วัน 77

พระผู้ช่วยให้รอด

ปัญญานิพนธ์ สดุดี 35:1-10
พันธสัญญาใหม่ ลูกา 2:21-40
พันธสัญญาเดิม กันดารวิถี 7:1-65

เกริ่นนำ

โลกกำลังต้องการพระผู้ช่วยให้รอด ไลทส์ ศิลปินหญิงชาวแคนาดาถ่ายทอดในเนื้อเพลงของเธอ ที่ชื่อว่า ‘ผู้ช่วยให้รอด’ (‘Saviour’)

‘ค่ำคืนนี้ที่แสนอึกทึก
เมื่อความสงบเงียบกำลังฟัง
ฉันคุกเข่าลง
และฉันรู้ว่ามี บางอย่างหายไป...

ไม่ช้าก็เร็ว...ฉันต้องการผู้ช่วยให้รอด
ฉันต้องการผู้ช่วยชีวิต...

‘เลเคร’ (มัวร์) แร็ปเปอร์ ผู้บริหาร โปรดิวเซอร์เพลง ผู้บริหารค่ายเพลงและนักแสดง ได้พูดแทนพวกเราหลายคนว่า ‘ผมไม่ได้เป็นคริสเตียนเพราะผมเข้มแข็งและมีทุกอย่าง แต่ผมเป็นคริสเตียนเพราะผมอ่อนแอ และยอมรับว่าผมต้องการพระผู้ช่วยให้รอด

ความจริงที่น่าตื่นตาตื่นใจของคริสต์ศาสนิกชนคือ ในพระเยซู คุณมีพระผู้ช่วยให้รอด แล้วคุณควรตอบสนองต่อข่าวดีที่พิเศษนี้อย่างไร?

ปัญญานิพนธ์

สดุดี 35:1-10

คำอธิษฐานขอทรงช่วยให้พ้นจากศัตรู

ของดาวิด

1ข้าแต่พระยาห์เวห์ ขอทรงสู้ผู้ที่สู้กับข้าพระองค์
 ขอทรงรบกับผู้ที่รบกับข้าพระองค์
2ขอทรงถือดั้ง และโล่
 และทรงลุกขึ้นช่วยข้าพระองค์
3ขอทรงกวัดแกว่งหอกและขวานศึก
 สกัดผู้ไล่ล่าข้าพระองค์
ขอตรัสกับจิตใจของข้าพระองค์ว่า
 “เราเป็นความรอดของเจ้า”
4ผู้ที่จ้องเอาชีวิตข้าพระองค์นั้น
 ขอทรงให้พวกเขาอับอายและขายหน้า
ผู้ที่วางแผนทำร้ายข้าพระองค์นั้น
 ขอทรงให้พวกเขากลับไปและอดสู
5ให้เขาทั้งหลายเป็นเหมือนแกลบต่อหน้าลม
 โดยมีทูตของพระยาห์เวห์ขับไล่เขาไป
6ขอให้ทางของพวกเขามืดและลื่น
 มีทูตของพระยาห์เวห์ไล่ตามเขาไป
7เพราะพวกเขาซ่อนตาข่ายดักข้าพระองค์โดยไร้เหตุผล
 เขาขุดหลุมพรางเอาชีวิตข้าพระองค์โดยไร้เหตุผล
8ขอให้ความพินาศมาถึงพวกเขาโดยไม่ทันรู้ตัว
 และขอให้ตาข่ายที่เขาซ่อนไว้นั้นดักจับเขาเอง
 และให้เขาติดข่ายถึงความพินาศเอง
9แล้วจิตใจของข้าพระองค์จะเปรมปรีดิ์ในพระยาห์เวห์
 ปีติยินดีอยู่ในการช่วยกู้ของพระองค์
10กระดูกทุกชิ้นของข้าพระองค์จะกล่าวว่า
 “ข้าแต่พระยาห์เวห์ ผู้ใดเล่าเหมือนพระองค์?
พระองค์ผู้ทรงช่วยกู้คนอ่อนแอให้พ้นจากคนที่แข็งแรงกว่าเขา
 และทรงช่วยกู้คนอ่อนแอและคนขัดสนให้พ้นจากผู้ที่ปล้นเขา”

อรรถาธิบาย

ร้องหาพระเจ้าพระผู้ช่วยให้รอดของคุณ

คุณสามารถร้องเรียกหาพระเจ้าเพื่อขอความช่วยเหลือได้ตลอดเวลา

ชีวิตคือการต่อสู้ ถ้าเราโบกธงของพระเจ้า ย่อมมีคนที่จะออกมาสู้กับเรา ดาวิดอธิษฐานขอให้พระเจ้าต่อสู้กับคนที่ต่อสู้กับเขา (ข้อ 1ก)

เขาอธิษฐานว่า ‘ขอทรงรบกับผู้ที่รบกับข้าพระองค์ ... ทรงลุกขึ้นช่วยข้าพระองค์ ... ขอตรัสกับจิตใจของข้าพระองค์ว่า “เราเป็นความรอดของเจ้า"' (ข้อ 1ข–3) หรือในพระคัมภีร์ฉบับ The Message กล่าวไว้ว่า ‘ให้ความมั่นใจกับข้าพระองค์ ให้ข้าพระองค์ได้ยินพระองค์ตรัสว่า“เราจะช่วยเจ้า”’ (ข้อ 3, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)

เมื่อคุณถูกโจมตี เป็นเรื่องง่ายที่จะรู้สึกว่านั่นเป็นความผิดของคุณ แต่ดาวิดย้ำถึงสองครั้งว่า ความปรารถนาของพวกเขาที่จะดักจับเขานั้น ‘ไร้เหตุผล’ (ข้อ 7) บางครั้งคุณอาจเผชิญกับการต่อต้านไม่ใช่เพราะคุณทำอะไรผิด แต่เป็นเพราะคุณทำสิ่งที่ถูกต้อง ดาวิดอธิษฐานต่อพระเจ้าเพื่อทูลขอความช่วยเหลือ ‘แล้วจิตใจของข้าพระองค์จะเปรมปรีดิ์ในพระยาเวห์ ปีติยินดีอยู่ในการช่วยกู้ของพระองค์’ (ข้อ 9)

ศัตรูของคุณอาจแข็งแกร่งกว่าคุณ ดาวิดต้องเผชิญกับ ‘ผู้ที่จ้องเอาชีวิต’ ‘คนพาล’ และ ‘อันธพาล’ ที่มุ่งเอาชีวิต (ข้อ 1,4, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) แต่พระเจ้าคือพระผู้ช่วยให้รอดที่ช่วยชีวิตและ ‘ปกป้องผู้ที่อ่อนแอ’ (ข้อ 10ข, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)

การทรงช่วยเหลืออย่างที่สุดของพระเจ้าคือความรอดที่อยู่ในพระเยซู ผมชอบบทเพลงที่เขียนโดย เบ็น ฟิลดิงและ รูเบน มอร์แกน ที่เฉลิมฉลองความรอดนี้ ให้เราใช้คำเหล่านี้เป็นการอธิษฐานและนมัสการด้วยกัน:

คำอธิษฐาน

องค์พระผู้ไถ่ ภูเขาใหญ่ พระองค์ทรงเคลื่อนได้ พระเจ้าทรงช่วยให้รอดบาป พระองค์ช่วยให้รอดบาป ชั่วนิรันดร์ พระองค์ตายไถ่บาป ทรงฟื้นจากตายและมีชัย ชัยชนะเหนือความตาย
พันธสัญญาใหม่

ลูกา 2:21-40

 21หลังจากครบแปดวันซึ่งเป็นวันที่จะให้พระกุมารนั้นเข้าสุหนัต เขาจึงให้นามว่าเยซู ดังที่ทูตสวรรค์กล่าวไว้ก่อนจะปฏิสนธิในครรภ์

การถวายพระกุมารเยซูในพระวิหาร

 22เมื่อถึงเวลาทำพิธีชำระตัวตามธรรมบัญญัติของโมเสส บิดามารดาจึงนำพระกุมารไปยังกรุงเยรูซาเล็มเพื่อถวายแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า 23ตามที่เขียนไว้แล้วในธรรมบัญญัติขององค์พระผู้เป็นเจ้าว่า “บุตรชายหัวปีทุกคนจะต้องเป็นบุตรที่ถวายแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า” 24แล้วพวกเขาก็ถวายเครื่องบูชาตามที่ตรัสสั่งไว้แล้วในธรรมบัญญัติขององค์พระผู้เป็นเจ้า คือนกเขาคู่หนึ่ง หรือนกพิราบหนุ่มสองตัว 25มีชายคนหนึ่งในกรุงเยรูซาเล็มชื่อสิเมโอน เป็นคนชอบธรรมและยำเกรงพระเจ้า ท่านคอยเวลาที่พวกอิสราเอลจะได้รับการปลอบโยนใจ และพระวิญญาณบริสุทธิ์ก็สถิตกับท่าน 26พระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงสำแดงแก่ท่านว่าท่านจะไม่ตายจนกว่าจะได้เห็นพระคริสต์ขององค์พระผู้เป็นเจ้า 27เมื่อสิเมโอนเข้าไปในบริเวณพระวิหารโดยการทรงนำของพระวิญญาณ และขณะที่บิดามารดานำพระกุมารเยซูเข้าไปเพื่อจะทำต่อพระกุมารตามธรรมเนียมของธรรมบัญญัตินั้น 28สิเมโอนเข้าไปอุ้มพระกุมาร และสรรเสริญพระเจ้าว่า

29“ข้าแต่องค์เจ้านาย บัดนี้ขอทรงให้ทาสของพระองค์ไปเป็นสุข
 ตามพระดำรัสของพระองค์
30เพราะว่าตาของข้าพระองค์ได้เห็นความรอดของพระองค์แล้ว 31ซึ่งพระองค์ทรงจัดเตรียมไว้ต่อหน้าชนชาติทั้งหลาย 32เป็นความสว่างที่ส่องแก่คนต่างชาติ  และเป็นศักดิ์ศรีของพวกอิสราเอลชนชาติของพระองค์”

 33ส่วนบิดามารดาของพระกุมารนั้นก็ประหลาดใจเพราะถ้อยคำที่ท่านกล่าวถึงพระกุมาร 34แล้วสิเมโอนก็อวยพรเขา แล้วกล่าวแก่นางมารีย์มารดาพระกุมารนั้นว่า “นี่แน่ะ พระกุมารนี้ได้รับการเลือกสรรเพื่อเป็นเหตุให้หลายคนในพวกอิสราเอลล้มลงหรือลุกขึ้น และจะเป็นหมายสำคัญที่คนจะปฏิเสธ 35เพื่อที่ว่าความคิดในใจของคนจำนวนมากจะปรากฏแจ้ง ถึงหัวใจของท่านเองก็จะถูกดาบแทงทะลุด้วย”
 36มีผู้เผยพระวจนะหญิงคนหนึ่งชื่ออันนา เป็นบุตรีของฟานูเอลในเผ่าอาเชอร์ นางชรามากแล้ว นางอยู่กับสามีได้เพียงเจ็ดปีหลังจากแต่งงาน 37แล้วก็เป็นม่ายมาจนถึงอายุแปดสิบสี่ปี นางไม่เคยออกไปจากบริเวณพระวิหารเลย แต่อยู่นมัสการถืออดอาหารและอธิษฐานทั้งกลางวันกลางคืน 38ในขณะนั้น ผู้หญิงคนนี้ก็เข้ามาขอบพระคุณพระเจ้าและกล่าวถึงพระกุมารให้คนทั้งหลายที่คอยการทรงไถ่กรุงเยรูซาเล็มฟัง

การกลับไปนาซาเร็ธ

 39เมื่อโยเซฟกับนางมารีย์ทำสิ่งต่างๆ ตามธรรมบัญญัติขององค์พระผู้เป็นเจ้าเสร็จแล้ว จึงกลับไปยังนาซาเร็ธเมืองของตนในแคว้นกาลิลี 40พระกุมารนั้นก็เจริญวัยแข็งแรงขึ้น เต็มเปี่ยมด้วยสติปัญญา และพระคุณของพระเจ้าอยู่กับท่าน

อรรถาธิบาย

มองไปที่พระเยซูผู้เป็นพระผู้ช่วยให้รอดของคุณ

พระเยซูทรงเป็นพระผู้ช่วยให้รอดของโลก ทูตสวรรค์ได้ประกาศการบังเกิดของ ‘พระผู้ช่วยให้รอด’ (2:11) ในพระธรรมตอนนี้เราจะเห็นว่าในวันที่แปดพระกุมารได้รับการขนานนามว่า ‘เยซู’ ซึ่งแปลว่า ‘พระผู้ช่วยให้รอด’ ได้อย่างไร

บิดามารดาของพระองค์พาพระองค์ไปยังกรุงเยรูซาเล็ม ‘เพื่อถวายแด่พระผู้เป็นเจ้า’ และ ‘ถวายเครื่องบูชาตามที่ตรัสสั่งไว้แล้วในธรรมบัญญัติขององค์พระผู้เป็นเจ้า’ (ข้อ 22–24) พระเยซูเป็นผู้เติมเต็มและทรงเป็นเครื่องบูชาสูงสุดที่สำเร็จเป็นจริงตามที่เราได้อ่านในพันธสัญญาเดิม

1.\tมองไปที่พระเยซูเพื่อรับเอาสันติสุข

สิเมโอนอุ้มพระเยซูไว้ในอ้อมแขนของเขาและพูดกับพระเจ้าว่า ‘ตาของข้าพระองค์ได้เห็นความรอดของพระองค์แล้ว’ (ข้อ 30) การเห็นพระเยซูคือการเห็นความรอด การได้เห็นพระเยซูทำให้สิเมโอน ‘เป็นสุข’ (ข้อ 29 ข)

2.\tมองไปที่พระเยซูเพื่อดูว่าพระเจ้าเป็นอย่างไร

พระเยซูเป็นแสงสว่างที่สำแดงองค์พระผู้เป็นเจ้า พระองค์ทรงเป็น ‘ความสว่างที่ส่องแก่คนต่างชาติ’ (ข้อ 32ก) เป็นไปไม่ได้ที่เราจะรู้จักพระเจ้าเว้นแต่พระองค์จะสำแดงพระองค์เองให้เราเห็น แต่พระเจ้าทรงทำเช่นนั้นในพระเยซู พระเยซูทรงสำแดงให้เราเห็นว่าพระเจ้าทรงเป็นเช่นไร พระเยซูตรัสว่า ‘คนที่ได้เห็นเราก็ได้เห็นพระบิดา’ (ยอห์น 14:9) พระเยซูทรงสำแดงความเป็นพระเจ้าอย่างสมบูรณ์กับทุกคน

3.\tมองไปที่พระเยซูสำหรับพระคุณและความจริง

พระเยซูทรงเป็นแสงสว่างที่นำมาซึ่งศักดิ์ศรี: ‘เป็นศักดิ์ศรีของพวกอิสราเอลชนชาติของพระองค์’ (ลูกา 2:32ข) คำว่า ‘ศักดิ์ศรี’ พูดถึงความดีเลิศ ความงดงาม ความยิ่งใหญ่ และความสมบูรณ์แบบของพระเจ้า พระเจ้าทรงสง่าราศี อิสราเอลมีศักดิ์ศรีเพราะพระเจ้าได้ประทับอยู่ท่ามกลางพวกเขา ครั้งแรกในพลับพลากลางทะเลทราย (ตามที่เขียนไว้ในพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาเดิมวันนี้) จากนั้นก็อยู่ในพระวิหารในเยรูซาเล็ม

โดยทางพระเยซู อิสราเอลได้เห็นถึงซึ่งพระสิริของพระเจ้าด้วยความจริงและสมบูรณ์ที่สุด ดังที่ยอห์นเขียนถึงพระเยซูว่า ‘เราเห็นพระสิริของพระองค์ คือพระสิริที่สมกับพระบุตรองค์เดียวของพระบิดา บริบูรณ์ด้วยพระคุณและความจริง’ (ยอห์น 1:14ข) พระเยซูทรงนำสง่าราศีมาสู่อิสราเอลและแก่เรา เพราะพระเยซูคือพระเจ้าที่ทรงประทับอยู่ท่ามกลางเรา

น่าเศร้าที่หลายคนปฏิเสธการสำแดงและพระสิริของพระเจ้าที่เราเห็นในพระเยซู สิเมโอนพยากรณ์เกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า ‘พระกุมารนี้ได้รับการเลือกสรรเพื่อเป็นเหตุให้หลายคนในพวกอิสราเอลล้มลงหรือลุกขึ้น และจะเป็นหมายสำคัญที่คนจะปฏิเสธ เพื่อที่ว่าความคิดในใจของคนจำนวนมากจะปรากฏแจ้ง’ (ลูกา 2:34–35)

การมีสัมพันธภาพที่ใกล้ชิดกับพระเยซูนำมาซึ่งพระพรอันยิ่งใหญ่แต่ก็ต้องทนทุกข์ บางทีคุณอาจมีสมาชิกในครอบครัว เพื่อนสนิท หรือคนอื่นที่คุณใส่ใจที่เป็นปฏิปักษ์กับพระเยซู หรือเพียงแค่ไม่สนใจก็ได้ เมื่อเราเห็นผู้คนปฏิเสธพระเยซู เราจะได้เห็นแค่เพียงเล็กน้อยถ้าเทียบกับสิ่งที่นางมารีย์ต้องประสบนั่นคือ ‘หัวใจของท่านเองก็จะถูกดาบแทงทะลุด้วย’ (ข้อ 35)

ความทุกข์ทรมานอันยิ่งใหญ่นี้ของนางมารีย์คือการจัดเตรียมเพื่ออนาคต ในระหว่างนั้นเธอมีความสุขที่ได้เห็นพระเยซูทรงจำเริญขึ้นและ ‘เข้มแข็ง’ ‘พระองค์ทรงเปี่ยมด้วยสติปัญญาและพระคุณของพระเจ้าอยู่ที่ท่าน’ (ข้อ 40) ‘ปัญญา’ และ ‘พระคุณ’ เป็นลักษณะของพระผู้ช่วยให้รอดที่เราควรนำมาเป็นแบบอย่างในชีวิตของเรา

คำอธิษฐาน

ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงโปรดประทานให้ข้าพระองค์มีสายตาเหมือนสิเมโอน เพื่อได้เห็นความรอดในโลกวันนี้ ขอทรงประทานพระคุณและสติปัญญาสำหรับการตัดสินใจ การพบปะกับผู้คนและการสนทนาทั้งหมดของข้าพระองค์ในวันนี้
พันธสัญญาเดิม

กันดารวิถี 7:1-65

ของถวายจากบรรดาผู้นำ

 1ในวันที่โมเสสจัดตั้งพลับพลาเสร็จนั้น ท่านได้เจิมและถวายพลับพลากับเครื่องใช้ทุกอย่างของพลับพลาให้เป็นของบริสุทธิ์ พร้อมกับแท่นบูชาและเครื่องใช้ทั้งหมดของแท่นด้วย 2แล้วบรรดาผู้นำของคนอิสราเอล หัวหน้าสกุลได้เข้ามาถวายของ(พวกเขาคือผู้นำของเผ่าต่างๆ ผู้ดูแลการขึ้นทะเบียน) 3พวกเขานำของมาถวายแด่พระยาห์เวห์ มีเกวียนประทุนหกเล่มกับโคหกคู่ ผู้นำสองคนนำเกวียนมาด้วยกันหนึ่งเล่มและนำโคมาคนละตัวแล้วถวายที่หน้าพลับพลา 4แล้วพระยาห์เวห์ตรัสกับโมเสสว่า 5“จงรับของเหล่านี้จากเขาทั้งหลายเพื่อใช้ในงานของเต็นท์นัดพบ และจงมอบให้แก่เลวีแต่ละคนตามงานปรนนิบัติของเขา” 6โมเสสจึงนำเกวียนและโคไปมอบให้แก่คนเลวี 7ท่านให้เกวียนสองเล่มกับโคสองคู่แก่บุตรทั้งหลายของเกอร์โชนตามงานปรนนิบัติของเขา 8และเกวียนสี่เล่มกับโคสี่คู่แก่บุตรทั้งหลายของเมรารีตามงานปรนนิบัติของเขาภายใต้การดูแลของอิธามาร์บุตรชายของปุโรหิตอาโรน 9แต่ท่านไม่ได้มอบอะไรให้แก่บุตรทั้งหลายของโคฮาท เพราะงานปรนนิบัติของพวกเขาเป็นการหามสิ่งของบริสุทธิ์ 10และบรรดาผู้นำก็ถวายของเนื่องในการมอบถวายแท่นบูชาในวันทำพิธีเจิมแท่นบูชานั้น พวกเขาต่างถวายของถวายของตนที่หน้าแท่นบูชา 11พระยาห์เวห์ตรัสกับโมเสสว่า “ให้ผู้นำเอาของถวายของเขามาวันละคนในงานมอบถวายแท่นบูชา”
12วันแรก ผู้ที่มาถวายของคือ นาโชนบุตรอัมมีนาดับแห่งเผ่ายูดาห์
 13ของถวายของเขาคือจานเงินใบหนึ่งหนัก 1.5 กิโลกรัม และชามเงินใบหนึ่งหนัก 800 กรัม ตามมาตรฐานของสถานนมัสการ ภาชนะทั้งสองนี้มีแป้งอย่างดีเคล้าน้ำมันบรรจุอยู่เต็มเพื่อเป็นธัญบูชา 14ชามทองคำเล็กใบหนึ่งหนัก 110 กรัม มีเครื่องหอมบรรจุเต็ม 15ลูกโคผู้ตัวหนึ่ง แกะผู้ตัวหนึ่ง และลูกแกะผู้อายุหนึ่งปีตัวหนึ่งเพื่อเป็นเครื่องบูชาเผาทั้งตัว 16แพะผู้ตัวหนึ่งเป็นเครื่องบูชาลบล้างบาป 17โคผู้สองตัว แกะผู้ห้าตัว แพะผู้ห้าตัว และลูกแกะผู้อายุหนึ่งปีห้าตัวเป็นศานติบูชา สิ่งเหล่านี้เป็นของถวายของนาโชนบุตรของอัมมีนาดับ
18วันที่สอง ผู้ที่ถวายคือ นาธันเอลบุตรศุอาร์ ผู้นำของพงศ์พันธุ์อิสสาคาร์
 19เขาถวายของถวายเป็นจานเงินใบหนึ่งหนัก 1.5 กิโลกรัม ชามเงินใบหนึ่งหนัก 800 กรัม ตามมาตรฐานของสถานนมัสการ ภาชนะทั้งสองนี้มีแป้งอย่างดีเคล้าน้ำมันบรรจุเต็มเพื่อเป็นธัญบูชา 20ชามทองคำเล็กใบหนึ่งหนัก 110 กรัม มีเครื่องหอมบรรจุเต็ม 21ลูกโคผู้ตัวหนึ่ง แกะผู้ตัวหนึ่ง และลูกแกะผู้อายุหนึ่งปีตัวหนึ่งเพื่อเป็นเครื่องบูชาเผาทั้งตัว 22แพะผู้ตัวหนึ่งเป็นเครื่องบูชาลบล้างบาป 23โคผู้สองตัว แกะผู้ห้าตัว แพะผู้ห้าตัว และลูกแกะผู้อายุหนึ่งปีห้าตัวเป็นศานติบูชา สิ่งเหล่านี้เป็นของถวายของนาธันเอลบุตรของศุอาร์
24วันที่สาม เอลีอับบุตรเฮโลน ผู้นำของพงศ์พันธุ์เศบูลุน
 25ของถวายของเขาคือ จานเงินใบหนึ่งหนัก 1.5 กิโลกรัม ชามเงินใบหนึ่งหนัก 800 กรัม ตามมาตรฐานของสถานนมัสการ ภาชนะทั้งสองนี้มีแป้งอย่างดีเคล้าน้ำมันบรรจุเต็มเพื่อเป็นธัญบูชา 26ชามทองคำเล็กใบหนึ่งหนัก 110 กรัม มีเครื่องหอมบรรจุเต็ม 27ลูกโคผู้ตัวหนึ่ง แกะผู้ตัวหนึ่ง และลูกแกะผู้อายุหนึ่งปีตัวหนึ่งเพื่อเป็นเครื่องบูชาเผาทั้งตัว 28แพะผู้ตัวหนึ่งเป็นเครื่องบูชาลบล้างบาป 29โคผู้สองตัว แกะผู้ห้าตัว แพะผู้ห้าตัว และลูกแกะผู้อายุหนึ่งปีห้าตัวเป็นศานติบูชา สิ่งเหล่านี้เป็นของถวายของเอลีอับบุตรของเฮโลน
30วันที่สี่ เอลีซูร์บุตรของเชเดเออร์ ผู้นำของพงศ์พันธุ์รูเบน  31ของถวายของเขาคือ จานเงินใบหนึ่งหนัก 1.5 กิโลกรัม ชามเงินใบหนึ่งหนัก 800 กรัม ตามมาตรฐานของสถานนมัสการ ภาชนะทั้งสองนี้มีแป้งอย่างดีเคล้าน้ำมันบรรจุเต็มเพื่อเป็นธัญบูชา 32ชามทองคำเล็กใบหนึ่งหนัก 110 กรัม มีเครื่องหอมบรรจุเต็ม 33ลูกโคผู้ตัวหนึ่ง แกะผู้ตัวหนึ่ง และลูกแกะผู้อายุหนึ่งปีตัวหนึ่งเพื่อเป็นเครื่องบูชาเผาทั้งตัว 34แพะผู้ตัวหนึ่งเป็นเครื่องบูชาลบล้างบาป 35โคผู้สองตัว แกะผู้ห้าตัว แพะผู้ห้าตัว และลูกแกะผู้อายุหนึ่งปีห้าตัวเป็นศานติบูชา สิ่งเหล่านี้เป็นของถวายของเอลีซูร์บุตรของเชเดเออร์
36วันที่ห้า เชลูมิเอลบุตรศุริชัดดัย ผู้นำของพงศ์พันธุ์สิเมโอน
 37ของถวายของเขาคือ จานเงินใบหนึ่งหนัก 1.5 กิโลกรัม ชามเงินใบหนึ่งหนัก 800 กรัม ตามมาตรฐานของสถานนมัสการ ภาชนะทั้งสองนี้มีแป้งอย่างดีเคล้าน้ำมันบรรจุเต็มเพื่อเป็นธัญบูชา 38ชามทองคำเล็กใบหนึ่งหนัก 110 กรัม มีเครื่องหอมบรรจุเต็ม 39ลูกโคผู้ตัวหนึ่ง แกะผู้ตัวหนึ่ง และลูกแกะผู้อายุหนึ่งปีตัวหนึ่งเพื่อเป็นเครื่องบูชาเผาทั้งตัว 40แพะผู้ตัวหนึ่งเป็นเครื่องบูชาลบล้างบาป 41โคผู้สองตัว แกะผู้ห้าตัว แพะผู้ห้าตัว และลูกแกะผู้อายุหนึ่งปีห้าตัวเป็นศานติบูชา สิ่งเหล่านี้เป็นของถวายของเชลูมิเอลบุตรของศุริชัดดัย
42วันที่หก เอลียาสาฟบุตรเดอูเอล ผู้นำของพงศ์พันธุ์กาด
 43ของถวายของเขาคือจานเงินใบหนึ่งหนัก 1.5 กิโลกรัม ชามเงินใบหนึ่งหนัก 800 กรัม ตามมาตรฐานของสถานนมัสการ ภาชนะทั้งสองนี้มีแป้งอย่างดีเคล้าน้ำมันบรรจุเต็มเพื่อเป็นธัญบูชา 44ชามทองคำเล็กใบหนึ่งหนัก 110 กรัม มีเครื่องหอมบรรจุเต็ม 45ลูกโคผู้ตัวหนึ่ง แกะผู้ตัวหนึ่ง และลูกแกะผู้อายุหนึ่งปีตัวหนึ่งเพื่อเป็นเครื่องบูชาเผาทั้งตัว 46แพะผู้ตัวหนึ่งเป็นเครื่องบูชาลบล้างบาป 47โคผู้สองตัว แกะผู้ห้าตัว แพะผู้ห้าตัว และลูกแกะผู้อายุหนึ่งปีห้าตัวเป็นศานติบูชา สิ่งเหล่านี้เป็นของถวายของเอลียาสาฟบุตรของเดอูเอล
48วันที่เจ็ด เอลีชามาบุตรอัมมีฮูด ผู้นำของพงศ์พันธุ์เอฟราอิม
 49ของถวายของเขาคือจานเงินใบหนึ่งหนัก 1.5 กิโลกรัม ชามเงินใบหนึ่งหนัก 800 กรัม ตามมาตรฐานของสถานนมัสการ ภาชนะทั้งสองนี้มีแป้งอย่างดีเคล้าน้ำมันบรรจุเต็มเพื่อเป็นธัญบูชา 50ชามทองคำเล็กใบหนึ่งหนัก 110 กรัม มีเครื่องหอมบรรจุเต็ม 51ลูกโคผู้ตัวหนึ่ง แกะผู้ตัวหนึ่ง และลูกแกะผู้อายุหนึ่งปีตัวหนึ่งเพื่อเป็นเครื่องบูชาเผาทั้งตัว 52แพะผู้ตัวหนึ่งเป็นเครื่องบูชาลบล้างบาป 53โคผู้สองตัว แกะผู้ห้าตัว แพะผู้ห้าตัว และลูกแกะผู้อายุหนึ่งปีห้าตัวเป็นศานติบูชา สิ่งเหล่านี้เป็นของถวายของเอลีชามาบุตรของอัมมีฮูด
54วันที่แปด กามาลิเอลบุตรเปดาซูร์ ผู้นำของพงศ์พันธุ์มนัสเสห์  55ของถวายของเขาคือจานเงินใบหนึ่งหนัก 1.5 กิโลกรัม ชามเงินใบหนึ่งหนัก 800 กรัม ตามมาตรฐานของสถานนมัสการ ภาชนะทั้งสองนี้มีแป้งอย่างดีเคล้าน้ำมันบรรจุเต็มเพื่อเป็นธัญบูชา 56ชามทองคำเล็กใบหนึ่งหนัก 110 กรัม มีเครื่องหอมบรรจุเต็ม 57ลูกโคผู้ตัวหนึ่ง แกะผู้ตัวหนึ่ง และลูกแกะผู้อายุหนึ่งปีตัวหนึ่งเพื่อเป็นเครื่องบูชาเผาทั้งตัว 58แพะผู้ตัวหนึ่งเป็นเครื่องบูชาลบล้างบาป 59โคผู้สองตัว แกะผู้ห้าตัว แพะผู้ห้าตัว และลูกแกะผู้อายุหนึ่งปีห้าตัวเป็นศานติบูชา สิ่งเหล่านี้เป็นของถวายของกามาลิเอลบุตรของเปดาซูร์
60วันที่เก้า อาบีดันบุตรกิเดโอนี ผู้นำของพงศ์พันธุ์เบนยามิน
 61ของถวายของเขาคือจานเงินใบหนึ่งหนัก 1.5 กิโลกรัม ชามเงินใบหนึ่งหนัก 800 กรัม ตามมาตรฐานของสถานนมัสการ ภาชนะทั้งสองนี้มีแป้งอย่างดีเคล้าน้ำมันบรรจุเต็มเพื่อเป็นธัญบูชา 62ชามทองคำเล็กใบหนึ่งหนัก 110 กรัม มีเครื่องหอมบรรจุเต็ม 63ลูกโคผู้ตัวหนึ่ง แกะผู้ตัวหนึ่ง และลูกแกะผู้อายุหนึ่งปีตัวหนึ่งเพื่อเป็นเครื่องบูชาเผาทั้งตัว 64แพะผู้ตัวหนึ่งเป็นเครื่องบูชาลบล้างบาป 65โคผู้สองตัว แกะผู้ห้าตัว แพะผู้ห้าตัว และลูกแกะผู้อายุหนึ่งปีห้าตัวเป็นศานติบูชา สิ่งเหล่านี้เป็นของถวายของอาบีดันบุตรของกิเดโอนี

อรรถาธิบาย

นมัสการพระผู้ช่วยให้รอดของโลก

พ่อแม่มือใหม่หลายคนมีความรู้สึกลึกซึ้งว่า พระผู้เป็นเจ้าทรงประทานลูกน้อยให้กับพวกเขา แต่วันนั้นสำหรับนางมารีย์และโยเซฟ มีอะไรมากกว่านั้นในพระวิหาร เมื่อพวกเขาต้องมอบทารกที่ได้มาอย่างอัศจรรย์ที่พระเจ้าทรงประทานให้กลับคืนสู่พระองค์

การประสูติของพระเยซูพระผู้ช่วยให้รอดเป็นเหตุการณ์สำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์ สิเมโอนอุ้มพระเยซูไว้ในอ้อมแขนและพูดว่า ‘เพราะว่าตาของข้าพระองค์ได้เห็นความรอดของพระองค์แล้ว ซึ่งพระองค์ได้ทรงจัดเตรียมไว้ต่อหน้าบรรดาชนชาติทั้งหลาย’ (ลูกา 2:30–31) อาจจะไม่น่าแปลกใจที่คำพยากรณ์ และการเตรียมการสำหรับการเสด็จมาของพระเยซูนั้น มีรายละเอียดและซับซ้อนมากเป็นพิเศษ

พระธรรมกันดารวิถีตอนนี้ ทำให้เราค้นพบว่ามีการจัดตั้งพลับพลาอย่างไร (กันดารวิถี 7:1 - 10:10) เราอ่านเกี่ยวกับคนแต่ละเผ่าที่ร่วมกันสร้างเพื่อถวายโดยสมัครใจ แต่ละคนนำมาถวายเท่า ๆ กัน ของถวาย เหล่านั้นถูกมอบให้กับพระเจ้า (ผ่านโมเสสผู้รับใช้ของพระองค์) ประชากรทั้งหมดของพระเจ้ามีส่วนร่วมในงานมอบถวายพลับพลา

ในตอนแรกพระธรรมตอนนี้อาจดูเหมือนเป็นเทคนิคที่ไม่ค่อยจำเป็นนักสำหรับผู้อ่านยุคใหม่ กระนั้นการนำ เสนอบรรดาของถวายที่อันล้ำค่าแด่พระเจ้าในพลับพลา (กันดารวิถี 7) สะท้อนให้เห็นภาพอย่างสวยงามใน การถวายพระกุมารเยซูแด่พระเจ้าในวิหาร (ลูกา 2:22) พระธรรมตอนนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่การทำบัญชีเล็กๆน้อยๆในยุคโบราณ

โอกาสสำหรับบของถวายอันล้ำค่าเหล่านี้ คือความสมบูรณ์และการอุทิศตัวเพื่อพลับพลา พลับพลาเป็นสัญลักษณ์ของการประทับของพระเจ้าร่วมกับประชาชนของพระองค์ ประชาชนถวายเพื่อเป็นดั่งการตอบสนองต่อพระคุณของพระเจ้าและการประทับอยู่ท่ามกลางพวกเขา ของถวายของพวกเขาคือ การแสดงออกถึงการนมัสการและการขอบคุณพระผู้ช่วยให้รอด

ในขณะเดียวกันของถวายหล่านี้ก็เป็นส่วนหนึ่งของการเตรียมการสำหรับการถวายพลับพลาครั้งสุดท้าย พวกเขากำลังทำให้เหมาะสมสำหรับการเสด็จมาประทับของพระเจ้า ทั้งการเตรียมการอย่างละเอียดประณีต ของถวายอันล้ำค่าและรายละเอียดที่ผู้เขียนบันทึก สิ่งเหล่านี้ล้วนชี้ให้เห็นถึงพระพรอันน่าอัศจรรย์ที่ชาวอิสราเอลมีองค์พระผู้เป็นเจ้าที่ทรงประทับอยู่ท่ามกลางพวกเขา

เครื่องบูชา และศานติบูชาทั้งสิ้นในธรรมบัญญัติของโมเสสเป็นเพียงการเตรียมการและเงาะสะท้อนล่วงหน้าของการประสูติ และการสิ้นพระชนม์ของพระผู้ช่วยให้รอด พลับพลาชี้ไปข้างหน้าถึงสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่า พระเจ้าไม่ได้ประทับอยู่ในเต็นท์ท่ามกลางเราอีกต่อไป พระองค์ได้มาอยู่ท่ามกลางพวกเราในฐานะพวกเราคนหนึ่ง พระเยซูทรงเป็นเครื่องบูชาที่ถูกถวายแล้วตามธรรมบัญญัติ แต่พระองค์จะทรงดำเนินตามพระประสงค์ของธรรมบัญญัติต่อไปให้สำเร็จ (ข้อ 22–24ก) ‘เมื่อโยเซฟกับนางมารีย์ทำสิ่งต่าง ๆ ตามธรรมบัญญัติขององค์พระผู้เป็นเจ้า...’ (ข้อ 39ก)

หลายปีต่อมาพระเยซู พระผู้ช่วยให้รอดทรงยกเลิกความจำเป็นในการถวายเครื่องบูชาและศานติบูชาทั้งหมดในพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาเดิม โดยการถวายพระกายของพระเยซูคริสต์เพียง ‘ครั้งเดียวเป็นพอ’ (ดู ฮีบรู 10:1–10)

ไม่น่าแปลกใจที่เมื่อสิเมโอนตระหนักว่าพระกุมารในอ้อมแขนของเขาคือพระผู้ช่วยให้รอดของโลก เขา ‘สรรเสริญพระเจ้า’ (ลูกา 2:28) นางอันนาก็ ‘ขอบพระคุณพระเจ้า’ เช่นเดียวกัน (ข้อ 38) พระเยซูพระผู้ช่วยให้รอดเป็นจุดสำคัญของการสรรเสริญและการขอบพระคุณของเราทั้งหมด

ผมชอบอีกบทเพลงนึง ที่เขียนโดย เบ็น แคนเท็นลอน ซึ่งเป็นการตอบสนองที่เหมาะสมในการอธิษฐาน และนมัสการถึงทุกอย่างที่เราได้อ่านในวันนี้เกี่ยวกับพระเยซูผู้ช่วยให้รอด

คำอธิษฐาน

เพราะทรงสร้างหนทางแก่เรา ทำให้เราได้รับความรอด ทรงเป็นพระผู้ช่วยให้รอดของโลกา เราจึงเปล่งเสียงสรรเสริญ เพื่อพระเกียรติและพระสิริ สรรเสริญพระเจ้า สรรเสริญพระเจ้า พระเยซู พระผู้ช่วยให้รอดของโลกา

เพิ่มเติมโดยพิพพา

ลูกา 2:21–40

ไม่มีอะไรที่พ่อแม่จะปลื้มมากไปกว่าการได้ยินว่าลูกของพวกเขาได้รับคำสรรเสริญ พวกเขาคงตื่นเต้นมาก และอาจประหลาดใจเล็กน้อยกับคำพยากรณ์สุดพิเศษของสิเมโอนและนางอันนา แต่ก็ไม่มีอะไรจะเจ็บปวดไปกว่าการเห็นลูกของคุณต้องทนทุกข์ทรมาน ‘หัวใจของท่านเองก็จะถูกดาบแทงทะลุด้วย’ (ข้อ 35ข) พวกเขาต้องผ่านอะไรมากมาย แต่เมื่อภาพรวมเปิดเผยออกมา ทุกอย่างก็คุ้มค่า

ข้อพระคำประจำวัน

ลูกา 2:40

อธิษฐานวันนี้ให้ ‘…เต็มเปี่ยมด้วยสติปัญญาและพระคุณของพระเจ้า…’

reader

App

Download the Bible in One Year app for iOS or Android devices and read along each day.

reader

อีเมล

Sign up now to receive Bible in One Year in your inbox each morning. You’ll get one email each day.

reader

เว็บไซต์

Subscribe and listen to Bible in One Year delivered to your favourite podcast app everyday.

การอ้างอิง

ข้อพระคัมภีร์อ้างอิงมาจากพระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 2011 สงวนสิทธิ์โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย (ยกเว้นข้อที่ระบุว่าเป็นฉบับอื่น)

เว็บไซต์นี้จัดเก็บข้อมูล เช่น คุกกี้ เพื่อเปิดใช้งานฟังก์ชั่นและการวิเคราะห์ที่จำเป็นเท่านั้น ดูเพิ่มเติม