วัน 272

ชีวิตที่คุ้มค่า

ปัญญานิพนธ์ สุภาษิต 23:29-24:4
พันธสัญญาใหม่ ฟีลิปปี 1:1-26
พันธสัญญาเดิม เศฟันยาห์ 1:1-3:20

เกริ่นนำ

'ในอนาคต นักวิทยาศาสตร์อาจจะสามารถยืดอายุขัยได้ แต่จะคุ้มค่าที่จะมีชีวิตอยู่หรือไม่’ ไนเจล ฮอว์คส์ เขียนไว้ในนิตยสาร เดอะ ไทมส์ (The Times)

ศาสตราจารย์อ็อกซ์ฟอร์ดคนหนึ่งอ้างไว้ชัดเจนว่าอีกไม่นานอาจเป็นไปได้ที่จะยืดอายุขัยของผู้คนจำนวนมากจนถึงอายุ 115 ปี แต่ฮอว์คส์ถามอย่างน่าคิดว่า ‘มันจะคุ้มค่าที่จะมีชีวิตอยู่หรือไม่?’ อายุขัยที่เพิ่มขึ้นนั้นมีค่าเพียงเล็กน้อย เว้นเสียแต่ว่ามันคุ้มที่จะดำรงชีวิตอยู่

อัครสาวกเปาโลไม่ได้มองว่าการมีอายุยืนยาวเป็นวัตถุประสงค์หลัก ‘เพราะว่าสำหรับข้าพเจ้า การมีชีวิตอยู่ก็เพื่อพระคริสต์ และการตายก็ได้กำไร’ (ฟิลิปปี 1:21) อันที่จริงเขาถือว่าความตายเป็นสิ่งที่มีค่ายิ่งกว่า พระเยซูทรงทำให้เขาเห็นอย่างลึกซึ้งว่าพระองค์ต่างหากทำให้ชีวิตของเขามีค่าที่จะดำเนินต่อไป

ปัญญานิพนธ์

สุภาษิต 23:29-24:4

29ใครที่ร้องโอย? ใครที่ร้องอุย?
 ใครมีเรื่องวิวาท? ใครบ่นพึมพำ?
ใครมีแผลโดยไม่จำเป็น?
 ใครมีตาแดงก่ำ?
30คือพวกที่นั่งแช่อยู่กับเหล้าองุ่น
 พวกที่ไปลิ้มลองเหล้าประสม
31อย่ามองดูเหล้าองุ่นเมื่อมันมีสีแดง
 เมื่อมันเปล่งประกายในถ้วย
 และมันไหลลงไปอย่างคล่องคอ
32ในที่สุดมันจะกัดเหมือนงู
 และฝังเขี้ยวเหมือนงูทับทาง
33ตาของเจ้าจะเห็นสิ่งแปลกๆ
 และใจของเจ้าจะพูดตลบตะแลง
34เจ้าจะเป็นเหมือนคนที่นอนอยู่ใจกลางทะเล
 อย่างคนที่นอนอยู่บนยอดเสากระโดง
35เจ้าจะว่า“พวกเขาตีข้า แต่ข้าไม่เจ็บ
 พวกเขาทุบข้า แต่ข้าไม่รู้สึก
ข้าจะตื่นเมื่อไรหนอ?
 ข้าจะแสวงหาการดื่มอีก”

สุภาษิต 24

1อย่าอิจฉาคนชั่ว
 หรือปรารถนาอยู่ร่วมกับเขา
2เพราะใจของเขาคิดทำการทารุณ
 และปากของเขาพูดการประทุษร้าย
3โดยปัญญา บ้านจึงถูกสร้างขึ้น
 และโดยความเข้าใจ มันก็ถูกสถาปนาไว้
4โดยความรู้ ห้องทั้งหลายก็เต็มไปด้วย
 ทรัพย์ล้ำค่าและน่าชื่นชมทั้งสิ้น

อรรถาธิบาย

ดำเนินชีวิตในความสัมพันธ์กับพระเจ้า

เบอร์นาร์ด เลวิน นักเขียนคอลัมนิสต์นิตยสาร ไทม์ส อีกคนหนึ่ง พูดถึงการที่เราแต่ละคนมีหลุมอยู่ภายในใจ ไม่ว่าคุณจะพยายามเติมอาหาร เครื่องดื่ม ความสัมพันธ์ ทรัพย์สิน มากแค่ไหน ‘มันยังเจ็บอยู่’ คุณถูกสร้างขึ้นในความสัมพันธ์กับพระเจ้าผ่านทางพระเยซูคริสต์ หากปราศจากความสัมพันธ์นั้น เราก็เจ็บปวด

ผู้คนพยายามเติมหลุมนี้ด้วยสิ่งต่าง ๆ บางคนเติมแอลกอฮอล์ลงไป และถึงแม้การดื่มไวน์จะไม่ผิดอะไร แต่ก็ไม่ได้สนองความกระหายลึกๆ ที่เรามีในใจ

มันดูน่าดึงดูดมาก ‘เมื่อมันเปล่งประกายในถ้วย และมันไหลลงไปอย่างคล่องคอ’ (23:31) อย่างไรก็ตาม หากเราเดินไปตามทางนี้และหมกมุ่นกับมันมากเกินไป ‘ในที่สุดมันจะกัดเหมือนงู และฝังเขี้ยวเหมือนงูทับทาง’ (ข้อ 32) ผู้เขียนบรรยายผลของการมึนเมาได้อรรถรสอย่างยิ่ง: อาการเมาค้าง ปวดศีรษะแทบแตก ท้องไส้ปั่นป่วน เห็นภาพซ้ำซ้อน พูดไม่ชัด (ข้อ 34–35, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) มันนำไปสู่ความเศร้าโศก การทะเลาะวิวาท การบ่น รอยฟกช้ำที่ไม่จำเป็น และดวงตาที่แดงก่ำ (ข้อ 29)

ในทางกลับกัน ผู้เขียนพูดถึงพระพรของปัญญาและความรู้: ความฉลาด การวางแผนเชิงกลยุทธ์ และคำแนะนำที่ดีมากมาย (24:3–4, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) เราจะหาปัญญาและความรู้ดังกล่าวได้จากที่ไหน อัครสาวกเปาโลพูดถึงการรู้จักพระคริสต์ ‘ซึ่งคลังสติปัญญาและความรู้ทุกอย่างซ่อนอยู่ในพระองค์’ (โคโลสี 2:2–3)

คำอธิษฐาน

ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า วันนี้ข้าพระองค์มาหาพระองค์และดื่ม เพื่อว่าแม่น้ำที่มีน้ำดำรงชีวิตจะไหลจากใจของข้าพระองค์
พันธสัญญาใหม่

ฟีลิปปี 1:1-26

การทักทาย

 1เปาโลและทิโมธี ผู้รับใช้ของพระเยซูคริสต์
 เรียน บรรดาธรรมิกชนทุกท่านในพระเยซูคริสต์ซึ่งอยู่ในเมืองฟีลิปปี รวมทั้งบรรดาผู้ปกครองดูแลและมัคนายก
 2ขอให้พระคุณและสันติสุขจากพระเจ้าพระบิดาของเราและจากพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้า จงดำรงอยู่กับท่านทั้งหลายเถิด

คำอธิษฐานของเปาโลเพื่อคริสเตียนที่ฟีลิปปี

 3ข้าพเจ้าขอบพระคุณพระเจ้าทุกครั้งที่ระลึกถึงท่านทั้งหลาย 4และทุกครั้งที่ข้าพเจ้าทูลขอเพื่อท่านทุกคน ก็ทำการทูลขอด้วยความยินดีเสมอ 5เพราะท่านทั้งหลายมีส่วนร่วมในข่าวประเสริฐตั้งแต่วันแรกจนเวลานี้ 6ข้าพเจ้าแน่ใจอย่างนี้ว่าพระองค์ผู้ทรงเริ่มต้นการดีไว้ในพวกท่าน จะทรงทำให้สำเร็จจนถึงวันแห่งพระเยซูคริสต์ 7ที่ข้าพเจ้าคิดอย่างนี้เกี่ยวกับพวกท่านทุกคนก็ถูกต้องแล้ว เพราะว่าท่านมีใจรักข้าพเจ้า เนื่องจากพวกท่านมีส่วนร่วมกับข้าพเจ้าในพระคุณทุกคน ทั้งในการที่ข้าพเจ้าถูกคุมขัง และในการปกป้องและหนุนให้ข่าวประเสริฐตั้งมั่นคง 8เพราะว่าพระเจ้าทรงเป็นพยานให้ข้าพเจ้าได้ว่า ข้าพเจ้าคิดถึงท่านทุกคนเพียงไรตามพระทัยสงสารของพระเยซูคริสต์ 9และข้าพเจ้าอธิษฐานว่าขอให้ความรักของท่านทวียิ่งๆ ขึ้นพร้อมกับความรู้และวิจารณญาณทุกด้าน 10เพื่อท่านทั้งหลายจะสังเกตเห็นได้ว่าสิ่งใดประเสริฐที่สุด เพื่อท่านจะได้เป็นคนบริสุทธิ์ เป็นคนไม่มีที่ติได้ในวันแห่งพระคริสต์ 11และเป็นคนที่เต็มบริบูรณ์ด้วยผลของความชอบธรรมซึ่งเกิดขึ้นโดยทางพระเยซูคริสต์ เพื่อถวายพระเกียรติและการยกย่องแด่พระเจ้า

สำหรับเปาโลนั้นการมีชีวิตอยู่ก็เพื่อพระคริสต์

 12พี่น้องทั้งหลาย ข้าพเจ้าปรารถนาให้ท่านรู้ว่า สิ่งที่เกิดขึ้นกับข้าพเจ้านั้น ได้กลับเป็นเหตุให้ข่าวประเสริฐแผ่ขยายออกไป 13ฉะนั้นจึงเป็นที่รู้กันในหมู่ผู้คุมประจำกองบัญชาการทั้งหมดและคนอื่นๆ ทุกคนว่า การที่ข้าพเจ้าถูกคุมขังนั้น ก็เพื่อพระคริสต์ 14และพี่น้องส่วนมากก็เกิดความมั่นใจในองค์พระผู้เป็นเจ้าจากการที่ข้าพเจ้าถูกคุมขัง และพวกเขามีความกล้ามากขึ้นที่จะกล่าวพระวจนะโดยปราศจากความกลัว
15จริงอยู่ที่มีบางคนประกาศพระคริสต์ด้วยความอิจฉาและการวิวาท แต่ก็มีบางคนที่ประกาศด้วยเจตนาดี 16ฝ่ายหนึ่งประกาศด้วยความรัก โดยรู้ว่าข้าพเจ้าได้รับการแต่งตั้งไว้ให้กล่าวปกป้องข่าวประเสริฐนั้น 17แต่อีกฝ่ายหนึ่งประกาศพระคริสต์ด้วยการชิงดีกัน ไม่ใช่ด้วยความบริสุทธิ์ใจ จงใจจะเพิ่มความยากลำบากแก่ข้าพเจ้าในระหว่างถูกคุมขัง 18แต่จะเป็นอะไรไปล่ะ ไม่ว่าจะประกาศด้วยการเสแสร้งหรือด้วยความจริงใจ พระคริสต์ก็ถูกประกาศไปในทุกที่ เรื่องนี้แหละที่ทำให้ข้าพเจ้ายินดี และข้าพเจ้ายังจะมีความยินดีต่อไปด้วย 19เพราะข้าพเจ้ารู้ว่าโดยการทูลขอของท่านทั้งหลาย และโดยการช่วยเหลือของพระวิญญาณของพระเยซูคริสต์ สิ่งนี้จะเป็นเหตุให้ข้าพเจ้ารอดพ้น 20ข้าพเจ้าคาดหมายและหวังว่าจะไม่ได้รับความละอายใดๆ เลย แต่โดยความกล้าหาญอย่างยิ่ง พระคริสต์จะทรงได้รับการยกย่องสรรเสริญในร่างกายของข้าพเจ้าในเวลานี้ดังเช่นที่เคยได้ตลอดมา ไม่ว่าจะโดยชีวิตหรือความตาย 21เพราะว่าสำหรับข้าพเจ้า การมีชีวิตอยู่ก็เพื่อพระคริสต์ และการตายก็ได้กำไร 22ถ้าข้าพเจ้ายังจะมีชีวิตอยู่ในร่างกาย ข้าพเจ้าก็จะทำงานให้เกิดผล แต่ข้าพเจ้าไม่รู้ว่าจะเลือกฝ่ายไหน 23ข้าพเจ้าลำบากใจระหว่างสองฝ่ายนี้ คือว่า ข้าพเจ้ามีความปรารถนาจะจากไปเพื่ออยู่กับพระคริสต์ ซึ่งประเสริฐกว่ามากนัก 24แต่การที่ยังอยู่ในร่างกายนี้ก็จำเป็นมากกว่าสำหรับพวกท่าน 25เมื่อแน่ใจอย่างนี้แล้ว ข้าพเจ้าก็รู้ว่าข้าพเจ้าจะยังอยู่ คืออยู่กับท่านทุกคนเพื่อความเจริญและความชื่นชมยินดีในความเชื่อของท่านทั้งหลาย 26เพื่อที่ว่าความภูมิใจในตัวข้าพเจ้าของพวกท่านจะทวีขึ้นในพระเยซูคริสต์ เพราะว่าข้าพเจ้าจะมาหาอีกครั้ง

อรรถาธิบาย

สร้างความแตกต่างให้กับชีวิตของผู้อื่น

คุณต้องการให้สถานการณ์ของคุณแตกต่างออกไปหรือไม่?

หากคุณกำลังเผชิญกับความท้าทายหรือความยากลำบาก จงได้รับการหนุนใจจากข้อเท็จจริงที่ว่าคุณสามารถเป็นประโยชน์ได้ท่ามกลางการต่อสู้ดิ้นรนของคุณ พระเจ้าสามารถทำงานผ่านคุณในแบบที่คุณคาดไม่ถึง

เปาโลเขียนจดหมายฉบับนี้ขณะถูกกักอยู่ในบ้านที่กรุงโรม คุมขังโดยทหารโรมัน ถูกล่ามโซ่ยาวสามฟุตในสภาพที่แย่มาก และกำลังรอการพิจารณาคดีและเป็นไปได้ว่าจะถูกประหารชีวิต กระนั้น อาจารย์เปาโลเชื่อว่าชีวิตของเขาในพระคริสต์หมายถึง ‘การงานที่เกิดผล' สำหรับเขา (ข้อ 22)

เมื่อเปาโลพูดว่า ‘ข้าพเจ้ามีใจรักท่าน’ (ข้อ 7) เขากำลังสำแดงความรักอย่างสุดซึ้งต่อชาวฟีลิปปี ทั้งยังได้พูดถึงการมี ‘ส่วนร่วมในข่าวประเสริฐ’ ของชาวฟีลิปปี (ข้อ 5) และตอนนี้เขาพูดถึงการแบ่งปันพระคุณของพระเจ้ากับชาวฟีลิปปี (ข้อ 7) มีความผูกพันใกล้ชิดระหว่างผู้ที่ทำงานร่วมกันเพื่อพระเยซูคริสต์ มีความผูกพันใกล้ชิดยิ่งขึ้นไปอีกเมื่อคนหนึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบในการปรับเปลี่ยนของผู้อื่น เปาโลกล่าวว่าตนอยู่กับทุกคนด้วย ‘ตามพระทัยสงสารของพระเยซูคริสต์’ (ข้อ 8)

ในยุคที่โอกาสและทางเลือกแทบไม่มี ผู้คนจำนวนมากกังวลเกินควรว่าจะพลาดจากจุดหมายในชีวิตของพวกเขาหรือก้าวผิด แต่คุณสามารถมั่นใจได้ว่าเนื่องจากพระเจ้าเริ่มต้นการงานที่ดีในตัวคุณ พระองค์จะทรงทำให้สำเร็จ (ข้อ 6) พระเจ้ามักจะทำในสิ่งที่พระองค์เริ่มต้นไว้ให้เสร็จสิ้น

ไม่มีใครในพวกเราที่ไปถึงจุดนั้นแล้ว คุณกำลังอยู่ในกระบวนการ คำอธิษฐานของอาจารย์เปาโลสำหรับชาวฟีลิปปีคือให้พวกเขาเกิดผลมากขึ้น

1. เติบโตในความรัก
อธิษฐานเพื่อผู้อื่นและเพื่อตัวคุณเองว่า ‘ความรักของพวกท่านจะรุ่งเรือง และพวกท่านจะไม่เพียงแค่รักมากเท่านั้นแต่จะรักอย่างดีด้วย’ (ข้อ 9, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)

2. เติบโตในความรู้
อย่าอธิษฐานเพียงเพื่อการเติบโตในความรัก แต่เพื่อว่า ‘ขอให้ความรักของท่านทวียิ่ง ๆ ขึ้นพร้อมกับความรู้และวิจารณญาณทุกด้าน เพื่อท่านทั้งหลายจะสังเกตเห็นได้ว่าสิ่งใดประเสริฐที่สุด’ (ข้อ 9–10) ความรักเป็นมากกว่าประสบการณ์ทางอารมณ์ ‘จริงใจและเฉลียวฉลาด ไม่ใช่อารมณ์แปรปรวน’ (ข้อ 10, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)

3. เติบโตในความบริสุทธิ์
เปาโลอธิษฐานว่าพวกเขา ‘จะได้เป็นคนบริสุทธิ์ เป็นคนไม่มีที่ติ’ (ข้อ 10) คำว่า ‘บริสุทธิ์’ อธิบายถึงความบริสุทธิ์ภายในซึ่งแม้แต่แรงจูงใจของเราก็ยังไม่ถูกผสมปนเปกัน ส่วนคำว่า ‘ไม่มีที่ติ’ หมายถึง ปราศจากความขุ่นเคือง และหมายถึงวิถีชีวิตภายนอกมากกว่า ให้เราอธิษฐานเช่นเดียวกับเปาโล เพื่อคุณจะเป็นคนบริสุทธิ์ทั้งภายในและภายนอก ‘ทำให้พระเยซูคริสต์มีเสน่ห์สำหรับทุกคน’ (ข้อ 11, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) ดังที่ ดรีทริช บอนเฮอเฟอร์ กล่าวไว้ว่า ‘ชีวิตของคุณในฐานะคริสเตียนควรทำให้ผู้ไม่เชื่อตั้งคำถามกับการไม่เชื่อในพระเจ้า’

เปาโลสามารถแบกโซ่ตรวนได้เพราะมันเปิดโอกาสให้เขาสั่งสอนพระกิตติคุณและสนับสนุนผู้อื่น ‘ความกล้ามากขึ้นที่จะกล่าวพระวจนะโดยปราศจากความกลัว’ (ข้อ 14)

อย่ากังวลเกี่ยวกับแรงจูงใจของคนอื่นในการประกาศพระกิตติคุณ ‘บางคนประกาศพระคริสต์ด้วยความอิจฉาและการวิวาท’ และ ‘การชิงดีกัน’ (ข้อ 15,17) คนอื่น ๆ ทำด้วยความรัก (ข้อ 16) อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าเปาโลจะไม่ได้คิดว่าแรงจูงใจสำคัญมากนักตราบเท่าที่มีการประกาศถึงพระคริสต์ (ข้อ 17–18) อย่าวิพากษ์วิจารณ์คริสเตียนคนอื่นที่กำลังประกาศข่าวประเสริฐแม้ว่าคุณจะไม่ชอบรูปแบบของพวกเขาหรือคุณสงสัยแรงจูงใจของพวกเขา จงยินดีที่พวกเขาประกาศถึงพระเยซู

ทั้งชีวิตของเปาโลมีศูนย์กลางอยู่ที่พระคริสต์ ความปรารถนาของเขาคือต้องการให้พระคริสต์ได้รับความยกย่องในร่างกายของเขา ‘ไม่ว่าจะโดยชีวิตหรือความตาย’ (ข้อ 20) เขารู้สึกว่าตัวเอง ‘ลำบากใจระหว่างสองฝ่ายนี้’ (ข้อ 23) ในหลายๆ ด้าน เขาปรารถนาที่จะ ‘จากไปเพื่ออยู่กับพระคริสต์ ซึ่งประเสริฐกว่ามากนัก’ (ข้อ 23)

ผู้รับใช้อันบริสุทธิ์ จอห์น คอลลินส์ เป็นศิษยาภิบาลของคริสตจักร โฮลี ทรินิตี้ บรอมป์ตัน ระหว่างปี 1980-1985 เมื่อไดอานาภรรยาของเขาเสียชีวิตเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม ปี 2013 จอห์นเขียนถึงผมว่า ‘ผมรู้สึกขอบคุณที่พวกเรามีห้าสิบแปดปีอันรุ่งโรจน์ร่วมกัน เป็นช่วงเวลาที่ดีและดีขึ้นอีกเรื่อย ๆ แม้ว่าจะมีจังหวะน่ากลัวไปบ้าง และความตายเป็นศัตรู... ก็เหมือนกับอัครทูตเปาโลนั่นแหละ หลายปีทีเดียวที่เธออยู่เพื่อจะไป “อยู่กับพระคริสต์ ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีกว่ามาก” ผมรู้สึกขอบคุณจริง ๆ ที่เธอกลัว เพราะเธอรู้ว่าเธอจะไปที่ไหนและความเชื่อของเธอในพระสัญญาของพระคริสต์ไม่เคยสั่นคลอน’

แม้ว่าเปาโลปรารถนาที่จะอยู่กับพระคริสต์ ส่วนหนึ่งของเขาก็ยังต้องการมีชีวิตอยู่เพราะเขารู้ว่ามันจะ ‘ทำงานให้เกิดผล’ (ข้อ 22) ความปรารถนาของเขาคือการได้เห็นชาวฟีลิปปีก้าวหน้าในความเชื่อและความปีติของพวกเขาในพระเยซูคริสต์ล้นเหลือ (ข้อ 26)

คำอธิษฐาน

ข้าแต่พระเจ้า ช่วยข้าพระองค์ให้ใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ และใช้ทุกโอกาสเพื่อเผยแพร่เรื่องราวของพระเยซู
พันธสัญญาเดิม

เศฟันยาห์ 1:1-3:20

1พระวจนะของพระยาห์เวห์ที่มาถึงเศฟันยาห์บุตรคูชี ผู้เป็นบุตรเกดาลิยาห์ ผู้เป็นบุตรอามาริยาห์ ผู้เป็นพระราชโอรสของกษัตริย์เฮเซคียาห์ พระราชโอรสของอาโมน กษัตริย์แห่งยูดาห์

การพิพากษายูดาห์ที่กำลังจะมาถึง

2“เราจะกวาดล้างทุกอย่าง
 ไปจากพื้นพิภพ” พระยาห์เวห์ตรัสดังนี้แหละ
3“เราจะกวาดล้างทั้งคนและสัตว์
 เราจะกวาดล้างนกในอากาศ
ทั้งปลาในทะเลด้วย
 เราจะโค่นคนอธรรม
เราจะกำจัดมนุษย์
 ไปจากพื้นพิภพ” พระยาห์เวห์ตรัสดังนี้แหละ
4“เราจะเหยียดมือของเราออกต่อสู้ยูดาห์
 และต่อสู้ชาวเยรูซาเล็มทั้งหมด
เราจะกำจัดสิ่งที่เหลือของพระบาอัลเสียจากสถานที่นี้
 ทั้งชื่อปุโรหิตต่างชาติพร้อมกับพวกปุโรหิตที่ไหว้รูปเคารพ
5และกำจัดพวกที่กราบลงบนดาดฟ้าหลังคาตึก
 เพื่อไหว้บริวารแห่งฟ้าสวรรค์
และพวกที่กราบลงสาบานต่อพระยาห์เวห์
 แล้วยังกราบลงสาบานโดยพระมิลโคม
6รวมทั้งพวกที่หันกลับจากการติดตามพระยาห์เวห์
 คือพวกที่ไม่ได้แสวงหาพระยาห์เวห์หรือทูลถามพระองค์”
7จงเงียบสงบเฉพาะพระพักตร์พระยาห์เวห์องค์เจ้านาย
 เพราะว่าวันแห่งพระยาห์เวห์มาใกล้แล้ว
พระยาห์เวห์ทรงเตรียมการบูชาแล้ว
 และทรงแยกพวกที่พระองค์ทรงเชิญไว้ให้บริสุทธิ์
8แล้วในวันแห่งการบูชาของพระยาห์เวห์
 “เราจะลงโทษพวกเจ้านายและบรรดาพระราชโอรสของกษัตริย์
 ทั้งทุกคนที่แต่งตัวด้วยเครื่องแต่งกายต่างด้าว
9ในวันนั้น เราจะลงโทษ
 ทุกคนที่กระโดดข้ามธรณีประตู
และพวกที่ทำให้บ้านเจ้านายของเขา
 เต็มไปด้วยความทารุณและการหลอกลวง”
10พระยาห์เวห์ตรัสดังนี้ว่า “ในวันนั้น
 จะมีเสียงร่ำร้องจากประตูปลา
และเสียงร้องไห้จากเขตสอง
 และเสียงโครมครามจากเนินเขา 11โอชาวตำบลครก จงร้องไห้
 เพราะพ่อค้าไม่เหลือสักคน
 ทุกคนที่ชั่งเงินก็ถูกกำจัดเสีย 12ในเวลานั้นเราจะเอาตะเกียงส่องดูเยรูซาเล็ม
 และเราจะลงโทษพวกไม่รู้ร้อนรู้หนาวมานาน
เหมือนตะกอนเหล้าที่เกรอะจนหนา
 ผู้ที่คิดในใจของตนว่า
‘พระยาห์เวห์จะไม่ทรงให้สิ่งดี
 และพระองค์ก็จะไม่ทรงให้สิ่งร้าย’
13แต่ทรัพย์สมบัติของพวกเขาจะถูกปล้น
 และบ้านของพวกเขาจะร้างเปล่า
ถึงแม้จะสร้างบ้านเรือน
 เขาทั้งหลายก็จะไม่ได้อยู่
ถึงแม้จะทำสวนองุ่น
 เขาทั้งหลายก็จะไม่ได้ดื่มเหล้าองุ่นจากสวนนั้น”

วันแห่งพระยาห์เวห์อันยิ่งใหญ่

14วันแห่งพระยาห์เวห์อันยิ่งใหญ่ใกล้เข้ามาแล้ว
 ใกล้เข้ามาและเร่งมาก
เสียงร้องในวันแห่งพระยาห์เวห์ก็ขมขื่น
 นักรบจะร้องเสียงดังที่นั่น
15วันนั้นจะเป็นวันแห่งพระพิโรธ
 เป็นวันที่ทุกข์ใจและระทม
เป็นวันที่มีความพินาศและการทำลายล้าง
 เป็นวันที่มืดและหม่นหมอง
 เป็นวันที่เมฆคลุมและมืดทึบ
16วันที่มีเสียงแตรและเสียงโห่ร้องของสงคราม
 ต่อสู้บรรดาเมืองที่มีปราการ
 และต่อสู้บรรดาป้อมสูง
17เราจะนำทุกข์ภัยมาสู่มนุษย์
 พวกเขาจะเดินอย่างคนตาบอด
เพราะเขาได้ทำบาปต่อพระยาห์เวห์
 โลหิตของเขาจะถูกเทออกเหมือนฝุ่น
 และเนื้อของเขาจะถูกเทออกเหมือนมูลสัตว์
18เงินหรือทองคำของเขาก็ดี
 จะไม่สามารถช่วยกู้เขา
ในวันแห่งพระพิโรธของพระยาห์เวห์
 และด้วยไฟแห่งความหวงแหนของพระองค์
พิภพทั้งหมดจะถูกเผาผลาญ
 พระองค์จะทรงทำให้ชาวพิภพทั้งหมด
 ถึงจุดจบอย่างสิ้นเชิงและน่ากลัว

เศฟันยาห์ 2

การพิพากษาศัตรูทั้งหลายของอิสราเอล

1จงมารวมตัว มาชุมนุมกัน
 ชนชาติหนึ่งที่ไร้ยางอาย
2ก่อนที่คำบัญชาจะมาถึง
 และวันเวลาผ่านไปเหมือนแกลบที่ปลิว
ก่อนที่พระพิโรธอันรุนแรงของพระยาห์เวห์
 จะมาเหนือพวกเจ้า
ก่อนที่วันแห่งพระพิโรธของพระยาห์เวห์
 จะมาถึงเจ้าทั้งหลาย
3จงแสวงหาพระยาห์เวห์ ทุกคนที่ถ่อมใจบนแผ่นดิน
 คือผู้ที่ทำตามพระบัญชาของพระองค์
จงแสวงหาความชอบธรรม จงแสวงหาความถ่อมใจ
 บางทีพวกเจ้าจะได้รับการกำบัง
 ในวันแห่งพระพิโรธของพระยาห์เวห์
4เพราะว่าเมืองกาซาจะถูกทอดทิ้ง
 และอัชเคโลนจะเป็นเมืองร้าง
พวกเขาจะขับไล่ชาวเมืองอัชโดดไปตอนเที่ยงวัน
 และเมืองเอโครนจะถูกถอนราก
5วิบัติแก่เจ้าผู้อาศัยตามชายทะเล
 แก่พวกชาวเคเรธี
พระวจนะของพระยาห์เวห์กล่าวโทษพวกเจ้า
 นะคานาอัน แผ่นดินของคนฟีลิสเตีย
 เราจะทำลายเจ้าจนไร้คนอาศัย
6ชายทะเลจะกลายเป็นลานหญ้า
 เป็นทุ่งหญ้าของผู้เลี้ยงแกะ
 และเป็นคอกสำหรับฝูงแพะแกะ
7ชายทะเลจะเป็นกรรมสิทธิ์
 ของพงศ์พันธุ์ยูดาห์ที่เหลืออยู่
พวกเขาจะเลี้ยงสัตว์ที่นั่น
 และพวกเขาจะนอนลงในเวลาเย็น
ในบ้านของชาวอัชเคโลน
 เพราะว่าพระยาห์เวห์ พระเจ้าของเขาจะเอาพระทัยใส่เขา
 และให้เขาทั้งหลายกลับสู่สภาพเดิม
8“เราได้ยินคำเย้ยหยันของโมอับ
 และคำด่าทอของคนอัมโมน
ที่เขาเย้ยหยันประชากรของเรา
 และโอ้อวดเรื่องดินแดนของพวกเขา”
9ฉะนั้น พระยาห์เวห์จอมทัพ พระเจ้าของอิสราเอลตรัสว่า
 “เรามีชีวิตอยู่แน่ฉันใด
โมอับจะเป็นเหมือนเมืองโสโดม
 และคนอัมโมนจะเหมือนเมืองโกโมราห์
เป็นแผ่นดินที่มีแต่ต้นหนามและบ่อเกลือ
 และเป็นที่ร้างเปล่าตลอดไป
ประชากรที่เหลืออยู่ของเราจะปล้นเขา
 คนรอดตายในประชาชาติของเราจะเข้าครอบครอง”
10นี่จะเป็นผลตอบแทนความเย่อหยิ่งของเขา
 เพราะพวกเขาเย้ยหยันและโอ้อวด
 ต่อประชากรของพระยาห์เวห์จอมทัพ
11พระยาห์เวห์จะทรงเป็นที่หวาดกลัวของพวกเขา
 เพราะพระองค์จะทรงทำให้พระทั้งหมดของโลกผ่ายผอม
แล้วประชาชาติทั้งปวงตามชายทะเล
 จะก้มกราบพระองค์
 จากที่อยู่ของแต่ละคน
12เจ้าด้วย พวกชาวคูช
 จะถูกประหารด้วยดาบของเรา
13แล้วพระองค์จะยื่นพระหัตถ์ของพระองค์ต่อสู้เมืองทางเหนือ
 และทำลายอัสซีเรีย
และจะทำให้เมืองนีนะเวห์เป็นที่ร้างเปล่า
 เป็นที่แห้งแล้งเหมือนถิ่นทุรกันดาร
14ฝูงสัตว์จะนอนอยู่ท่ามกลางที่นั้น
 สัตว์ทุกชนิดเป็นฝูงๆ
นกเค้าแมวและอีกาบ้าน
 จะอาศัยตามหัวเสาของเมืองนั้น
ส่งเสียงร้องอยู่ที่หน้าต่าง
นกกาจะส่งเสียงตรงธรณีประตู
 เพราะที่บุด้วยไม้สนสีดาร์ถูกกะเทาะ
15นี่คือเมืองที่สนุกสนาน
 ที่เคยอยู่อย่างปลอดภัย
เมืองที่คิดในใจของตนว่า
 “ข้านี่แหละ และไม่มีเมืองอื่นใดอีกแล้ว”
แต่มันกลายเป็นเมืองร้างเปล่าแล้วหนอ
 เป็นที่พักผ่อนของสัตว์ป่า
ทุกคนที่ผ่านเมืองนี้ไป
 จะทำเสียงเย้ยหยันและสั่นกำปั้นว่า สาสม

เศฟันยาห์ 3

บาปของเยรูซาเล็ม

1วิบัติแก่เมืองที่กบฏ และเป็นมลทิน
 เมืองที่กดขี่ผู้อื่น
2เมืองที่ไม่ยอมฟังเสียงใครเลย
 และไม่ยอมรับการตีสอนใดๆ
เมืองที่ไม่วางใจในพระยาห์เวห์
 และไม่ยอมเข้าใกล้พระเจ้า
3พวกเจ้านายที่อยู่ในเมืองนี้
 เป็นเหมือนสิงโตที่คำราม
พวกผู้พิพากษาของเธอก็เป็นเหมือนหมาป่าในยามเย็น
 ที่ไม่ยอมเหลืออะไรไว้ถึงรุ่งเช้า
4พวกผู้เผยพระวจนะของเธอเป็นคนไม่รับผิดชอบ
 ทั้งยังเป็นคนทรยศ
บรรดาปุโรหิตของเธอก็ดูหมิ่นสิ่งของศักดิ์สิทธิ์
 และฝ่าฝืนธรรมบัญญัติ
5พระยาห์เวห์ผู้ทรงอยู่ในเมืองนั้นชอบธรรม
 พระองค์ไม่ทรงทำผิดเลย
ทุกๆ เช้าพระองค์ทรงทำความยุติธรรมของพระองค์ให้ประจักษ์
 ทุกรุ่งอรุณไม่ทรงเว้นเลย
 แต่คนอยุติธรรมนั้นไม่รู้จักอาย
6เราได้กำจัดบรรดาประชาชาติ
 ป้อมปราการของพวกเขาพังทลาย
เราทำให้ถนนของพวกเขาว่างเปล่า
 ไม่มีใครเดินบนนั้น
เมืองของพวกเขาถูกทิ้งร้าง
 ไม่มีคนอยู่ ไร้ผู้อาศัย
7เรากล่าวว่า เมืองนั้นจะยำเกรงเราแน่
 เธอจะยอมรับการตีสอน
เธอคงจะไม่ละสายตาไปจาก
 ทุกสิ่งที่เรานำมายังเธอ
แต่เขาทั้งหลายกลับยิ่งกระตือรือร้น
 ที่จะให้การกระทำทั้งสิ้นของเขาเสื่อมทราม
 บรรดาประชาชาติถูกลงโทษและกลับใจ
8พระยาห์เวห์ตรัสดังนี้ว่า “เพราะฉะนั้นจงคอยเรา
 คอยวันที่เราลุกขึ้นเป็นพยาน
เพราะเราตัดสินใจที่จะรวบรวมประชาชาติ
 และให้อาณาจักรมาชุมนุมกัน
เพื่อเทความกริ้วของเราบนพวกเขา
 คือความร้อนแรงแห่งความโกรธทั้งสิ้นของเรา
เพราะว่าพิภพทั้งหมดจะถูกเผาผลาญ
 ด้วยไฟแห่งความหวงแหนของเรา
9“ในเวลานั้น เราจะเปลี่ยนริมฝีปากของประชากรทั้งหลาย
 ให้เป็นริมฝีปากที่บริสุทธิ์
เพื่อว่าทุกคนจะร้องทูลออกพระนามพระยาห์เวห์
 และปรนนิบัติพระองค์เป็นใจเดียวกัน
10พวกที่ทูลต่อเรา ชุมชนของเราที่กระจัดกระจายไป
 จะนำเครื่องถวายมายังเรา
 จากฟากโน้นของแม่น้ำแห่งคูช
11“ในวันนั้น เจ้าจะไม่ถูกทำให้อับอาย
 จากการกระทำทั้งสิ้นซึ่งเจ้าได้กบฏต่อเรา
เพราะในเวลานั้นเราจะเอาผู้โอ้อวดเย่อหยิ่ง
 ออกไปจากท่ามกลางเจ้า
เจ้าก็จะไม่หยิ่งจองหอง
 ที่ภูเขาบริสุทธิ์ของเราอีกต่อไป
12เพราะเราจะเหลือไว้ในท่ามกลางเจ้า
 ประชาชนที่ถ่อมใจและเจียมตัว
 พวกเขาจะแสวงหาที่ลี้ภัยในพระนามของพระยาห์เวห์
13บรรดาคนที่เหลืออยู่ในอิสราเอล
 จะไม่ทำความผิดบาป
และจะไม่กล่าวคำโกหก
 และในปากของพวกเขานั้น
จะไม่พบลิ้นที่หลอกลวง
 เพราะเขาทั้งหลายจะหากินและนอนลง
และไม่มีใครทำให้เขาหวาดหวั่น”
 บทเพลงแห่งความยินดี
14“โอ บุตรีแห่งศิโยนเอ๋ย จงร้องเพลงเสียงดัง
 โอ อิสราเอลเอ๋ย จงโห่ร้องเถิด
จงเปรมปรีดิ์และรื่นเริงด้วยเต็มใจของเจ้า
 เถิดนะ บุตรีแห่งเยรูซาเล็ม
15พระยาห์เวห์ทรงยกเลิกการลงโทษเจ้าแล้ว
 พระองค์ทรงขับไล่ศัตรูของเจ้าไปแล้ว
กษัตริย์แห่งอิสราเอลคือพระยาห์เวห์ทรงอยู่ท่ามกลางเจ้า
 เจ้าจะไม่กลัวภัยพิบัติอีกต่อไป
16ในวันนั้น เขาจะพูดกับเยรูซาเล็มว่า
 ‘โอ ศิโยนเอ๋ย อย่ากลัวเลย
 อย่าให้มือของเจ้าอ่อนเปลี้ยไป
17พระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้าทรงอยู่ท่ามกลางเจ้า
 เป็นนักรบผู้ทรงช่วยให้รอด
พระองค์จะทรงเปรมปรีดิ์เพราะเจ้าด้วยความยินดี
 และทรงสงบในความรักของพระองค์
 พระองค์จะทรงเริงร่าเพราะเจ้าด้วยการร้องเพลงเสียงดัง
18เหมือนในวันที่มีงานเลี้ยงฉลอง’
 เราจะขจัดภัยพิบัติเสียจากเจ้า
 เพื่อเจ้าจะไม่ต้องทนต่อการเยาะเย้ยเพราะเรื่องนี้
19นี่แน่ะ ในเวลานั้น
 เราจะจัดการกับทุกคนที่กดขี่เจ้า
เราจะช่วยคนขาพิการ
 และรวบรวมผู้ที่ถูกขับไล่ไป
และเราจะเปลี่ยนความอายของเขาให้เป็นความน่าสรรเสริญ
 และให้เป็นชื่อเสียงที่เลื่องลือไปทั้งโลก
20ในเวลานั้น เราจะนำพวกเจ้าเข้ามา
 คือในเวลาที่เรารวบรวมเจ้าเข้าด้วยกัน
เราจะทำให้เจ้ามีชื่อเสียงและเป็นที่สรรเสริญ
 ท่ามกลางประชากรทั้งสิ้นในโลก
เมื่อเราให้เจ้ากลับสู่สภาพเดิมต่อหน้าต่อตาเจ้า”
 พระยาห์เวห์ตรัสดังนี้แหละ

อรรถาธิบาย

สัมผัสความรักของพระเจ้าที่มีต่อคุณ

คุณรู้หรือไม่ว่าพระเจ้ารักคุณมากแค่ไหน? ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นในชีวิตนี้ พระเจ้ารักคุณ พระองค์ไม่เพียงรักคุณเท่านั้น แต่ยังชื่นชมยินดีในตัวคุณอีกด้วย อันที่จริง พระองค์ทรงร้องเพลงเหนือคุณด้วยความยินดี (3:17)

หัวข้อการเขียนของเศฟันยาห์คือ ‘วันแห่งพระยาห์เวห์อันยิ่งใหญ่' (1:14) นี่คือวันที่ผู้คนของพระเจ้าเฝ้ารอคอย ตามความคิดของคนทั่วไป นี่คือวันที่พวกเขาคาดหวังให้อิสราเอลได้รับพระพร ข้อความจากเศฟันยาห์คือไม่ใช่เพียงจะเป็นวันแห่งพระพรเท่านั้น แต่จะเป็นวันแห่งการพิพากษาด้วย

เขาเรียกร้องให้กลับใจ ความบาปนำไปสู่การพิพากษา แต่พระเจ้ารักเราและปรารถนาที่จะเมตตาและให้อภัย ‘จงแสวงหาพระยาห์เวห์ ทุกคนที่ถ่อมใจบนแผ่นดิน คือผู้ที่ทำตามพระบัญชาของพระองค์ จงแสวงหาความชอบธรรม จงแสวงหาความถ่อมใจ บางทีพวกเจ้าจะได้รับการกำบัง ในวันแห่งพระพิโรธของพระยาห์เวห์' (2:3)

เขาเห็นล่วงหน้าว่าคนที่เหลืออยู่ซึ่ง ‘ถ่อมใจและเจียมตัว พวกเขาจะแสวงหาที่ลี้ภัยในพระนามของพระยาห์เวห์’ จะรอดชีวิต (3:12) พวกเขาเห็นล่วงหน้าว่าพระเจ้าจะทรงอวยพรประชากรของเขาอีกครั้ง ‘พระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้าทรงอยู่ท่ามกลางเจ้า เป็นนักรบผู้ทรงช่วยให้รอด พระองค์จะทรงเปรมปรีดิ์เพราะเจ้าด้วยความยินดี และทรงสงบในความรักของพระองค์ พระองค์จะทรงเริงร่าเพราะเจ้าด้วยการร้องเพลงเสียงดัง’ (ข้อ 17)

เมื่อพระเยซูประกาศถึงแผ่นดินของพระเจ้า พระองค์ทรงประกาศว่าวันขององค์พระผู้เป็นเจ้าได้ก้าวเข้าสู่ประวัติศาสตร์แล้ว วันหนึ่งเมื่อพระเยซูเสด็จกลับมา ย่อมมีวันแห่งการพิพากษาและการชำระอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม บางแง่มุมของวันนั้นในองค์พระผู้เป็นเจ้าเราสามารถสัมผัสได้ในพระคริสต์เช่นกัน คุณสามารถรู้จักพระเจ้าที่ทรงช่วยคุณได้ ทรงชื่นชมยินดีในตัวคุณ ทำให้คุณเงียบสงบด้วยความรักของพระองค์ และชื่นชมยินดีกับคุณด้วยการร้องเพลงในตอนนี้เลย คุณสามารถรับรู้ได้เช่นนั้นแทนที่การพิพากษาขององค์พระผู้เป็นเจ้าในความเป็นจริง เพราะในพระคริสต์ ‘พระยาห์เวห์ทรงยกเลิกการลงโทษเจ้าแล้ว’ (ข้อ 15)

สำหรับผู้ที่อยู่ในพระคริสต์ คำสัญญาของพระเจ้าในเศฟันยาห์ก็สำเร็จในตัวคุณ ดังที่บาทหลวงรานิเอโร คานทาลาเมสสาเขียนไว้ว่า ‘ทุกสิ่งที่พระเจ้าทำและตรัสในพระคัมภีร์คือความรัก แม้แต่ความโกรธของพระเจ้าก็ไม่มีอะไรนอกจากความรัก พระเจ้าเป็นความรัก’ และนั่นทำให้ชีวิตคุ้มค่าที่จะดำรงอยู่

คำอธิษฐาน

ข้าแต่พระเจ้า ขอบพระคุณที่พระองค์ทรงยินดีในข้าพระองค์ ขอทรงโปรดให้ข้าพระองค์สงบด้วยความรักของพระองค์ และทรงเปรมปรีดิ์ในข้าพระองค์ด้วยการร้องเพลง ขอบพระคุณที่ความรักของพระองค์ทำให้ชีวิตนี้มีค่าที่จะดำรงอยู่

เพิ่มเติมโดยพิพพา

เศฟันยาห์ 3:17

‘พระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้าทรงอยู่ท่ามกลางเจ้า เป็นนักรบผู้ทรงช่วยให้รอด พระองค์จะทรงเปรมปรีดิ์เพราะเจ้าด้วยความยินดี และทรงสงบในความรักของพระองค์ พระองค์จะทรงเริงร่าเพราะเจ้าด้วยการร้องเพลงเสียงดัง’

ตอนที่ฉันกับพี่น้องยังเด็กและร้องไห้ในตอนกลางคืน พ่อจะอุ้มเราขึ้นและพาไปรอบ ๆ พลางร้องเพลงไปด้วย ‘พ่ออยู่นี่แล้วนะ...' ฉันยังจำเพลงและความรู้สึกปลอดภัยที่อยู่ในอ้อมแขนของพ่อได้

ข้อพระคำประจำวัน

เศฟันยาห์ 3:17

'พระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้าทรงอยู่ท่ามกลางเจ้า
 เป็นนักรบผู้ทรงช่วยให้รอด
พระองค์จะทรงเปรมปรีดิ์เพราะเจ้าด้วยความยินดี
 และทรงสงบในความรักของพระองค์
 พระองค์จะทรงเริงร่าเพราะเจ้าด้วยการร้องเพลงเสียงดัง’

reader

App

Download the Bible in One Year app for iOS or Android devices and read along each day.

reader

อีเมล

Sign up now to receive Bible in One Year in your inbox each morning. You’ll get one email each day.

reader

เว็บไซต์

Subscribe and listen to Bible in One Year delivered to your favourite podcast app everyday.

การอ้างอิง

ข้อพระคัมภีร์อ้างอิงมาจากพระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 2011 สงวนสิทธิ์โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย (ยกเว้นข้อที่ระบุว่าเป็นฉบับอื่น)

เว็บไซต์นี้จัดเก็บข้อมูล เช่น คุกกี้ เพื่อเปิดใช้งานฟังก์ชั่นและการวิเคราะห์ที่จำเป็นเท่านั้น ดูเพิ่มเติม