ชีวิตที่ขับเคลื่อนด้วยพระวิญญาณ
เกริ่นนำ
‘ผมรู้สึกร้อนรนด้วยความปรารถนาที่จะเดินทางขึ้นเหนือล่องใต้ทั่วทั้งเวลส์เพื่อบอกถึงพระผู้ช่วยให้รอด และหากเป็นไปได้ ผมก็เต็มใจที่จะจ่ายราคาสำหรับงานนี้เพื่อพระเจ้า’ อีวาน โรเบิร์ตส์ ผู้เป็นศูนย์กลางของการฟื้นฟูในเวลส์ ปี ค.ศ. 1904–1905 ได้บันทึกเอาไว้ เขาพูดเกี่ยวกับวิธีที่พระวิญญาณของพระเจ้าประทานประสบการณ์ความรักของพระองค์ ให้กับเขาอย่างท่วมท้น เขาเต็มไปด้วยความเห็นอกเห็นใจและความปรารถนาที่จะบอกคนอื่นเกี่ยวกับพระเยซู
เราอยู่ในยุคของพระวิญญาณ ในพันธสัญญาเดิมนั้นพระวิญญาณบริสุทธิ์เสด็จมาเหนือคนบางกลุ่มในช่วงเวลาหนึ่งเพื่อจุดประสงค์เฉพาะ เราจะเห็นตัวอย่างนี้ในการใคร่ครวญวันนี้ด้วยกัน เมื่อพระวิญญาณบริสุทธิ์เสด็จมาบนอิสยาห์ (อิสยาห์ 61) เหตุการณ์นี้พยากรณ์ล่วงหน้าถึงพระวิญญาณบริสุทธิ์ที่เสด็จมาเหนือพระเยซู (ลูกา 4:14–18) เช่นเดียวกับการเทพระวิญญาณบริสุทธิ์ลงมาเหนือคริสเตียนทุกคน ตั้งแต่วันเพนเทคอสต์เป็นต้นไป
พระธรรมสุภาษิตให้ภาพการดำรงชีวิตด้วยพระวิญญาณว่าควรเป็นอย่างไร จากนั้น ในพันธสัญญาใหม่ เราจะเห็นถึงผลของชีวิตที่ขับเคลื่อนด้วยพระวิญญาณ
สุภาษิต 23:19-28
19ลูกเอ๋ย เจ้าจงฟัง และจงมีปัญญา
และจงนำใจของเจ้าไปในทางนั้น
20อย่ามั่วสุมกับคนขี้เหล้า
หรือกับคนตะกละกินเนื้อ
21เพราะคนขี้เมาและคนตะกละจะมาถึงความยากจน
และความง่วงเหงาจะเอาผ้าขี้ริ้วห่มคนนั้น
22จงฟังบิดาผู้ให้กำเนิดเจ้า
และอย่าดูหมิ่นมารดาเมื่อนางแก่
23จงซื้อความจริงและอย่าขายไปเสีย
จงซื้อปัญญา คำสั่งสอน และความรอบรู้
24บิดาของคนชอบธรรมจะเปรมปรีดิ์อย่างยิ่ง
คนที่ให้กำเนิดบุตรที่มีปัญญาจะยินดีในเขา
25จงให้บิดามารดาของเจ้ายินดี
จงให้ผู้ที่คลอดเจ้าเปรมปรีดิ์
26ลูกเอ๋ย ขอใจของเจ้าให้ข้าเถอะ
และให้ตาของเจ้าสังเกตดูในทางของข้า
27เพราะหญิงโสเภณีเป็นหลุมลึก
และหญิงสำส่อนเป็นบ่อแคบ
28นางหมอบคอยอยู่เหมือนโจร
และทำให้มีคนไม่ซื่อตรงเพิ่มขึ้นในหมู่ผู้ชาย
อรรถาธิบาย
ชีวิตที่ชาญฉลาด
รูปแบบการใช้ชีวิตที่ชาญฉลาดมีลักษณะอย่างไร? คุณจะสามารถ ‘กลายเป็นคนชาญฉลาด' และชี้ทางชีวิตของคุณ ‘ไปในทิศทางที่ถูกต้อง’ ได้อย่างไร (ข้อ 19, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)? พระวิญญาณบริสุทธิ์เป็นพระวิญญาณแห่งพระปัญญา (อิสยาห์ 11:2, เอเฟซัส 1:17) การดำเนินชีวิตดำเนินตามพระวิญญาณแห่งพระปัญญาและความเข้าใจนั้นหมายถึงการใส่ใจในเรื่องดังต่อไปนี้:
1. สิ่งที่คุณกินและดื่ม
'อย่าดื่มไวน์มากเกินไปและเมา อย่ากินอาหารมากเกินไปและอ้วน' (สุภาษิต 23:20, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) เราต้องไม่ ‘เมา’ หรือ ‘ตะกละ’ (ข้อ 21, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)
2. ใครที่คุณฟัง
‘ฟังพ่อที่เลี้ยงดูคุณด้วยความเคารพ และเมื่อแม่ของคุณแก่แล้วอย่าละเลยเธอ’ (ข้อ 22, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) การเคารพพ่อแม่เป็นเครื่องหมายแห่งปัญญา ลูกที่ฉลาดควรทำให้พ่อแม่ภูมิใจในตัวพวกเขา (ข้อ 24–25, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)
3. วิธีที่คุณเรียนรู้
จิตใจที่ใฝ่รู้เป็นเครื่องหมายของพระวิญญาณแห่งปัญญา ‘ซื้อความจริง... ซื้อปัญญา ซื้อการศึกษา ซื้อความเข้าใจ' (ข้อ 23, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) พระวิญญาณแห่งปัญญาทำให้คุณหิวกระหายความจริงและความรู้
4. สิ่งที่คุณคิดถึง
คุณคิดสิ่งใดในใจ คุณจะกลายเป็นสิ่งนั้น ‘ลูกเอ๋ย ขอใจของเจ้าให้ข้าเถอะ’ (ข้อ 26ก) นี่คือจุดเริ่มต้นของทุกสิ่ง รักษาหัวใจและจิตใจของคุณ
5. สิ่งที่คุณดู
‘ให้ตาของเจ้าสังเกตดูทางของข้า’ (ข้อ 26ข) การจับจ้องอย่างระมัดระวังในทางของเราเป็นวิธีหนึ่งในการป้องกันความสำส่อนและการผิดศีลธรรม (ข้อ 27–28)
คำอธิษฐาน
เอเฟซัส 4:1-16
ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของพระกาย
1เพราะฉะนั้น ข้าพเจ้าผู้เป็นนักโทษโดยเห็นแก่องค์พระผู้เป็นเจ้า ขอวิงวอนพวกท่านให้ดำเนินชีวิตสมกับการทรงเรียกที่ท่านได้รับการทรงเรียกมานั้น 2คือจงถ่อมใจและมีความสุภาพอ่อนโยนอยู่เสมอ จงอดทน จงอดกลั้นต่อกันและกันด้วยความรัก 3จงพยายามรักษาความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันที่มาจากพระวิญญาณนั้น โดยมีสันติภาพเป็นเครื่องผูกพัน 4มีกายเดียวและมีพระวิญญาณองค์เดียว เหมือนอย่างที่ท่านได้รับการทรงเรียกให้มาถึงความหวังเดียวในการทรงเรียกพวกท่านนั้น 5มีองค์พระผู้เป็นเจ้าองค์เดียว ความเชื่อเดียว บัพติศมาเดียว 6พระเจ้าองค์เดียวผู้เป็นพระบิดาของทุกคน พระองค์ทรงมีอำนาจเหนือสรรพสิ่ง ทรงทำการผ่านสรรพสิ่งและทรงอยู่ในทุกคน
7แต่ว่าพระคุณนั้นประทานแก่เราแต่ละคนตามขนาดที่พระคริสต์ประทาน 8ดังนั้นจึงมีพระวจนะว่า
“เมื่อพระองค์เสด็จขึ้นไปสู่ที่สูง พระองค์ทรงนำเชลยกลุ่มใหญ่ไป
และประทานของประทานแก่มนุษย์”
9(การที่กล่าวว่า “พระองค์เสด็จขึ้นไป” นั้น จะมีความหมายว่าอะไร ถ้าไม่ใช่ว่าพระองค์ได้เสด็จลงไปสู่เบื้องต่ำของแผ่นดินโลกแล้วด้วย? 10พระองค์ผู้เสด็จลงไปนั้นก็คือผู้ที่เสด็จขึ้นไปสู่ที่สูงเหนือฟ้าสวรรค์ทั้งหมดนั่นเอง เพื่อจะเติมทุกสิ่งให้เต็มบริบูรณ์) 11และพระองค์เองประทานให้บางคนเป็นอัครทูต บางคนเป็นผู้เผยพระวจนะ บางคนเป็นผู้ประกาศข่าวประเสริฐ บางคนเป็นศิษยาภิบาลและอาจารย์ 12เพื่อเตรียมธรรมิกชนสำหรับการปรนนิบัติและการเสริมสร้างพระกายของพระคริสต์ 13จนกว่าเราทุกคนจะบรรลุถึงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันในความเชื่อและในความรู้ถึงพระบุตรของพระเจ้า บรรลุถึงความเป็นผู้ใหญ่ คือโตเต็มถึงขนาดความบริบูรณ์ของพระคริสต์ 14เพื่อเราจะไม่เป็นเด็กอีกต่อไป ถูกซัดไปซัดมาและพัดไปพัดมาด้วยลมคำสั่งสอนทุกอย่าง ด้วยเล่ห์กลของมนุษย์ ตามอุบายที่ฉลาดในการล่อลวง 15แต่ให้เรายึดถือแปลได้อีกว่า ให้เราพูดความจริงด้วยความรัก เพื่อจะเจริญขึ้นในทุกด้านสู่พระองค์ผู้เป็นศีรษะคือพระคริสต์ 16เนื่องจากพระองค์นี้เอง ร่างกายทั้งหมดจึงได้รับการเชื่อมและประสานเข้าด้วยกันโดยทุกๆ ข้อต่อที่ประทานมานั้น และเมื่อแต่ละส่วนทำงานตามหน้าที่แล้ว ก็ทำให้ร่างกายเจริญและเสริมสร้างตนเองขึ้นด้วยความรัก
อรรถาธิบาย
ชีวิตที่ 'สุขภาพดี'
อะไรคือลักษณะของคริสตจักรที่มีสุขภาพดี? เปาโลบอกเราว่าคริสตจักรสามารถเติบโต ‘แข็งแรงในพระเจ้า' ได้อย่างไร (ข้อ 16, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)
1. ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน
ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันไม่ใช่แค่งานทั่วไปของพระวิญญาณบริสุทธิ์ แต่เป็นเครื่องมือที่พระวิญญาณบริสุทธิ์ใช้เพื่อกระทำการ
พระวิญญาณบริสุทธิ์รวมคริสตจักรเป็นหนึ่งเดียว (ข้อ 16) คริสตจักรเป็นหนึ่งเดียวกัน: ‘มีกายเดียวและมีพระวิญญาณองค์เดียว เหมือนอย่างที่ท่านได้รับการทรงเรียกให้มาถึงความหวังเดียวในการทรงเรียกพวกท่านนั้น มีองค์พระผู้เป็นเจ้าองค์เดียว ความเชื่อเดียว บัพติศมาเดียว พระเจ้าองค์เดียวผู้เป็นพระบิดาของทุกคน พระองค์ทรงมีอำนาจเหนือสรรพสิ่ง ทรงทำการผ่านสรรพสิ่งและทรงอยู่ในทุกคน’ (ข้อ 4–6)
ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวเป็นความสัมพันธ์ คริสเตียนทุกคนเป็นบุตราและบุตรีของ ‘พระเจ้าองค์เดียวผู้เป็นพระบิดาของทุกคน’ ดังนั้น เราจึงเป็นพี่น้องกัน เราทุกคนรักพระเยซู ‘องค์เดียว’ กัน เราทุกคนมีพระวิญญาณบริสุทธิ์สถิตอยู่ภายในเรา จนที่สุดแล้วมันคือความสัมพันธ์ของเรากับพระเจ้า ทั้งพระบิดา พระบุตร และพระวิญญาณบริสุทธิ์ที่รวมเราเป็นหนึ่ง
และถึงกระนั้น ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันเป็นเรื่องยากในทางปฏิบัติ มันง่ายที่จะโต้แย้ง ง่ายที่จะแตกแยก ง่ายที่จะเริ่มจับกลุ่มก้อนของเรากับคนที่เห็นพ้องต้องกับเรา ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันต้องใช้ความพยายามอย่างมาก อาจารย์เปาโลกระตุ้นให้เรา ‘พยายามรักษาความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันที่มาจากพระวิญญาณนั้น โดยมีสันติภาพเป็นเครื่องผูกพัน’ (ข้อ 3) เราต้องไม่หยุดที่จะทำให้ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันที่ซ่อนอยู่ในคริสตจักรหนึ่งปรากฏแจ้งให้เห็นในทุกระดับ ทั้งภายในคริสตจักรท้องถิ่น ระหว่างคริสตจักรและในบรรดานิกายทั้งหมด
ก่อนพระเยซูเสด็จไปที่ไม้กางเขน พระเยซูทรงอธิษฐานขอให้คริสตจักรเป็นหนึ่งเดียวกันเพื่อให้ทั้งโลกเชื่อ (ยอห์น 17:21–23) ความเป็นหนึ่งเดียวกันนี้มีรากฐานมาจากความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของพระเจ้า ดังนั้นจึงไม่สามารถสูญเสียความจริงไปได้ (ข้อ 17,23) เราต้องพูดความจริงด้วยความรักอย่างไม่หยุดยั้ง (เอเฟซัส 4:15) ตามที่ จอห์น สตอตต์ เขียนไว้ว่า ‘ความจริงจะเป็นสิ่งที่แข็งกร้าวเกินไปหากปราศจากความรักที่เข้ามาเติมความอ่อนโยน ส่วนความรักก็จะกลายเป็นสิ่งที่นุ่มนวลเกินไปหากปราศจากความจริงที่เข้ามาช่วยเติมความเข้มแข็ง’
ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันที่มองเห็นได้ของคริสตจักรควรเป็นเป้าหมายของเราเสมอ เปาโลบรรยาย คุณลักษณะต่าง ๆ ที่ช่วยให้มีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ‘จงถ่อมใจและมีความสุภาพอ่อนโยนอยู่เสมอ จงอดทน จงอดกลั้นต่อกันและกันด้วยความรัก’ (ข้อ 2)
2. ความหลากหลาย
ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันไม่ได้หมายถึงความเสมอเหมือนในทางเดียว พระวิญญาณบริสุทธิ์นำมาซึ่งความเป็นอันหนึ่งอันเดียวและความหลากหลาย อาจารย์เปาโลกล่าวต่อไปว่า ‘แต่ว่าพระคุณนั้นประทานแก่เราแต่ละคนตามขนาดที่พระคริสต์ประทาน’ (ข้อ 7)
พระเยซูทรง ‘เสด็จขึ้นไปสู่ที่สูงเหนือฟ้าสวรรค์ทั้งหมด’ (ข้อ 10) แต่พระองค์ได้เสด็จกลับมายังแผ่นดินโลกในสภาพของพระวิญญาณบริสุทธิ์ ซึ่งบัดนี้ได้ประทานของประทานต่าง ๆ แก่เราแต่ละคนในคริสตจักร (ข้อ 10–12)
ทุกคนในคริสตจักรเป็นผู้รับใช้ (ข้อ 11–12) คุณคือผู้รับใช้ คำว่ารับใช้หมายถึง ‘การปรนนิบัติ’ เราทุกคนล้วนได้รับของประทานที่แตกต่างกัน
3. ผู้ใหญ่ฝ่ายวิญญาณ
จุดประสงค์สำหรับของประทานเหล่านี้ คือ เพื่อเสริมสร้างพระกายของพระคริสต์จนกว่าเราทุกคนจะถึงความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันในความเชื่อ และในความรู้เรื่องพระบุตรของพระเจ้า เราจะกลายเป็นผู้ใหญ่ฝ่ายวิญาณเมื่อเราบรรลุถึงความบริบูรณ์ของพระคริสต์
การแก่ขึ้นแต่ฝ่ายร่างกายไม่เพียงพอ เราจำเป็นต้องเติบโตเป็นผู้ใหญ่ฝ่ายวิญญาณ
4. การเติบโต
เด็กที่มีสุขภาพแข็งแรงเติบโตขึ้นเรื่อยๆ คริสตจักรที่มีสุขภาพดีก็เติบโตในเชิงลึกและด้วยจำนวน การเติบโตของคริสตจักรควรเป็นไปตามธรรมชาติ นี่เป็นภาพที่สวยงามของวิธีที่เราแต่ละคนมีส่วนในการเติบโตของพระกายของพระคริสต์ ‘ให้เรายึดถือความจริงด้วยความรัก เพื่อจะเจริญขึ้นในทุกด้านสู่พระองค์ผู้เป็นศีรษะคือพระคริสต์ เนื่องจากพระองค์นี้เอง ร่างกายทั้งหมดจึงได้รับการเชื่อมและประสานเข้าด้วยกันโดยทุกๆ ข้อต่อที่ประทานมานั้น และเมื่อแต่ละส่วนทำงานตามหน้าที่แล้ว’ (ข้อ 15–16) คุณต้องทำใน ‘ส่วน’ ของคุณ และเราเติบโตขึ้นในขณะที่เราทุกคนทำงาน ‘ร่วมกัน’
คำอธิษฐาน
อิสยาห์ 60:1-62:12
การรวบรวมพวกที่กระจัดกระจายไป
1จงลุกขึ้น ฉายแสง เพราะว่าความสว่างของเจ้ามาแล้ว
และพระสิริของพระยาห์เวห์ขึ้นมาเหนือเจ้า
2เพราะว่าดูสิ ความมืดจะปกคลุมแผ่นดินโลก
และความมืดทึบคลุมชนชาติทั้งหลาย
แต่พระยาห์เวห์จะทรงขึ้นมาเหนือเจ้า
และพระสิริของพระองค์จะปรากฏเหนือเจ้า
3และบรรดาประชาชาติจะมายังความสว่างของเจ้า
และพวกพระราชามายังความสุกใสแห่งรุ่งอรุณของเจ้า
4จงเงยหน้าของเจ้า และมองดูรอบๆ
เขาทุกคนถูกรวบรวมเข้ามา พวกเขามาหาเจ้า
บุตรชายทั้งหลายของเจ้าจะมาจากแดนไกล
และพวกบุตรหญิงของเจ้าจะถูกอุ้มใส่สะเอวมา
5แล้วเจ้าจะเห็นและปลาบปลื้ม
ใจของเจ้าจะตื่นเต้นและเปรมปรีดิ์
เพราะความมั่งคั่งของทะเลจะหันมาหาเจ้า
ทรัพย์สมบัติของบรรดาประชาชาติจะมายังเจ้า
6มวลอูฐจะมาห้อมล้อมเจ้าจนมิด
คืออูฐหนุ่มจากมีเดียนและเอฟาห์
ทุกๆ คนจากเชบาจะมา
เขาทั้งหลายจะนำทองคำและกำยานมา
และจะประกาศถึงความน่าสรรเสริญของพระยาห์เวห์
7ฝูงแพะแกะทั้งหมดของเคดาร์จะถูกรวบรวมมายังเจ้า
แกะตัวผู้ของเนบาโยทจะปรนนิบัติเจ้า
พวกมันจะขึ้นไปบนแท่นบูชาของเราอย่างเป็นที่โปรดปราน
และเราจะให้นิเวศของเรารุ่งโรจน์ด้วยความรุ่งเรือง
8พวกนี้เป็นใครนะที่บินมาเหมือนเมฆ
เหมือนนกพิราบที่มายังช่องหน้าต่างของมัน?
9เพราะว่าแผ่นดินชายทะเลจะรอคอยเรา
เรือของทารชิชจะมาก่อน
เพื่อนำบุตรชายทั้งหลายของเจ้ามาจากแดนไกล
เงินและทองคำของพวกเขาจะมากับเขาด้วย
เพื่อพระนามพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า
และเพื่อองค์บริสุทธิ์ของอิสราเอล
เพราะพระองค์ทรงให้เจ้ารุ่งเรือง
10พวกคนต่างด้าวจะสร้างกำแพงของเจ้าขึ้น
และพระราชาของเขาจะปรนนิบัติเจ้า
เพราะว่าเราได้เฆี่ยนเจ้าด้วยความโกรธของเรา
แต่เราได้กรุณาเจ้าด้วยความโปรดปรานของเรา
11บรรดาประตูเมืองของเจ้าจะเปิดอยู่เสมอ
มันจะไม่ถูกปิดทั้งกลางวันและกลางคืน
เพื่อคนจะนำความมั่งคั่งของบรรดาประชาชาติมายังเจ้า
และบรรดาพระราชาของเขาจะถูกนำให้เข้าร่วมขบวน
12เพราะว่าประชาชาติและราชอาณาจักร
ที่ไม่ปรนนิบัติเจ้าจะพินาศ
ประชาชาติเหล่านั้นจะถูกทิ้งร้างอย่างสิ้นเชิง
13ศักดิ์ศรีของเลบานอนจะมายังเจ้า
คือต้นสนสามใบ ต้นสนเขาและต้นช้องรำพันมาด้วยกัน
เพื่อจะทำให้บริเวณสถานนมัสการของเรางดงาม
และเราจะทำให้ที่วางฝ่าเท้าของเรามีเกียรติ
14บรรดาลูกชายของพวกที่เคยบีบบังคับเจ้า
จะมาและโน้มตัวลงคำนับเจ้า
และบรรดาผู้ที่ดูหมิ่นเจ้า
จะกราบที่ฝ่าเท้าของเจ้า
พวกเขาจะเรียกเจ้าว่าเป็นนครของพระยาห์เวห์
ศิโยนแห่งองค์บริสุทธิ์ของอิสราเอล
15ในเมื่อเจ้าถูกทอดทิ้งและเป็นที่เกลียดชัง
และไม่มีใครผ่านเข้าไปทางเจ้า
เราจะทำให้เจ้าโอ่อ่าตระการเป็นนิตย์
เป็นความชื่นบานทุกชั่วชาติพันธุ์
16เจ้าจะดูดน้ำนมของบรรดาประชาชาติ
เจ้าจะดูดจากอกของพวกพระราชา
และเจ้าจะรู้ว่าตัวเรายาห์เวห์ เป็นผู้ช่วยให้รอดของเจ้า
และผู้ไถ่ของเจ้า คือองค์อานุภาพของยาโคบ
17แทนทองสัมฤทธิ์ เราจะนำทองคำมา
และแทนเหล็ก เราจะนำเงินมา
แทนไม้ จะนำทองสัมฤทธิ์มา
แทนหิน จะนำเหล็กมา
เราจะตั้งสันติภาพเป็นผู้ปกครองของเจ้า
และความชอบธรรมเป็นนายงานของเจ้า
18เจ้าจะไม่ได้ยินถึงความรุนแรงในแผ่นดินของเจ้าอีก
และไม่ได้ยินถึงการล้างผลาญหรือการทำลายในเขตแดนของเจ้า
เจ้าจะเรียกกำแพงเจ้าว่าความรอด
และเรียกประตูเมืองเจ้าว่าการสรรเสริญ
พระเจ้าทรงเป็นศักดิ์ศรีของศิโยน
19ดวงอาทิตย์จะไม่เป็นความสว่างของเจ้า
ในเวลากลางวันอีก
และดวงจันทร์จะไม่ส่องสว่างให้เจ้า
เพื่อความสุกใส
แต่พระยาห์เวห์จะทรงเป็นความสว่างของเจ้าเป็นนิตย์
และพระเจ้าของเจ้าจะทรงเป็นศักดิ์ศรีของเจ้า
20ดวงอาทิตย์ของเจ้าจะไม่ตกอีก
และดวงจันทร์ของเจ้าจะไม่มีข้างแรม
เพราะพระยาห์เวห์จะทรงเป็นความสว่างนิรันดร์ของเจ้า
และวันไว้ทุกข์ของเจ้าจะสิ้นสุดลง
21ประชาชนทั้งหมดของเจ้าจะชอบธรรม
พวกเขาจะได้ที่ดินเป็นกรรมสิทธิ์เป็นนิตย์
พวกเขาจะเป็นหน่อที่เราปลูก และเป็นผลงานของมือเรา
เพื่อสำแดงสง่าราศีของเราเอง
22ผู้เล็กน้อยที่สุดจะกลายเป็นตระกูล
และผู้เล็กจิ๋วที่สุดจะเป็นประชาชาติอันมีอานุภาพ
เราเองคือยาห์เวห์
ถึงเวลานั้น เราจะเร่งให้เกิดขึ้น
อิสยาห์ 61
ข่าวดีเรื่องการช่วยกู้
1พระวิญญาณของพระยาห์เวห์ องค์เจ้านายทรงอยู่เหนือข้าพเจ้า
เพราะว่าพระยาห์เวห์ทรงเจิมข้าพเจ้าไว้
เพื่อนำข่าวดีมายังคนที่ทุกข์ใจ
พระองค์ทรงส่งข้าพเจ้าไปเพื่อปลอบโยนคนชอกช้ำใจ
และเพื่อประกาศอิสรภาพแก่บรรดาเชลย
ทั้งประกาศการเปิดเรือนจำแก่ผู้ที่ถูกจำจอง
2เพื่อประกาศปีแห่งความโปรดปรานของพระยาห์เวห์
และประกาศวันแห่งการแก้แค้นของพระเจ้าของพวกเรา
เพื่อชูใจทุกคนที่ไว้ทุกข์
3เพื่อจัดเตรียมให้กับพวกที่ไว้ทุกข์ในศิโยน
คือให้มงกุฎแทนขี้เถ้าแก่พวกเขา
และให้น้ำมันแห่งความยินดีแทนการไว้ทุกข์
เสื้อคลุมแห่งการสรรเสริญแทนจิตวิญญาณที่ท้อแท้
แล้วคนจะเรียกพวกเขาว่าต้นโอ๊กแห่งความชอบธรรม
ที่พระยาห์เวห์ทรงปลูกไว้เพื่อสำแดงพระสิริของพระองค์
4เขาทั้งหลายจะสร้างสิ่งปรักหักพังโบราณขึ้นใหม่
เขาจะซ่อมเสริมที่ทิ้งร้างแต่เก่าก่อนขึ้น
เขาจะซ่อมบรรดาเมืองที่พังแล้วขึ้นมาใหม่
คือที่ซึ่งร้างมาหลายชั่วอายุคนแล้วนั้น
5พวกคนแปลกหน้าจะยืนเลี้ยงฝูงแพะแกะของพวกท่าน
คนต่างด้าวจะเป็นคนไถนาและเป็นคนแต่งเถาองุ่นของท่าน
6แต่พวกท่านจะได้รับการขนานนามว่าปุโรหิตของพระยาห์เวห์
คนจะพูดถึงท่านว่าเป็นผู้ปรนนิบัติของพระเจ้าของพวกเรา
ท่านทั้งหลายจะรับประทานความมั่งคั่งของบรรดาประชาชาติ
และท่านจะอวดโดยความร่ำรวยของพวกเขา
7แทนความอายของพวกท่าน ท่านจะได้รับเกียรติสองเท่า
แทนความอดสู เขาทั้งหลายจะเปรมปรีดิ์ในส่วนแบ่งของเขา
เพราะฉะนั้น พวกเขาจะได้กรรมสิทธิ์เป็นสองเท่าในแผ่นดินของเขา
ความชื่นบานเป็นนิตย์จะเป็นของเขา
8เพราะตัวเรา ยาห์เวห์รักความยุติธรรม
เราเกลียดการโจรกรรมและการอธรรมในเครื่องบูชาเผาทั้งตัว
เราจะให้ค่าตอบแทนแก่พวกเขาอย่างเหมาะสม
และเราจะทำพันธสัญญานิรันดร์กับเขา
9เชื้อสายของพวกเขาจะเป็นที่รู้จักกันในบรรดาประชาชาติ
และลูกหลานของเขาในท่ามกลางชนชาติทั้งหลาย
ทุกคนที่เห็นพวกเขาจะจดจำเขาได้
ว่าเขาเป็นเชื้อสายที่พระยาห์เวห์ทรงอวยพร
10ข้าพเจ้าจะเปรมปรีดิ์อย่างยิ่งในพระยาห์เวห์
ใจของข้าพเจ้าจะลิงโลดในพระเจ้าของข้าพเจ้า
เพราะพระองค์ทรงสวมเสื้อผ้าแห่งความรอดให้ข้าพเจ้า
พระองค์ทรงคลุมข้าพเจ้าด้วยเสื้อคลุมแห่งความชอบธรรม
เหมือนเจ้าบ่าวที่โพกศีรษะแบบปุโรหิต
และเหมือนเจ้าสาวที่แต่งตัวด้วยเพชรพลอย
11เพราะว่าแผ่นดินทำให้หน่อของมันงอกขึ้นมา
และสวนทำให้สิ่งที่หว่านในนั้นงอกขึ้นมาอย่างไร
พระยาห์เวห์ องค์เจ้านายจะทรงทำให้ความชอบธรรมและการสรรเสริญ
งอกขึ้นมาต่อหน้าประชาชาติทั้งหมดอย่างนั้น
อิสยาห์ 62
ศิโยนได้รับความรอดและการแก้ต่าง
1เพื่อเห็นแก่ศิโยน ข้าพเจ้าจะไม่ระงับเสียง
และเพื่อเห็นแก่เยรูซาเล็ม ข้าพเจ้าจะไม่นิ่งเงียบ
จนกว่าความชอบธรรมของนครนี้จะออกไปเหมือนความสว่าง
และความรอดของนครนี้ออกไปเหมือนคบเพลิงที่ลุกอยู่
2บรรดาประชาชาติจะเห็นความชอบธรรมของท่าน
และพระราชาทั้งหลายเห็นศักดิ์ศรีของท่าน
และเขาจะเรียกท่านด้วยชื่อใหม่
ซึ่งพระโอษฐ์ของพระยาห์เวห์จะประทาน
3ท่านจะเป็นมงกุฎงามในพระหัตถ์พระยาห์เวห์
และเป็นราชมงกุฎในอุ้งพระหัตถ์พระเจ้าของท่าน
4ท่านจะไม่ถูกเรียกว่าผู้ถูกทอดทิ้ง อีกต่อไป
และแผ่นดินของท่านจะไม่ถูกเรียกว่าที่ทิ้งร้าง อีกต่อไป
แต่คนเขาจะเรียกท่านว่า ความปีติยินดีของเราอยู่ในเธอ
เพราะพระยาห์เวห์ทรงปีติยินดีในท่าน
และแผ่นดินของท่านจะแต่งงาน
5เพราะชายหนุ่มแต่งงานกับหญิงพรหมจารีอย่างไร
บุตรชายทั้งหลายของท่านจะแต่งงานกับท่านอย่างนั้น
และเจ้าบ่าวเปรมปรีดิ์ในเจ้าสาวอย่างไร
พระเจ้าของท่านจะเปรมปรีดิ์ในท่านอย่างนั้น
6โอ เยรูซาเล็มเอ๋ย บนกำแพงของท่านนั้น
ข้าพเจ้าตั้งพวกคนยามไว้
ตลอดทั้งกลางวันและกลางคืน
เขาทั้งหลายจะไม่ระงับเสียงเลย
พวกท่านผู้คอยเตือนความทรงจำของพระยาห์เวห์
จะต้องไม่หยุดพัก
7และอย่าให้พระองค์หยุดพัก
จนกว่าพระองค์จะสถาปนา
และทำให้กรุงเยรูซาเล็มเป็นที่สรรเสริญในแผ่นดินโลก
8พระยาห์เวห์ทรงปฏิญาณด้วยพระหัตถ์ขวาของพระองค์
และด้วยพระกรที่ทรงอานุภาพของพระองค์ว่า
“เราจะไม่ให้ข้าวของเจ้า
เป็นอาหารของศัตรูของเจ้าอีก
และคนต่างด้าวจะไม่ดื่มเหล้าองุ่นของเจ้า
ซึ่งเจ้าตรากตรำได้มานั้น
9แต่พวกเก็บเกี่ยวมันจะได้กิน
แล้วสรรเสริญพระยาห์เวห์
และบรรดาผู้รวบรวมมันจะได้ดื่ม
ในลานแห่งสถานศักดิ์สิทธิ์ของเรา”
10จงเข้าไป จงเข้าไปทางประตูทั้งหลาย
จงจัดเตรียมทางไว้ให้ชนชาตินี้
จงยกขึ้น จงยกระดับทางหลวงขึ้น
จงเก็บกวาดหินเสียให้หมด
จงชูธงสัญญาณไว้เหนือชนชาติทั้งหลาย
11ดูสิ พระยาห์เวห์ทรงประกาศ
ไปถึงสุดปลายแผ่นดินโลกว่า
“จงกล่าวกับธิดาศิโยนว่า
‘นี่แน่ะ ความรอดของเจ้ามาแล้ว
ดูสิ รางวัลของพระองค์ก็อยู่กับพระองค์
และค่าตอบแทนของพระองค์ก็อยู่เฉพาะพระพักตร์พระองค์’ ”
12และคนทั้งหลายจะเรียกพวกเขาว่า ชนชาติบริสุทธิ์
ผู้รับการไถ่ไว้แล้วของพระยาห์เวห์
และเขาจะเรียกท่านว่า ถูกเสาะหามา
เมืองที่ไม่ได้ถูกทอดทิ้ง
อรรถาธิบาย
ชีวิตที่ถูกเจิม
พระเยซูทรงประกาศถึงแผนงานงานพันธกิจและแผ่นดินของพระองค์โดยการอ่านอิสยาห์บทที่ 61 นี่เป็นการสำแดงที่กล้าหาญและพลิกโฉม และคุณมีส่วนในการทำให้เกิดขึ้น
พระเยซูเสด็จเข้าไปในธรรมศาลาในเมืองนาซาเร็ธและได้รับม้วนหนังสือของผู้เผยพระวจนะอิสยาห์ เมื่อคลี่ออกแล้ว พระองค์พบข้อพระคัมภีร์ที่เป็นพระวจนะที่เราอ่านด้วยกันในวันนี้เขียนเอาไว้ว่า ‘พระวิญญาณของพระยาห์เวห์ องค์เจ้านายทรงอยู่เหนือข้าพเจ้า เพราะว่าพระยาห์เวห์ทรงเจิมข้าพเจ้าไว้ เพื่อนำข่าวดีมายังคนที่ทุกข์ใจ พระองค์ทรงส่งข้าพเจ้าไปเพื่อปลอบโยนคนชอกช้ำใจ และเพื่อประกาศอิสรภาพแก่บรรดาเชลย ทั้งประกาศการเปิดเรือนจำแก่ผู้ที่ถูกจำจอง เพื่อประกาศปีแห่งความโปรดปรานของพระยาห์เวห์' (อิสยาห์ 61:1–2; ลูกา 4:18–19)
พระเยซูตรัสกับคนที่ธรรมศาลาว่า ‘พระคัมภีร์ตอนนี้ที่พวกท่านได้ยินกับหูก็สำเร็จแล้วในวันนี้’ (ลูกา 4: 21) คำแถลงของพระเยซูเกี่ยวข้องกับอะไร?
1. เปลี่ยนชีวิต
เมื่อคุณพบพระเยซู การแลกเปลี่ยนครั้งใหญ่จะเกิดขึ้นในชีวิตของคุณ พระองค์ทรงรับบาปของคุณและประทานความชอบธรรมแก่คุณ พระองค์ให้อิสรภาพแก่นักโทษ ทำให้คนตาบอดมองเห็น และปลดปล่อยผู้ถูกกดขี่ (อิสยาห์ 61:1–3) พระองค์ประทาน ‘มงกุฎแทนขี้เถ้าแก่พวกเขา และให้น้ำมันแห่งความยินดีแทนการไว้ทุกข์ เสื้อคลุมแห่งการสรรเสริญแทนจิตวิญญาณที่ท้อแท้’ (ข้อ 3)
2. เปลี่ยนแปลงความสัมพันธ์
พระเยซูใช้การเปรียบเทียบของการแต่งงาน ‘เจ้าบ่าวเปรมปรีดิ์ในเจ้าสาวอย่างไร พระเจ้าของท่านจะเปรมปรีดิ์ในท่านอย่างนั้น’ (บทที่ 62 ข้อ 5ข) การแต่งงานมีขึ้นเพื่อชี้นำผู้คนไปสู่ความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิด สนิทสนม และเปี่ยมด้วยความรักที่พระเจ้าปรารถนาจะมีกับเรา สังคมที่เข้มแข็งถูกสร้างขึ้นจากครอบครัวที่เข้มแข็ง ครอบครัวที่เข้มแข็งถูกสร้างขึ้นจากชีวิตสมรสที่เข้มแข็ง
3. เปลี่ยนแปลงวัฒนธรรม
บ้านเมืองมักจะเป็นแหล่งของวัฒนธรรม อิสยาห์ประกาศว่า ‘เขาทั้งหลายจะสร้างสิ่งปรักหักพังโบราณขึ้นใหม่ เขาจะซ่อมเสริมที่ทิ้งร้างแต่เก่าก่อนขึ้น เขาจะซ่อมบรรดาเมืองที่พังแล้วขึ้นมาใหม่ คือที่ซึ่งร้างมาหลายชั่วอายุคนแล้วนั้น’ (61:4) คำแถลงของพระเยซูเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงของภูเขาแห่งอิทธิพล ตลาด, รัฐบาล, การศึกษา, สื่อ, ศิลปะและความบันเทิง
4. เปลี่ยนแปลงสังคม
สังคมที่เปลี่ยนแปลงจะเกี่ยวข้องกับการจัดการปัญหาความขัดสน พระเยซูเสด็จมาเพื่อประกาศข่าวดีแก่คนยากไร้ (ข้อ 1ข) นอกจากนี้ยังเกี่ยวข้องกับประเด็นความยุติธรรม ความทุกข์มากมายของโลกเกิดจากความอยุติธรรม 'เพราะตัวเรา ยาห์เวห์รักความยุติธรรม เราเกลียดการโจรกรรมและการอธรรม’ (ข้อ 8ก)
5. เปลี่ยนแปลงความเป็นผู้นำ
ความเป็นผู้นำเป็นกุญแจสำคัญในทุกสังคม คุณจะมีตำแหน่ง ‘ปุโรหิตของพระเจ้า’ ซึ่งได้รับเกียรติในฐานะผู้รับใช้ของพระเจ้าของเรา' (ข้อ 6, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)
คำอธิษฐาน
เพิ่มเติมโดยพิพพา
สุภาษิต 23:22
‘...อย่าดูหมิ่นมารดาเมื่อนางแก่'
ฉันจำเป็นต้องเตือนลูก ๆ ของฉันถึงพระวจนะตอนนี้!
ข้อพระคำประจำวัน
อิสยาห์ 61:1
‘พระวิญญาณของพระยาห์เวห์ องค์เจ้านายทรงอยู่เหนือ [ข้าพเจ้า] เพราะว่าพระยาห์เวห์ทรงเจิม [ข้าพเจ้า] ไว้ เพื่อนำข่าวดีมายังคนที่ทุกข์ใจ พระองค์ทรงส่งข้าพเจ้าไปเพื่อปลอบโยนคนชอกช้ำใจ และเพื่อประกาศอิสรภาพแก่บรรดาเชลย ทั้งประกาศการเปิดเรือนจำแก่ผู้ที่ถูกจำจอง’
App
Download the Bible in One Year app for iOS or Android devices and read along each day.
อีเมล
Sign up now to receive Bible in One Year in your inbox each morning. You’ll get one email each day.
เว็บไซต์
Subscribe and listen to Bible in One Year delivered to your favourite podcast app everyday.
การอ้างอิง
ข้อพระคัมภีร์อ้างอิงมาจากพระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 2011 สงวนสิทธิ์โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย (ยกเว้นข้อที่ระบุว่าเป็นฉบับอื่น)