วัน 266

พระเยซูทรงสร้างความแตกต่างอะไร?

ปัญญานิพนธ์ สดุดี 110:1-7
พันธสัญญาใหม่ เอเฟซัส 2:1-22
พันธสัญญาเดิม อิสยาห์ 55:1-57:13

เกริ่นนำ

ผมสัมภาษณ์ผู้คนหลายร้อยคนทั่วโลกที่เชื่อในพระเยซูมาแล้ว คำถามที่ผมถามซ้ำแล้วซ้ำเล่าคือ ‘พระเยซูทรงสร้างความแตกต่างอะไร?’ และคำตอบจริง ๆ จากคนที่ผมยกมานี้คือภาพรวม

‘ชีวิตของฉันเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ตอนนี้ฉันมองโลกด้วยสายตาที่ต่างออกไป... ฉันรู้สึกถึงความรักที่มีต่อทุกคนและความสงบภายในที่ฉันไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะมีอยู่จริง’

‘ฉันใช้ชีวิตอยู่ในหลุมดำ ฉันแบกรับภาระหนักอึ้งไว้บนบ่า... ภาระนั้นหมดไป... และฉันก็เปี่ยมด้วยความหวัง ความยินดี ความตื่นเต้นและความรัก และทั้งหมดที่ฉันต้องการ ที่ต้องทำคือรับใช้พระคริสต์ในทุกรูปแบบที่พระองค์เลือกมา’

‘ฉันรู้สึกเหมือนได้พบความรักและพิชิตความตายในหนึ่งวัน’

ความแตกต่างที่พระเยซูสร้างนั้นยิ่งใหญ่ ดำรงอยู่ตลอดไป และเป็นไปไม่ได้ที่จะเข้าใจอย่างถ่องแท้

ปัญญานิพนธ์

สดุดี 110:1-7

ชัยชนะมีแด่กษัตริย์ผู้ทรงเป็นปุโรหิตของพระเจ้า

เพลงสดุดีของดาวิด

1พระยาห์เวห์ตรัสกับกษัตริย์ของข้าพเจ้าว่า
 “จงนั่งที่ขวามือที่ขวามือ เป็นที่อันมีเกียรติของเรา
 จนกว่าเราจะทำให้ศัตรูของเจ้าเป็นแท่นรองเท้าของเจ้า”
2พระยาห์เวห์ทรงยื่นคทาแห่งการปกครองของท่าน
 ท่านจงครอบครองท่ามกลางศัตรูของท่านเถิด
3ชนชาติของท่านจะเต็มใจถวายตัว
 ในวันแห่งอำนาจของท่านในเครื่องแต่งกายบริสุทธิ์
จากครรภ์ของอรุโณทัย
 น้ำค้างแห่งวัยหนุ่มเป็นของท่าน
4พระยาห์เวห์ทรงปฏิญาณแล้ว
 และจะไม่เปลี่ยนพระทัยของพระองค์
“เจ้าเป็นปุโรหิตเป็นนิตย์
 ตามอย่างเมลคีเซเดค”
5องค์เจ้านายประทับที่ขวามือของท่าน
 พระองค์ทรงบดขยี้บรรดาพระราชา ในวันแห่งความกริ้วของพระองค์
6พระองค์จะทรงพิพากษาท่ามกลางบรรดาประชาชาติ
 ให้ซากศพเต็มไปหมด
พระองค์จะทรงบดขยี้ผู้เป็นประมุข
 ทั่วแผ่นดินโลกอันกว้างขวาง
7กษัตริย์จะทรงดื่มจากลำธารข้างทาง
 สุดท้ายจะทรงมีชัยชนะ

อรรถาธิบาย

การให้อภัยอย่างถาวร

พระเยซูทรงทำให้การให้อภัยเป็นไปได้ผ่านการเสียสละที่สมบูรณ์แบบเพียงครั้งเดียวเพื่อบาปของเรา พระองค์มีคุณสมบัติเฉพาะตัวที่จะทำเช่นนั้นในฐานะ 'ราชาแห่งราชา' และ 'มหาปุโรหิตยิ่งใหญ่'

พระเยซูทรงตระหนักจากเพลงสดุดีของดาวิดอย่างชัดเจนว่าดาวิดหมายถึงพระองค์เอง (ข้อ 1 ดูมัทธิว 22:42–45; ลูกา 20:42–44) ข้อพระคัมภีร์ตอนนี้เป็นหนึ่งในข้อพระคัมภีร์ที่ยกมาอ้างอิงบ่อยที่สุดในพันธสัญญาใหม่ คำพยากรณ์ในพันธสัญญาเดิมสองบรรทัดมารวมกันในพระธรรมสดุดีตอนนี้

  1. ราชาแห่งราชา
    แม้ว่าจะเกี่ยวกับกษัตริย์ที่เป็นมนุษย์ แต่ก็ชี้ให้เห็นถึงกษัตริย์แห่งฟ้าสวรรค์ เป็นองค์จอมกษัตริย์เหนือกษัตริย์ทั้งปวง (สดุดี 110:5)

  2. มหาปุโรหิตยิ่งใหญ่
    ผู้เขียนพระธรรมฮีบรูอ้างคำสดุดีนี้ว่าหมายถึงพระเยซู (ดู ฮีบรู 7:17–22) ว่าเป็นผู้ที่เป็นปุโรหิตเป็นนิตย์ตามอย่างเมลคีเซเดค (สดุดี 110:4) ทั้งเมลคีเซเดคและพระเยซูไม่ใช่ชาวเลวี แต่ทั้งคู่เป็นปุโรหิต ไม่ใช่โดยอาศัยบรรพบุรุษ แต่อยู่บนพื้นฐานของฤทธิ์เดชแห่งชีวิตอันไม่สามารถจะทำลายได้ (ฮีบรู 7:16)

ในขณะที่ปุโรหิตในพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาเดิมเป็นกันแบบชั่วคราว แต่ฐานะปุโรหิตของพระเยซูนั้นถาวร: ‘พระองค์ทรงเสียสละเพื่อบาปของพวกเขาทั้งหมดเพียงครั้งเดียวโดยมอบชีวิตของพระองค์เอง (ข้อ 27) ‘ท่านเป็นมหาปุโรหิตถาวร’ (สดุดี 110:4, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)

คำอธิษฐาน

ข้าแต่พระเยซูองค์จอมกษัตรา ขอบพระคุณที่พระองค์ได้ทรงเสียสละอย่างสมบูรณ์แบบเพื่อที่ข้าพระองค์จะได้รับการอภัยจากความบาป และชีวิตของข้าพระองค์จะเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
พันธสัญญาใหม่

เอเฟซัส 2:1-22

จากความตายสู่ชีวิต

 1ท่านทั้งหลายตายโดยการละเมิดและการบาปของท่าน 2เมื่อก่อนพวกท่านเคยดำเนินชีวิตในการบาปนั้นตามวิถีของโลกนี้ ตามผู้ครอบครองที่มีอำนาจในฟ้าอากาศ คือวิญญาณที่ทำกิจอยู่ในพวกคนที่ไม่เชื่อฟังในเวลานี้ 3เมื่อก่อนเราทุกคนเคยประพฤติเหมือนพวกเขาตามตัณหาของเนื้อหนัง คือทำตามความต้องการของเนื้อหนังและของความคิด โดยวิสัยแล้วเราจึงเป็นคนที่สมควรได้รับการลงโทษเหมือนอย่างคนอื่นๆ 4แต่พระเจ้าทรงเปี่ยมด้วยพระเมตตา พระองค์ทรงรักเราโดยความรักอันใหญ่หลวงของพระองค์ 5ถึงแม้ว่าเราเป็นคนตายเนื่องจากการละเมิด พระองค์ยังทรงทำให้มีชีวิตอยู่ร่วมกับพระคริสต์ (พวกท่านได้รับความรอดแล้วด้วยพระคุณ) 6และพระองค์ทรงทำให้เราเป็นขึ้นมาด้วยกันกับพระคริสต์ และทรงให้เรานั่งด้วยกันกับพระองค์ในสวรรคสถานในพระเยซูคริสต์ 7เพื่อว่าในยุคต่อๆ ไป พระองค์จะทรงสำแดงพระคุณอันอุดมเหลือล้นของพระองค์ ด้วยพระกรุณาที่มีต่อเราในพระเยซูคริสต์ 8เพราะว่าท่านทั้งหลายได้รับความรอดแล้วด้วยพระคุณโดยทางความเชื่อ ความรอดนี้ไม่ใช่มาจากตัวท่าน แต่เป็นของประทานจากพระเจ้า 9ไม่ใช่มาจากการกระทำ เพื่อไม่ให้ใครอวดได้ 10เพราะว่าเราเป็นฝีพระหัตถ์ของพระองค์ที่ทรงสร้างขึ้นในพระเยซูคริสต์เพื่อให้ทำการดี ซึ่งเป็นสิ่งที่พระเจ้าทรงจัดเตรียมไว้ก่อนแล้วเพื่อให้เราดำเนินตาม

การเป็นหนึ่งเดียวกันในพระคริสต์

 11ดังนั้นพวกท่านจงระลึกว่า เมื่อก่อนท่านทั้งหลายเป็นคนต่างชาติโดยกำเนิดภาษากรีกแปลตรงตัวว่า โดยเนื้อหนัง และฝ่ายที่เข้าสุหนัต (ซึ่งทำต่อร่างกาย) เคยเรียกท่านว่าพวกไม่ได้เข้าสุหนัต 12จงระลึกว่าตอนนั้นพวกท่านเป็นคนไม่มีพระคริสต์ ถูกตัดขาดจากการเป็นพลเมืองอิสราเอล เป็นคนนอกในเรื่องพันธสัญญาทั้งหลายที่ทรงสัญญาไว้ อยู่ในโลกนี้อย่างไม่มีความหวังและปราศจากพระเจ้า 13แต่บัดนี้ในพระเยซูคริสต์ ท่านทั้งหลายซึ่งเมื่อก่อนอยู่ไกล ได้เข้ามาใกล้โดยพระโลหิตของพระคริสต์ 14เพราะว่าพระองค์เองทรงเป็นสันติภาพของเรา โดยร่างกายของพระองค์ ทรงทำให้ทั้งสองฝ่ายเป็นหนึ่งเดียวกัน และทรงรื้อกำแพงที่แยกระหว่างสองฝ่ายคือการเป็นศัตรูกัน 15ทรงทำให้ธรรมบัญญัติซึ่งประกอบด้วยบัญญัติและคำสั่งต่างๆ นั้นเป็นโมฆะ เพื่อสร้างให้เป็นคนใหม่คนเดียวกันในพระองค์จากคนสองฝ่ายนั้น เช่นนั้นแหละ พระองค์จึงทรงทำให้เกิดสันติภาพ 16และทำให้ทั้งสองฝ่ายคืนดีกับพระเจ้าเป็นกายเดียวโดยทางกางเขน จึงเป็นเหตุให้การเป็นศัตรูกันหมดสิ้นไป 17พระองค์ทรงมาประกาศสันติภาพแก่พวกท่านที่อยู่ไกล และแก่บรรดาคนที่อยู่ใกล้ 18เพราะว่าโดยทางพระคริสต์เราทั้งสองฝ่ายมีโอกาสเข้าเฝ้าพระบิดาโดยพระวิญญาณองค์เดียวกัน 19เพราะฉะนั้น พวกท่านจึงไม่ใช่คนนอกและคนต่างด้าวอีกต่อไป แต่เป็นพลเมืองเดียวกับบรรดาธรรมิกชน และเป็นครอบครัวของพระเจ้า 20ท่านทั้งหลายถูกก่อร่างสร้างขึ้นบนรากฐานของบรรดาอัครทูตและบรรดาผู้เผยพระวจนะ มีพระเยซูคริสต์เป็นศิลาหัวมุม 21ในพระองค์นั้นทุกส่วนของโครงสร้างถูกเชื่อมต่อกันและเจริญขึ้นเป็นวิหารอันบริสุทธิ์ในองค์พระผู้เป็นเจ้า 22และในพระองค์นั้น พวกท่านก็กำลังถูกก่อร่างสร้างขึ้นด้วยกันให้เป็นที่สถิตของพระเจ้าโดยพระวิญญาณ

อรรถาธิบาย

สันติภาพและการคืนดี

‘สันติภาพ’ เป็นคำที่สรุปพระพรทั้งหมดที่พระเยซูทรงนำมาสู่ชีวิตเรา พระคริสต์เสด็จมาและเทศนาถึงความเป็นไปได้ของ ‘สันติภาพ’ ในทุกคน (ข้อ 17)

พระเยซูทรงนั่งอยู่เบื้องขวาพระหัตถ์ของพระเจ้าหลังจากการฟื้นคืนพระชนม์ตามคำพยากรณ์ในพระธรรมสดุดีที่อ่านกันในวันนี้ (สดุดี 110:1) การนั่งหมายถึงการพักและความสงบ คุณตายพร้อมกับพระคริสต์ ถูกฝังไว้กับพระองค์ และถูกชุบให้เป็นขึ้นกับพระองค์ และบัดนี้ได้นั่งอยู่กับพระองค์ในสวรรคสถาน (เอเฟซัส 2:6) คุณสามารถเพลิดเพลินกับสันติภาพ และพักสงบได้ในขณะที่คุณดำเนินชีวิตประจำวัน

เปาโลบรรยายถึง ชีวิตที่ปราศจากพระคริสต์ในลักษณะเหล่านี้ คือคุณนั้นจะ:

  • ‘ตายโดยการละเมิดและการบาปของท่าน’ (ข้อ 1)
  • ‘ดำเนินชีวิตในการบาปนั้นตามวิถีของโลก’ (ข้อ 2)
  • ‘ประพฤติเหมือนพวกเขาตามตัณหาของเนื้อหนัง คือทำตามความต้องการของเนื้อหนังและของความคิด’ (ข้อ 3ก)
  • ‘สมควรได้รับการลงโทษ’ (ข้อ 3ช)
  • ‘เป็นคนไม่มีพระคริสต์’ (ข้อ 12ก)
  • ‘เป็นคนที่อยู่นอกวิถีของพระเจ้า’ (ข้อ 11, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)
  • ‘เป็นคนนอกในเรื่องพันธสัญญาทั้งหลายที่ทรงสัญญาไว้’ (ข้อ 12ข)
  • ‘ไม่มีความหวัง’ (ข้อ 12ค)
  • ‘ปราศจากพระเจ้า’ (ข้อ 12ค)
  • ‘อยู่ไกล’ (ข้อ 13)
  • ‘[พบ]กำแพงที่แยกระหว่างสองฝ่ายคือการเป็นศัตรูกัน’ (ข้อ 14ข)
  • ‘[เป็น]คนนอกและคนต่างด้าว’ (ข้อ 19, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)

เปาโลอธิบาย ความแตกต่างที่พระเยซูทรงทำให้เกิดขึ้น ด้วยคำที่ตรงกันข้ามกันเหล่านี้ คือคุณนั้นจะ:

  • ‘เป็นขึ้นมาด้วยกันกับพระคริสต์’ (ข้อ 6)
  • ‘นั่งด้วยกันกับพระองค์ในสวรรคสถานในพระเยซูคริสต์’ (ข้อ 6)
  • ‘ผลงานอันยอดเยี่ยมของพระเจ้า’ (ข้อ 10, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก New Living Translation โดยผู้แปล)
  • ‘เป็นฝีพระหัตถ์ของพระองค์ที่ทรงสร้างขึ้นในพระเยซูคริสต์เพื่อให้ทำการดี ซึ่งเป็นสิ่งที่พระเจ้าทรงจัดเตรียมไว้ก่อนแล้วเพื่อให้เราดำเนินตาม’ (ข้อ 10)
  • ‘ได้เข้ามาใกล้โดยพระโลหิตของพระคริสต์’ (ข้อ 13)
  • ‘คืนดีกับพระเจ้าเป็นกายเดียวโดยทางกางเขน’ (ข้อ 16)
  • ‘เป็นพลเมืองเดียวกับบรรดาธรรมิกชน’ (ข้อ 19)
  • ‘เป็นครอบครัวของพระเจ้า’ (ข้อ 19)
  • ‘ถูกก่อร่างสร้างขึ้นด้วยกันให้เป็นที่สถิตของพระเจ้าโดยพระวิญญาณ’ (ข้อ 22)

ความแตกต่างระหว่างสิ่งที่ตรงกันข้ามกันก่อนหน้านี้ที่มาจากตัวคุณเองและจากพระเจ้า กับสันติภาพและการคืนดีที่พระเยซูนำมานั้น ไม่มีอะไรจะดีเยี่ยมไปกว่านี้อีกแล้ว พระเยซูเป็นผู้สร้างความแตกต่างนั้น คุณถูกทำให้มีชีวิตอยู่กับพระคริสต์ (ข้อ 5) คุณเป็นขึ้นมาด้วยกันกับพระคริสต์ (ข้อ 6) คุณรอดโดยความเชื่อในพระคริสต์ (ข้อ 8) คือ ในพระเยซูคริสต์ที่คุณได้เข้ามาใกล้ (ข้อ 13) โดยทางพระเยซู คุณสามารถเข้าถึงพระบิดาโดยพระวิญญาณองค์เดียว (ข้อ 18) พระเยซูคริสต์เองทรงเป็นศิลามุมเอกของพระวิหารใหม่ นั่นคือคริสตจักร

คำสั่งเดียวที่เปาโลให้ไว้ที่นี่คือ ‘จงระลึก’ (ข้อ 12–13) บ่อยครั้งเราลืมไปว่าการเป็นคริสเตียนนั้นเกี่ยวกับสิ่งที่พระเยซูทรงทำเพื่อเรา และมัวแต่จมปลักอยู่กับสิ่งที่เรากำลังทำอยู่ พระวจนะช่วงนี้ช่วยให้คุณหยุด ระลึก และขอบคุณพระผู้ช่วยให้รอดผู้ยอดเยี่ยม สำหรับทุกสิ่งที่พระองค์ทรงทำเพื่อคุณ

คำอธิษฐาน

ข้าแต่พระเจ้า ขอบพระคุณสำหรับความรักอันยิ่งใหญ่ที่ทรงมีต่อข้าพระองค์ ขอบพระคุณสำหรับการเปลี่ยนแปลงอย่างถึงที่สุดที่พระองค์นำมาสู่ชีวิตของข้าพระองค์
พันธสัญญาเดิม

อิสยาห์ 55:1-57:13

การเชิญชวนมายังชีวิตครบบริบูรณ์

1โอ้ ทุกคนที่กระหาย
 จงมายังน้ำ
และผู้ไม่มีเงิน
 จงมาหาซื้อและรับประทาน
จงมาซื้อเหล้าองุ่นและน้ำนม
 โดยไม่ต้องเสียเงินและค่าใช้จ่าย
2ทำไมพวกเจ้าจึงใช้เงินกับสิ่งที่ไม่ใช่อาหาร?
 และใช้ค่าจ้างกับสิ่งที่ไม่อิ่มใจ?
จงเอาใจใส่ฟังเรา และรับประทานของดี
 และให้ตัวเจ้าปีติยินดีในอาหารโอชา
3จงเอียงหูของเจ้า แล้วมาหาเรา
 จงฟัง เพื่อตัวเจ้าจะมีชีวิต
และเราจะทำพันธสัญญานิรันดร์กับพวกเจ้า
 ตามความรักมั่นคงแน่นอนของเราต่อดาวิด
4นี่แน่ะ เราได้ตั้งเขาเป็นสักขีพยานต่อชนชาติทั้งหลาย
 เป็นหัวหน้าและเป็นผู้บัญชาการของชนชาติทั้งหลาย
5ดูสิ เจ้าจะเรียกประชาชาติซึ่งเจ้าไม่รู้จัก
 และประชาชาติที่ไม่รู้จักเจ้าจะวิ่งมาหาเจ้า
เหตุด้วยพระยาห์เวห์ พระเจ้าของเจ้า คือองค์บริสุทธิ์ของอิสราเอล
 เพราะพระองค์ทรงให้เจ้าได้รับเกียรติ
6จงแสวงหาพระยาห์เวห์ ขณะที่จะพบพระองค์ได้
 จงทูลพระองค์ ขณะที่พระองค์ทรงอยู่ใกล้
7ให้คนอธรรมละทิ้งทางของเขา
 และคนชั่วละทิ้งความคิดของเขา
ให้เขากลับมายังพระยาห์เวห์ และพระองค์จะทรงเมตตาเขา
 และมายังพระเจ้าของพวกเรา เพราะพระองค์ทรงมีการอภัยอย่างเหลือล้น
8“เพราะความคิดของเราไม่ใช่ความคิดของเจ้า
 และทางของพวกเจ้าก็ไม่ใช่ทางของเรา”
 พระยาห์เวห์ตรัสดังนี้แหละ
9“เพราะฟ้าสวรรค์สูงกว่าแผ่นดินโลกอย่างไร
 ทางของเราก็สูงกว่าทางของพวกเจ้า
 และความคิดของเราก็สูงกว่าความคิดของเจ้าอย่างนั้น
10“เพราะเหมือนฝนและหิมะลงมาจากฟ้าสวรรค์
 และไม่กลับที่นั่นเว้นแต่ได้รดแผ่นดินโลก
แล้วทำให้บังเกิดผลและแตกหน่อ
 ทั้งให้เมล็ดพืชแก่ผู้หว่านและอาหารแก่คนกิน
11ทำนองเดียวกัน คำของเราที่ออกจากปากของเรา
 จะไม่กลับมาสู่เราเปล่าๆ
แต่จะทำให้สิ่งที่เราพอใจนั้นสำเร็จ
 และให้สิ่งที่เราใช้ไปทำนั้นเสร็จสิ้น
12“เพราะพวกเจ้าจะออกไปด้วยความชื่นบาน
 และจะถูกนำพาไปโดยสวัสดิภาพ
บรรดาภูเขาและเนินเขา
 จะเปล่งเสียงร้องเพลงต่อหน้าพวกเจ้า
 และต้นไม้ทั้งหมดในท้องทุ่งจะตบมือ
13ต้นสนสามใบจะงอกขึ้นแทนต้นหนาม
 ต้นน้ำมันเขียวจะงอกขึ้นแทนต้นไมยราบ
และมันจะเป็นอนุสรณ์แด่พระยาห์เวห์
 เพื่อเป็นหมายสำคัญนิรันดร์ที่จะไม่ถูกตัดออกเลย”

อิสยาห์ 56

พันธสัญญาที่ครอบคลุมทุกคนผู้เชื่อฟังพระเจ้า

1พระยาห์เวห์ตรัสดังนี้ว่า
 “จงรักษาความยุติธรรมและทำความชอบธรรม
เพราะความรอดของเราใกล้มาถึง  และความชอบธรรมของเราจะเผยออก
2ความสุขย่อมมีแก่คนที่ทำเช่นนี้
 และแก่มนุษย์ผู้ยึดมันไว้มั่น
คือผู้รักษาวันสะบาโต ไม่ทำให้วันนั้นเสื่อมเสียเสื่อมเสีย
 และรักษามือของเขาจากการทำชั่วร้ายใดๆ
3“อย่าให้คนต่างชาติผู้เข้าจารีตถือพระยาห์เวห์กล่าวว่า
 ‘พระยาห์เวห์จะทรงแยกข้าจากชนชาติของพระองค์แน่’
และอย่าให้ขันทีพูดว่า
 ‘ดูสิ ข้าเป็นต้นไม้เหี่ยวแห้ง’ ”
4เพราะพระยาห์เวห์ตรัสดังนี้ว่า
 “เกี่ยวกับบรรดาขันทีผู้รักษาวันสะบาโตของเรา
ผู้เลือกในสิ่งที่เราพอใจ
 และยึดมั่นในพันธสัญญาของเรา
5เราจะให้อนุสรณ์แก่เขาทั้งหลาย
 ภายในนิเวศและภายในกำแพงของเรา
ที่ดีกว่าบุตรชายและบุตรหญิง
 เราจะให้ชื่อนิรันดร์แก่เขาทั้งหลาย
 ซึ่งจะไม่ถูกตัดออกเลย
6“และคนต่างชาติผู้เข้าจารีตถือพระยาห์เวห์
 เพื่อปรนนิบัติพระองค์และรักพระนามของพระยาห์เวห์
และเป็นผู้รับใช้ของพระองค์
 ทุกคนที่รักษาวันสะบาโตไม่ให้เสื่อมเสีย
 และยึดมั่นในพันธสัญญาของเรา
7เราจะนำพวกเขามายังภูเขาบริสุทธิ์ของเรา
 และทำให้เขาชื่นบานอยู่ในนิเวศอธิษฐานของเรา
เครื่องบูชาเผาทั้งตัวของเขาและเครื่องบูชาของเขา
 จะเป็นที่โปรดปรานบนแท่นบูชาของเรา
เพราะนิเวศของเรานั้นเขาจะเรียกว่านิเวศอธิษฐาน
 สำหรับทุกชนชาติ”
8พระยาห์เวห์ องค์เจ้านาย
 ผู้ทรงรวบรวมอิสราเอลที่กระจัดกระจาย ตรัสว่า
“เราจะรวบรวมคนอื่นมาไว้กับเขา
 นอกจากพวกที่ได้รวบรวมไว้แล้ว”
 ความเสื่อมโทรมของพวกผู้นำอิสราเอล
9พวกเจ้า สัตว์ทั้งหมดในทุ่ง จงมากินซิ
 ทั้งพวกเจ้า สัตว์ทั้งหมดในป่า
10ยามของเขาตาบอด
 เขาทุกคนไร้ความรู้
เขาทุกคนเป็นสุนัขใบ้
 ไม่สามารถเห่า
ได้แต่ฝัน ได้แต่นอน
 รักแต่จะหลับ
11พวกสุนัขหิวจัด
 ไม่เคยรู้จักอิ่ม
พวกเขาคือผู้เลี้ยงแกะที่ไม่มีความเข้าใจ
 เขาทุกคนหันไปตามทางเขาเอง
 แต่ละคนล้วนหากำไรให้ตัวเองโดยไม่มีใครยกเว้น
12“มาเถิด ให้ข้าเอาเหล้าองุ่นมา
 ให้พวกเราดื่มเมรัยเต็มที่
และพรุ่งนี้ก็จะเหมือนวันนี้  จะใหญ่โตและมากมายยิ่งกว่าอีก”

อิสยาห์ 57

รูปเคารพอันไร้ประโยชน์ของอิสราเอล

1คนชอบธรรมตายจากไป
 และไม่มีผู้ใดใส่ใจ
คนซื่อตรงถูกเอาไปเสีย
 โดยไม่มีใครเข้าใจ
 เพราะคนชอบธรรมถูกเอาไปเสียจากภัยพิบัติ
2เขาเข้าไปในสันติสุข
 ผู้ดำเนินในความเที่ยงธรรมของเขา
 ก็พักสงบบนที่นอนของเขา
3แต่พวกเจ้า พวกลูกชายของแม่มด
 ลูกหลานของคนล่วงประเวณีและหญิงแพศยา
 จงเข้ามาใกล้ที่นี่
4พวกเจ้าพูดเย้ยหยันผู้ใด?
 เจ้าอ้าปากกว้าง และแลบลิ้นยาวใส่ใคร?
 เจ้าทั้งหลายเป็นลูกทรยศ  เป็นเชื้อสายหลอกลวงไม่ใช่หรือ?
5พวกเจ้าผู้เร่าร้อนด้วยราคะท่ามกลางต้นโอ๊ก
 ภายใต้ต้นไม้เขียวทุกต้น
ทั้งฆ่าลูกทั้งหลายของเจ้าในหุบเขา
 ใต้ซอกหินของหน้าผา
6ส่วนแบ่งของเจ้าอยู่กลางหินเกลี้ยงเกลาของหุบเขา
 พวกมัน พวกมันเป็นส่วนของเจ้า
เจ้าได้เทเครื่องดื่มบูชาด้วย
 และนำธัญบูชามาถวาย  เราจะยอมผ่อนปรนในเรื่องเหล่านี้หรือ?
7บนภูเขาสูงเด่น
 เจ้าตั้งที่นอนของเจ้าไว้
 และเจ้าไปถวายเครื่องบูชาที่นั่น
8เจ้าได้ตั้งสัญลักษณ์ของเจ้า
 ไว้หลังประตูและเสาประตู
เพราะว่า ในการละทิ้งเรานั้น เจ้าได้เปิดผ้าคลุมเตียงของเจ้า
 แล้วเจ้าขึ้นไปบนนั้น
เจ้าทำให้มันกว้าง
 และเจ้าตกลงกับพวกมันเพื่อเจ้าเอง
เจ้ารักเตียงของพวกมัน
 และเจ้ามองดูความเปลือยเปล่า
9เจ้าเดินทางไปหาพระโมเลคพร้อมกับน้ำมัน
 และทวีน้ำหอมของเจ้า
เจ้าได้ส่งทูตของเจ้าไปไกล
 แม้ให้ลงไปถึงแดนคนตาย
10เจ้าเหน็ดเหนื่อยเพราะเจ้าเดินทางมากมาย
 แต่เจ้าไม่ได้พูดว่า “หมดหวัง”
กำลังของเจ้าได้รับการฟื้นฟู
 เจ้าจึงไม่ได้อ่อนเปลี้ยไป
11เจ้าครั่นคร้ามและกลัวใคร?
 เจ้าจึงได้โกหก
และไม่ระลึกถึงเรา
 ทั้งไม่เอาใจใส่เรา
เราได้ปิดปากอยู่เป็นเวลานาน
 จนเจ้าไม่เกรงกลัวเราไม่ใช่หรือ?
12เราจะบอกถึงความชอบธรรมและการกระทำของเจ้า
 แต่มันก็ไม่เป็นประโยชน์ต่อเจ้า
13เมื่อเจ้าร้องขอก็ให้รูปเคารพที่เจ้าสะสมไว้นั้นช่วยเจ้าซี
 แต่ลมจะพัดมันไปทั้งหมด
ลำพังลมหายใจก็หอบมันไปแล้ว
 แต่ผู้ลี้ภัยในเราจะได้ครอบครองแผ่นดิน
 และจะได้ภูเขาบริสุทธิ์ของเราเป็นมรดก

อรรถาธิบาย

วัตถุประสงค์และความหมาย

พระคัมภีร์เป็นคำเชิญที่มีมาอย่างยาวนานให้เรามาหาพระเจ้า เริ่มต้นด้วยการทรงเรียกของพระเจ้าถึงอาดัม ที่เต็มไปด้วยความรัก และความปวดร้าวว่า ‘เจ้าอยู่ที่ไหน?’ (ปฐมกาล 3:9) ปิดท้ายด้วยคำเชื้อเชิญจากพระวิญญาณ และเจ้าสาวที่กล่าวว่า ‘เชิญเสด็จมาเถิด’ (วิวรณ์ 22:17)

พระเยซูมักจะเชิญผู้คน ‘จงมาหาเรา’ (มัทธิว 11:28) ‘เชิญมาในงานเลี้ยงอภิเษกสมรสนี้เถิด’ (22:4) ‘ถ้าใครกระหาย ให้คนนั้นมาหา’ (ยอห์น 7:37) ในพระวจนะตอนนี้ พระเจ้าส่งคำเชิญให้มาอีกครั้ง

‘บรรดาผู้กระหายน้ำ
 มาที่น้ำนี่เถิด!
เจ้านั้น ไม่มีเงินเลยหรือ
 มาเถิด ซื้อและกิน
มาเถอะ ซื้อเครื่องดื่ม ซื้อไวน์และนม
 ซื้อโดยไม่ต้องใช้เงิน ทุกอย่างไม่มีค่าใช้จ่าย!’ (อิสยาห์ 55:1, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)

คำเชิญเป็นเรื่องเร่งด่วนและเป็นไปเพื่อทุกคน พระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาใหม่มองว่านี่เป็นคำเชื้อเชิญของพระเยซูแก่เรา (ดู กิจการ 13:34–35) ต่อไปนี้คือเหตุผลสี่ประการที่คุณควรมาหาพระองค์

  1. พระเยซูผู้เดียวสามารถสนองความหิวโหยในใจคุณได้
    หากปราศจากพระเยซู เราก็กระหายน้ำ (อิสยาห์ 55:1) เราตรากตรำเพื่อสิ่งที่ไม่เป็นที่พอใจ (ข้อ 2) พระคำเริ่มต้นที่สะท้อนเสียงร้องพ่อค้าในบาบิโลนอันเป็นศูนย์กลางการค้าในโลกยุคโบราณ ข้อความในพระคำนั้นคือ: ไม่มีสิ่งใดเติมเต็มเราได้และเราก็มักจะรู้สึกว่างเปล่าเสมอหากปราศจากพระเจ้า เราจะประสบกับการรู้สึกว่างเปล่าและความรู้สึกไม่พึงพอใจ

ข้อเสนอของพระเยซูนั้นไม่ต้องการสิ่งใดมาแลก เพราะมันมีเพื่อ ‘ผู้ไม่มีเงิน' (ข้อ 1) พระสัญญาคือเมื่อคุณมาหาพระเยซู ‘ตัวเจ้าปีติยินดีในอาหารโอชา...ตัวเจ้าจะมีชีวิต’ (ข้อ 2-3) บรรดาผู้ที่มาหาพระองค์ก็พอใจอย่างยิ่ง พระเจ้าไม่ได้เสนออาหารขยะให้คุณ แต่เป็นอาหารอันโอชา พระองค์ตรัสว่า ‘ให้ชีวิต’ และ ‘หล่อเลี้ยงชีวิต’ (ข้อ 2, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)

  1. ความรักและพระเมตตาของพระเยซูยิ่งใหญ่
    การกลับใจเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อที่จะได้ชื่นชมการประทับของพระเจ้าอย่างเต็มที่ (ข้อ 6–9) ให้เราละทิ้งความบาป: ‘ให้คนอธรรมละทิ้งทางของเขา และคนชั่วละทิ้งความคิดของเขา’ (ข้อ 7ก) ผมชอบคำจำกัดความของการกลับใจของเด็ก: ‘เสียใจมากพอจนต้องหยุดในสิ่งที่ทำลงไป’

การกลับใจยังรวมถึงการหันไปหาพระเจ้า: ‘ให้เขากลับมายังพระยาห์เวห์ และพระองค์จะทรงเมตตาเขา และมายังพระเจ้าของพวกเรา เพราะพระองค์ทรงมีการอภัยอย่างเหลือล้น’ (ข้อ 7ข) ไม่ว่าคุณจะล้มลงไปมากเพียงใด พระเจ้าจะทรงอภัยให้คุณ พระองค์นั้น ‘มากล้นด้วยการให้อภัย’ (ข้อ 7, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)

  1. พระเยซูทรงเป็นผู้เปลี่ยนชีวิต
    'เพราะพวกเจ้าจะออกไปด้วยความชื่นบาน และจะถูกนำพาไปโดยสวัสดิภาพ บรรดาภูเขาและเนินเขา จะเปล่งเสียงร้องเพลงต่อหน้าพวกเจ้า และต้นไม้ทั้งหมดในท้องทุ่งจะตบมือ ต้นสนสามใบจะงอกขึ้นแทนต้นหนาม ต้นน้ำมันเขียวจะงอกขึ้นแทนต้นไมยราบ’ (ข้อ 12–13)

การนำข้อนี้ไปใช้โดยทันทีคือการที่ชาวยิวออกจากบาบิโลน อิสราเอลจะต้อง ‘ออกไป’ จากบาบิโลนและกลับไปยังกรุงเยรูซาเล็มด้วย ‘ความชื่นบาน’ และ ‘สวัสดิภาพ’

อย่างไรก็ตาม คำพยากรณ์จะไม่บรรลุผลสำเร็จอย่างสมบูรณ์จนกว่าพระเยซูคริสต์จะเสด็จกลับมา จากนั้นทุกอย่างก็จะได้รับการเติมเต็มและฟื้นฟู คุณได้ทราบล่วงหน้าถึงสิ่งนี้ ในชีวิตนี้ แต่ความสมบูรณ์ของข้อความเหล่านี้จะมาถึงเมื่อพระเยซูเสด็จกลับมา ในสวรรค์ใหม่ และโลกใหม่

พระคัมภีร์ไม่ได้เป็นเพียงเรื่องราวของเผ่าพันธุ์มนุษย์เท่านั้น แต่ยังเป็นเรื่องราวของการทรงสร้างทั้งหมดที่เผ่าพันธุ์มนุษย์มีบทบาทสำคัญและเป็นศูนย์กลาง

  1. พระเยซูมีเป้าหมายสำหรับชีวิตคุณ
    พระพรของพระเจ้าไม่เคยมีเจตนาให้ได้รับความสุขอย่างเห็นแก่ตัว (ข้อ 3ข–5) พระพรจะได้รับเปี่ยมล้นเพื่อไปยังผู้อื่น คุณไม่สามารถเสนอสิ่งที่คุณยังไม่ได้รับให้ผู้อื่นได้ แต่เมื่อได้รับพรแล้วให้ส่งต่อไป

ดังที่เปาโลกล่าวไว้ในพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาใหม่ตอนที่คุณอ่านในวันนี้ คุณเป็น ‘ผลงานชิ้นเอกของพระเจ้า’ พระองค์ทรงสร้างคุณใหม่ในพระเยซูคริสต์เพื่อที่คุณจะได้ทำสิ่งที่ดีซึ่งพระองค์ทรงวางแผนไว้ให้คุณเมื่อนานมาแล้ว (ดู เอเฟซัส 2:10, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก the New Living Translation โดยผู้แปล) ชีวิตของคุณมีเป้าหมาย เรื่องราวของคุณมีความสำคัญ ความฝันของคุณถูกนับไว้ เสียงของคุณมีความสำคัญ คุณเกิดมาเพื่อสร้างผลกระทบ

คำอธิษฐาน

ข้าแต่พระเจ้า ขอบพระคุณที่พระองค์ทรงเชิญข้าพระองค์ให้มาหาพระองค์เพื่อดื่มน้ำแห่งชีวิต ขอบคุณสำหรับความแตกต่างอันยิ่งใหญ่ที่พระองค์สร้างให้กับชีวิตของข้าพระองค์ ทั้งในเวลานี้ และในนิรันดร์

เพิ่มเติมโดยพิพพา

เอเฟซัส 2:10

‘เพราะว่าเราเป็นฝีพระหัตถ์ของพระองค์ที่ทรงสร้างขึ้นในพระเยซูคริสต์เพื่อให้ทำการดี ซึ่งเป็นสิ่งที่พระเจ้าทรงจัดเตรียมไว้ก่อนแล้วเพื่อให้เราดำเนินตาม’

เหตุผลหนึ่งที่เราถูกสร้างมาก็คือการทำความดี ฉันสงสัยว่าพระเจ้าได้ ‘จัดเตรียมไว้ก่อนแล้ว’ ให้ฉันทำอะไรในวันนี้กันนะ

ข้อพระคำประจำวัน

เอเฟซัส 2:10, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก New Living Translation โดยผู้แปล

‘คุณเป็นผลงานชิ้นเอกของพระเจ้า’

reader

App

Download the Bible in One Year app for iOS or Android devices and read along each day.

reader

อีเมล

Sign up now to receive Bible in One Year in your inbox each morning. You’ll get one email each day.

reader

เว็บไซต์

Subscribe and listen to Bible in One Year delivered to your favourite podcast app everyday.

การอ้างอิง

ข้อพระคัมภีร์อ้างอิงมาจากพระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 2011 สงวนสิทธิ์โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย (ยกเว้นข้อที่ระบุว่าเป็นฉบับอื่น)

เว็บไซต์นี้จัดเก็บข้อมูล เช่น คุกกี้ เพื่อเปิดใช้งานฟังก์ชั่นและการวิเคราะห์ที่จำเป็นเท่านั้น ดูเพิ่มเติม