) อิสอัค (บุตรแห่งคำสัญญา ข้อ 28) และเสรีภาพที่อยู่ในพระคริสต์ นี่คือสิ่งที่เวสลีย์ประสบในวันที่เขาวางใจในพระคริสต์ว่า พระคริสต์เป็นผู้เดียวที่ช่วยให้รอด หัวใจของเขา ‘อบอุ่นอย่างประหลาด’ นี้เป็นทางแห่งสันติสุข ความชื่นชมยินดี และเสรีภาพ

อาจารย์เปาโลชี้ให้เห็นว่าเช่นเดียวกับที่อิชมาเอลเยาะเย้ยอิสอัค (ดู ปฐมกาล 21:9) ชาวกาลาเทียที่ ‘เกิดตามพระวิญญาณ’ (กาลาเทีย 4:29) ไม่ควรแปลกใจที่พวกเขาถูกข่มเหงโดย ‘พวกยิว’ เหล่านี้

เขาสรุปข้อโต้แย้งของเขาโดยกล่าวว่า ‘เราไม่ใช่บุตรของหญิงทาส แต่เป็นบุตรของหญิงที่เป็นไท’ (ข้อ 31) เขากล่าวต่อว่า ‘เพื่อเสรีภาพนั้นเองพระคริสต์จึงได้ทรงให้เราเป็นไท เพราะฉะนั้น จงตั้งมั่น และอย่าเข้าเทียมแอกของการเป็นทาสอีกเลย’ (5:1–2) ภาพที่สื่อเป็นรูปภาพของวัวตัวผู้ตัวหนึ่งโค้งตัวลงด้วยบังเหียนอันหนักอึ้ง

‘การเข้าสุหนัต’ เป็นสัญลักษณ์ทางศาสนศาสตร์ ที่แสดงถึงความเชื่อของธะรมบัญญัติ (ข้อ 2-3) เปาโลแย้งว่า การเพิ่มข้อปฏิบัติให้เข้าสุหนัตจะทำให้เสียพระคริสต์ไป การแสวงหาความชอบธรรมโดยการประพฤติ คือการละทิ้งพระคุณ (ข้อ 4)

ชีวิตคริสเตียนคือชีวิตแห่งความเชื่อ คุณไม่สามารถใช้การปฏิบัติเพื่อความรอดของคุณ คุณเพียงแค่เฝ้ารอ (ข้อ 5) ในขณะเดียวกัน ‘ความเชื่อซึ่งแสดงออกเป็นการกระทำด้วยความรักนั้นสำคัญ’ (ข้อ 6ข)

คำอธิษฐาน

ข้าแต่พระเจ้า ขอบพระคุณที่ทรงปลดปล่อยข้าพระองค์ให้มีเสรีภาพเพื่อข้าพระองค์จะได้ใช้ชีวิตอย่างอิสระ ขอบพระคุณสำหรับเสรีภาพที่พระวิญญาณบริสุทธิ์นำมาสู่ชีวิตของข้าพระองค์ ช่วยข้าพระองค์ในวันนี้ให้สำแดงความเชื่อในความรัก
พันธสัญญาเดิม

อิสยาห์ 44:24-46:13

24พระยาห์เวห์ผู้ไถ่ของเจ้า
 ผู้ปั้นเจ้าตั้งแต่ในครรภ์ ตรัสดังนี้ว่า
“เราคือยาห์เวห์ ผู้ทรงสร้างทุกสิ่ง
 ผู้ขึงฟ้าสวรรค์แต่ลำพัง
 ผู้กางแผ่นดินโลกด้วยตัวเอง ใครอยู่กับเรา?
25ผู้ทำให้ลางของคนโกหกไม่ขลัง
 และทำให้คนทำนายบ้าๆ บอๆ
ผู้หันคนฉลาดให้กลับหลัง
 และทำให้ความรู้ของเขาโง่เขลาไป
26ผู้รับรองถ้อยคำของผู้รับใช้ของพระองค์
 และให้แผนงานของทูตของพระองค์สัมฤทธิ์ผล
ผู้กล่าวถึงเยรูซาเล็มว่า ‘จะมีคนอาศัยอยู่’
 และถึงเมืองต่างๆ ของยูดาห์ว่า ‘จะถูกสร้างขึ้นใหม่
 และเราจะยกสิ่งปรักหักพังของมันขึ้น’
27ผู้กล่าวกับที่ลึกว่า ‘จงแห้งเสีย
 และเราจะให้แม่น้ำทั้งหลายของเจ้าแห้งไป’
28ผู้กล่าวถึงไซรัสว่า ‘เขาเป็นผู้เลี้ยงแกะของเรา
 และเขาจะทำให้ความมุ่งหมายทุกอย่างของเราสำเร็จ’
ด้วยการกล่าวถึงเยรูซาเล็มว่า ‘จะถูกสร้างขึ้นใหม่’
 และกล่าวถึงพระวิหารว่า ‘จะได้รับการวางรากฐาน’ ”

อิสยาห์ 45

ไซรัสผู้เป็นเครื่องมือของพระเจ้า

1พระยาห์เวห์ตรัสกับผู้ที่พระองค์ทรงเจิมไว้ คือไซรัส
 ผู้ซึ่งเราทำให้มือขวาของเขาแข็งแกร่ง
เพื่อปราบบรรดาประชาชาติที่อยู่ข้างหน้าเขา
 และปลดเจียระบาดผ้าคาดเอวจากบั้นเอวของพระราชาทั้งหลาย
เพื่อเปิดประตูที่อยู่ข้างหน้าเขา
 และประตูจะไม่ถูกปิดอีก
2พระยาห์เวห์ตรัสว่า “เราเองจะไปข้างหน้าเจ้า
 และทำให้ภูเขาเป็นที่ราบ
เราจะพังประตูทองสัมฤทธิ์ให้เป็นชิ้นๆ
 และตัดลูกกรงเหล็กให้ขาด
3เราจะให้ทรัพย์สมบัติในที่มืดแก่เจ้า
 และให้ขุมทรัพย์ในที่ลี้ลับ
เพื่อเจ้าจะรู้ว่าเราคือยาห์เวห์
 พระเจ้าของอิสราเอล ผู้เรียกเจ้าตามชื่อของเจ้า
4เพื่อเห็นแก่ยาโคบผู้รับใช้ของเรา
 และอิสราเอลผู้เลือกสรรของเรา
เราจึงเรียกเจ้าตามชื่อของเจ้า
 เราให้นามสกุลเจ้า แม้เจ้าไม่รู้จักเรา 5เราคือยาห์เวห์ และไม่มีผู้อื่นอีก
 นอกจากเรา ไม่มีพระเจ้า
 เราคาดอาวุธให้เจ้า แม้เจ้าไม่รู้จักเรา
6เพื่อว่าคนจะรู้ตั้งแต่ที่ตะวันขึ้น
 และจากที่ตะวันตกว่าไม่มีใครนอกจากเรา
 เราคือยาห์เวห์ และไม่มีผู้อื่นอีก
7เราปั้นความสว่างและสร้างความมืด
 เราทำให้เกิดสวัสดิภาพและสร้างความวิบัติ
 เราคือยาห์เวห์ ผู้ทำสิ่งทั้งหมดนี้
8“โอ ฟ้าสวรรค์เอ๋ย จงโปรยฝนมาจากเบื้องบน
 และให้ท้องฟ้าหลั่งความชอบธรรมลงมา
ให้แผ่นดินโลกเปิดออก และความรอดงอกเงยขึ้น
 และให้ความชอบธรรมงอกขึ้นมาด้วย
 เรา คือยาห์เวห์ผู้ได้สร้างมัน
9“วิบัติแก่ผู้ซึ่งสู้กับผู้ปั้นตัวเขา
 แก่หม้อดินอันหนึ่งในบรรดาหม้อดินของแผ่นดิน
ดินเหนียวจะพูดกับผู้ปั้นมันว่า ‘ท่านกำลังทำอะไร’ เช่นนั้นหรือ?
 หรือพูดว่า ‘ผลงานของท่านไม่มีหูหิ้ว’ อย่างนั้นหรือ?
10วิบัติแก่ผู้พูดกับบิดาว่า ‘ท่านให้กำเนิดอะไร?’
 หรือพูดกับผู้หญิงว่า ‘เธอคลอดอะไร?’ ”
11พระยาห์เวห์ องค์บริสุทธิ์ของอิสราเอล
 พระผู้ปั้นเขาตรัสดังนี้ว่า
“เจ้าถามเราเรื่องที่จะมาภายหน้าเกี่ยวกับลูกหลานของเรา
 และเกี่ยวกับการงานของมือเรา เจ้าจะสั่งเราเชียวหรือ?
12เราเองสร้างแผ่นดินโลก  และเนรมิตมนุษย์บนนั้น
เราเองขึงฟ้าสวรรค์ด้วยมือของเรา
 และเราบัญชาบริวารทั้งหมดของมัน
13เราเร่งเร้าผู้นั้นด้วยความชอบธรรม
 และทำทางทั้งหมดของเขาให้ตรง
เขาจะสร้างนครของเรา
 และให้เชลยของเราเป็นอิสระ
โดยไม่มีค่าจ้างหรือรางวัล”
 พระยาห์เวห์จอมทัพตรัสดังนี้แหละ 14พระยาห์เวห์ตรัสดังนี้ว่า
 “ทรัพย์สมบัติของอียิปต์และสินค้าของชาวคูช
ทั้งของชาวเสบาคนร่างสูง
 จะมาหาเจ้าและเป็นของเจ้า
พวกเขาจะเดินตามหลังเจ้า
 เขาจะมาหาพร้อมตรวนและกราบเจ้า
พวกเขาจะวิงวอนเจ้าว่า
 ‘พระเจ้าสถิตกับท่านแน่แล้ว และไม่มีอื่นใดอีก
 ไม่มีพระเจ้าอื่นใด’ ”
15แท้จริงพระองค์ทรงเป็นพระเจ้าผู้ทรงซ่อนพระองค์เอง
 ข้าแต่พระเจ้าแห่งอิสราเอลพระผู้ช่วยให้รอด
16พวกเขาต้องอับอายและขายหน้าทุกคน
 ผู้สร้างรูปเคารพก็ออกไปด้วยความอดสูพร้อมกัน
17แต่อิสราเอลจะได้รับการช่วยกู้จากพระยาห์เวห์
 ด้วยความรอดเนืองนิตย์
พวกท่านจะไม่อับอายหรือถูกทำให้ขายหน้า
 ตลอดไปเป็นนิตย์
18เพราะพระยาห์เวห์ ผู้ทรงสร้างฟ้าสวรรค์
 (พระองค์คือพระเจ้า)
ผู้ทรงปั้นแผ่นดินโลกและทำมันไว้
 (พระองค์ทรงสถาปนามันไว้
พระองค์ไม่ได้ทรงสร้างมันให้ว่างเปล่า
 พระองค์ทรงปั้นมันไว้ให้มีคนอาศัย) ตรัสดังนี้ว่า
 “เราคือยาห์เวห์ และไม่มีผู้อื่นอีก
19เราไม่ได้พูดในที่ลี้ลับ
 หรือในแผ่นดินมืด
เราไม่ได้พูดกับพงศ์พันธุ์ของยาโคบว่า
 ‘จงแสวงหาเราในความว่างเปล่า’
เราคือยาห์เวห์ ผู้พูดความจริง
 เราแจ้งสิ่งที่ถูกต้อง
 พวกรูปเคารพช่วยบาบิโลนไม่ได้
20“จงรวมตัว และเข้ามา
 จงมาใกล้พร้อมกัน พวกเจ้าผู้รอดตาย
เขาทั้งหลายไม่มีความรู้
 คือพวกเขาที่ยกรูปเคารพไม้ของเขาไป
และอธิษฐานขอต่อพระ
 ที่ช่วยเขาให้รอดไม่ได้
21จงแจ้งเรื่องและนำเข้ามาใกล้
 เออ ให้เขาทั้งหลายปรึกษาหารือกัน
ใครเล่าสิ่งนี้ให้ฟังล่วงหน้านานแล้ว?
 ใครแจ้งให้ทราบตั้งแต่อดีตกาล?
คือเราเอง ยาห์เวห์ไม่ใช่หรือ?
 นอกจากเรา ไม่มีพระเจ้าอื่นอีก
พระเจ้าผู้ชอบธรรมและช่วยให้รอด
 นอกจากเราไม่มีผู้อื่น
22“ที่สุดปลายแผ่นดินโลกทุกแห่ง
 จงหันมาหาเราและรับความรอด
 เพราะเราเป็นพระเจ้า และไม่มีผู้อื่น
23เราปฏิญาณโดยตัวเราเอง
 จากปากชอบธรรมของเรา
ถ้อยคำได้ออกไป และจะไม่หวนกลับมา
 ว่า ‘ทุกเข่าจะกราบลงต่อเรา
 และทุกลิ้นจะปฏิญาณต่อเรา’
24“เขาจะพูดถึงเราว่า ‘แท้จริงในพระยาห์เวห์
 มีความชอบธรรมและอานุภาพ
ทุกคนที่แค้นเคืองพระองค์
 จะมาหาพระองค์และอับอาย’
25ในพระยาห์เวห์ พงศ์พันธุ์ทั้งหมดของอิสราเอล
 จะมีความชอบธรรมและรับการสรรเสริญ”

อิสยาห์ 46

1พระเบลก้มต่ำลง พระเนโบก็ค้อมตัวลง
 รูปเคารพของพระเหล่านี้อยู่บนสัตว์และบนวัว
สิ่งที่พวกเจ้าแบกอยู่ก็หนักหนา
 เป็นภาระบนสัตว์ที่เหนื่อยอ่อน
2พวกมันค้อมตัวลงและก้มต่ำลงด้วยกัน
 พระเหล่านั้นช่วยกู้ภาระนั้นไม่ได้
 พวกมันเองก็ตกไปเป็นเชลย
3โอ วงศ์วานของยาโคบเอ๋ย จงฟังเรา
 และทุกคนที่เหลืออยู่ในวงศ์วานของอิสราเอล
ผู้ซึ่งเราอุ้มมาตั้งแต่เกิด
 แบกมาตั้งแต่อยู่ในครรภ์
4จนกระทั่งเจ้าแก่ เราก็คือผู้นั้น
 เราจะอุ้มชูเจ้าจนเจ้าผมหงอก เราได้สร้าง เราจะแบกไว้
 เราจะอุ้มชูและเราจะช่วยกู้
5เจ้าจะเปรียบเราเหมือนผู้ใด? และให้เราเท่าเทียมกับใคร?
 หรือเปรียบเทียบใครเป็นเหมือนเรา?
6พวกที่โกยทองคำออกจากถุง
 และชั่งเงินในตาชั่ง
พวกเขาจ้างช่างทองคนหนึ่ง และทำให้เป็นพระ
 แล้วเขาทั้งหลายก็กราบลง เออ นมัสการเลย
7เขาทั้งหลายยกรูปนั้นขึ้นบ่าแล้วแบกไป
 พวกเขาตั้งมันไว้ประจำที่ และมันก็อยู่ที่นั่น
มันไม่สามารถไปจากที่นั้น
 เมื่อคนมาร้องขอต่อรูปนั้น มันก็ไม่สามารถตอบสนอง
 และไม่อาจช่วยเขาให้รอดจากความยากลำบากของเขา
8จงจำข้อนี้ไว้และตั้งมั่นคง
 เจ้าพวกคนทรยศ จงคิดคำนึงไว้ในใจ
9จงจำสิ่งที่ล่วงเลยมานานแล้ว
 เพราะเราเป็นพระเจ้า และไม่มีผู้อื่นอีก
 เราเป็นพระเจ้า และไม่มีใครเป็นเหมือนเรา
10ผู้แจ้งตอนจบให้ทราบตั้งแต่เริ่มต้น
 และแจ้งสิ่งที่ยังไม่ได้ทำนั้นให้ทราบตั้งแต่อดีตกาล
ทั้งกล่าวว่า ‘แผนงานของเราจะยั่งยืน
 และเราจะทำทุกสิ่งตามความประสงค์ของเรา’ 11เราเรียกเหยี่ยวมาจากตะวันออก
 คือคนที่ทำตามแผนงานของเราจากแดนไกล
เออ เราพูดแล้ว เราจะให้มันเป็นไป
 เรามุ่งหมายไว้แล้ว และเราจะทำ
12จงฟังเรา เจ้าทั้งหลายผู้มีใจดื้อดึง
 เจ้าผู้ห่างไกลจากความชอบธรรม
13เราจะนำความชอบธรรมของเรามาใกล้ มันไม่ไกลเลย
 และความรอดของเราจะไม่ชักช้า
เราจะให้ความรอดในศิโยน
 และให้ศักดิ์ศรีของเราแก่อิสราเอล

อรรถาธิบาย

บอกถึงข่าวดีแห่งเสรีภาพ

ความรักของพระเจ้าขยายไปถึงทุกคน และชนทุกชาติ นับตั้งแต่ตอนเริ่มตั้งครรภ์ ส่วนหนึ่งของแผนการดั้งเดิมในการเลือกอิสราเอลคือที่พวกเขาจะนำพระพรของพระองค์มาสู่คนทั้งปวง (ปฐมกาล 12:3)

พระเจ้าเป็นพระผู้สร้างฟ้าสวรรณ์และแผ่นดินโลก พระองค์เป็นพระผู้สร้างของคุณ ไม่มีพระอื่นใด พระธรรมอิสยาห์ย้ำเรื่องนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าเพื่อเน้นย้ำ กว่าสิบครั้งที่พระธรรมตอนนี้กล่าวว่า: 'ไม่มีผู้อื่นอีก'

พระเจ้าเป็นพระผู้สร้างของคุณ พระองค์ทรง ‘ปั้นเจ้าตั้งแต่ในครรภ์’ (อิสยาห์ 44:24) ความรักของพระเจ้ามีมาตั้งแต่ก่อนการตั้งครรภ์และอยู่ในครรภ์ ประเด็นนี้มีความหมายอย่างลึกซึ้งต่อการอภิปรายเกี่ยวกับการทำแท้งและวิธีที่เราปฏิบัติต่อทารกในครรภ์ มนุษย์ทุกคน ตั้งแต่เริ่มตั้งครรภ์ก็ถูกสร้างขึ้นและดำรงอยู่โดยพระเจ้า ‘ผู้ซึ่งเราอุ้ม (เจ้า) มาตั้งแต่เกิด แบกมาตั้งแต่อยู่ในครรภ์’ (46:3ข)

ความรักของพระเจ้าขยายออกไปนอกอิสราเอล ไปยังชนทุกชาติเช่นกัน เนื่องจากพระองค์ทรงเป็นผู้สร้างสรรพสิ่งทั้งปวง พระเจ้าจึงทรงเชื้อเชิญให้ทุกประชาชาติเข้าสู่ความรอด และได้รับเสรีภาพ: ‘ดังนั้นจงหันมาหาเราและรับความช่วยเหลือ รับความรอด! ทุกคน ไม่ว่าเจ้าจะอยู่ที่ไหนก็ตาม’ (45:22ก, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้ แปล) นี่คือพระสัญญาถึงเสรีภาพที่ยิ่งใหญ่กว่าที่โลกสามารถให้ได้

ที่นี่ เราได้เห็นคนทั้งโลกก้มลงต่อหน้าพระเยซู ‘ทุกเข่าจะกราบลงต่อเรา และทุกลิ้นจะปฏิญาณต่อเรา’ (ข้อ 23ข) อาจารย์เปาโลอ้างถึงข้อนี้ว่ากล่าวถึงพระเยซู (ฟีลิปปี 2:9 เป็นต้นไป)

นี่เป็นการคาดการณ์ล่วงหน้าเช่นกันว่าพระเจ้าจะทรงใช้คนที่เป็น ‘คนต่างชาติ’ ซึ่งไม่ใช่คนยิว ไซรัสเป็นชาวเปอร์เซียและยังถูกบรรยายไว้ที่นี่ว่าเป็นผู้ได้รับการเจิมจากพระเจ้า (อิสยาห์ 45:1) อิสยาห์พยากรณ์ว่า ‘เราเร่งเร้าผู้นั้นด้วยความชอบธรรม และทำทางทั้งหมดของเขาให้ตรง เขาจะสร้างนครของเรา และให้เชลยของเราเป็นอิสระ’ (ข้อ 13) คำพยากรณ์นี้สำเร็จเมื่อการกวาดต้อนเป็นเชลยมาถึงจุดจบโดยมือของไซรัส

นี่คือแผนการของพระเจ้า พระองค์ตรัสว่า ‘ผู้แจ้งตอนจบให้ทราบตั้งแต่เริ่มต้น และแจ้งสิ่งที่ยังไม่ได้ทำนั้นให้ทราบตั้งแต่อดีตกาล ทั้งกล่าวว่า ‘แผนงานของเราจะยั่งยืน และเราจะทำทุกสิ่งตามความประสงค์ของเรา เราเรียกเหยี่ยวมาจากตะวันออก คือคนที่ทำตามแผนงานของเราจากแดนไกล เออ เราพูดแล้ว เราจะให้มันเป็นไป เรามุ่งหมายไว้แล้ว และเราจะทำ’ (46:10ข-11) คุณสามารถมั่นใจได้ว่าไม่มีสิ่งใดมาขัดขวางพระประสงค์ของพระเจ้าสำหรับคุณได้

คำอธิษฐาน

ข้าแต่พระเจ้า ขอบพระคุณที่ตั้งแต่เริ่มตั้งครรภ์ พระองค์ทรงรักทุกคนโดยไม่คำนึงถึงเชื้อชาติหรือความเป็นมา ขอบพระคุณที่พระเยซูปลดปล่อยเราให้เป็นอิสระ และวันหนึ่ง ทุกเข่าจะคุกเข่าลง และทุกลิ้นจะสารภาพว่าพระเยซูคริสต์ทรงเป็นพระเจ้า

เพิ่มเติมโดยพิพพา

กาลาเทีย 5:1

‘เพื่อเสรีภาพนั้นเองพระคริสต์จึงได้ทรงให้เราเป็นไท เพราะฉะนั้น จงตั้งมั่น และอย่าเข้าเทียมแอกของการเป็นทาสอีกเลย’

มันเป็นความจริงอันยอดเยี่ยม พระคริสต์ปลดปล่อยเราให้เป็นอิสระจากความบาป การถูกจองจำเสพติด ความกลัว และนิสัยที่ไม่ดี ฉันทราบดีถึงเสรีภาพด้วยตัวเองและได้เห็นคนอื่นอีกมากมายเปลี่ยนแปลงไปโดยสิ้นเชิงตามความจริงในข้อพระคัมภีร์นี้ จากนี้ไปเราต้องเดินด้วยเสรีภาพนั้นต่อไป ไม่ถูกล่อลวงกลับไปสู่นิสัยเดิม ๆ แต่ให้อ้างสิทธิในเสรีภาพของพระคริสต์และฤทธิ์อำนาจแห่งกางเขนเรื่อยไป

ข้อพระคำประจำวัน

อิสยาห์ 46:4

'จนกระทั่งเจ้าแก่ เราก็คือผู้นั้น
 เราจะอุ้มชูเจ้าจนเจ้าผมหงอก
เราได้สร้าง เราจะแบกไว้
 เราจะอุ้มชูและเราจะช่วยกู้’

reader

App

Download the Bible in One Year app for iOS or Android devices and read along each day.

reader

อีเมล

Sign up now to receive Bible in One Year in your inbox each morning. You’ll get one email each day.

reader

เว็บไซต์

Subscribe and listen to Bible in One Year delivered to your favourite podcast app everyday.

การอ้างอิง

ข้อพระคัมภีร์อ้างอิงมาจากพระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 2011 สงวนสิทธิ์โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย (ยกเว้นข้อที่ระบุว่าเป็นฉบับอื่น)

เว็บไซต์นี้จัดเก็บข้อมูล เช่น คุกกี้ เพื่อเปิดใช้งานฟังก์ชั่นและการวิเคราะห์ที่จำเป็นเท่านั้น ดูเพิ่มเติม