วัน 252

วิถีของการรู้จักและรักพระเยซู

ปัญญานิพนธ์ สุภาษิต 22:7-16
พันธสัญญาใหม่ 2 โครินธ์ 11:1-15
พันธสัญญาเดิม อิสยาห์ 20:1-23:18

เกริ่นนำ

โซฟีเป็นลูกคนเดียว แม่ของเธอแท้งบุตรไปถึงสิบสี่ครั้งก่อนเธอจะเกิด พ่อแม่ของเธอจึกรักเธอดั่วแแก้วตาดวงใจ เธอเองก็รักพ่อแม่ของเธอมากเช่นกัน ตอนนี้โซฟีเป็นผู้ใหญ่แล้ว และยังคงรักที่จะใช้เวลากับพ่อแม่ให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

เธอบอกกับผมว่าตอนเธออยู่ที่โรงเรียน เธอและเพื่อนนักเรียนถูกถามว่าพวกเขาคิดว่าพ่อแม่รักพวกเขามากกว่าที่จะรักกันเองหรือไม่ ส่วนใหญ่ตอบไปว่าน่าจะเป็นอย่างนั้น อย่างไรก็ตามโซฟีตอบไปว่าเธอคิดว่าพ่อแม่ของเธอรักกันและกันมากยิ่งกว่า แต่มันเป็นสายใยแห่งความรักที่ทำให้เธอรู้สึกมั่นคงและเป็นที่รักมาก

แก่นของความเชื่อในคริสเตียน คือ ความสัมพันธ์กับพระเจ้าผ่านพระเยซูคริสต์ การเป็นคริสเตียนคือการรู้จัก และรักพระคริสต์

ความสัมพันธ์นี้เป็นอย่างไร? พระคริสตธรรมคัมภีร์อธิบายโดยใช้ภาษาและการเปรียบเทียบในรูปภาพที่มนุษย์เข้าใจได้ เป็นความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดสนิทสนมที่สุดเหมือนเป็นพ่อ แม่ และลูก (ลูกา 1 , โรม 8) แต่เปาโลไปไกลกว่านั้นในแง่ของความสนิทสนม เขาเรียกพระคริสต์ว่าเป็นดั่งสามีและคริสตจักรเป็นเจ้าสาวของพระคริสต์ (2 โครินธ์ 11:2, ดู เอเฟซัส 5:22-23 ด้วย) นี่คือความสัมพันธ์ที่แนบแน่นที่สุด สำคัญที่สุด และใกล้ชิดสนิทสนมที่สุด

ปัญญานิพนธ์

สุภาษิต 22:7-16

7คนมั่งคั่งมีอำนาจเหนือคนยากจน
 และผู้ขอยืมก็เป็นทาสของผู้ให้ยืม
8ผู้หว่านความชั่วจะเก็บเกี่ยวสิ่งเลวร้าย
 และไม้เรียวแห่งความเกรี้ยวกราดของเขาจะสิ้นไป
9คนใจกว้างจะได้รับพระพร
 เพราะเขาแบ่งปันอาหารของเขาแก่คนจน
10จงไล่คนชอบเยาะเย้ยออกไปเสีย แล้วการวิวาทจะหมดไป
 การทุ่มเถียงและการสบประมาทก็จะหยุดลง
11คนที่บริสุทธิ์ใจและวาจามีเมตตาคุณ
 จะได้พระราชาเป็นมิตร
12พระเนตรของพระยาห์เวห์เฝ้ารักษาความรู้
 แต่พระองค์ทรงทำลายถ้อยคำของคนไร้ความเชื่อเสีย
13คนเกียจคร้านพูดว่า “มีสิงโตอยู่ข้างนอก
 ข้าจะถูกฆ่ากลางลานเมือง”
14ปากของหญิงแพศยาเป็นหลุมลึก
 คนที่พระยาห์เวห์กริ้วจะตกลงในนั้น
15ความโง่ติดอยู่ในใจเด็ก
 แต่ไม้เรียวที่ตีสอนจะไล่ให้ห่างจากเขา
16คนที่บีบบังคับคนยากจนเพื่อให้ตนมั่งมี
 และคนที่ให้แก่คนมั่งคั่ง จะมาถึงความขัดสนแน่นอน

อรรถาธิบาย

ชื่นชมในความสัมพันธ์กับองค์ราชา

แอชลีย์ เมดิสัน เป็นบริการหาคู่ออนไลน์ในแคนาดาที่ทำการตลาดให้กับผู้ที่แต่งงานแล้ว หรืออยู่ในความสัมพันธ์กับใครสักคนเป็นที่เรียบร้อย คำขวัญของช่องทางนี้คือ ‘ชีวิตสั้นนัก มีชู้สิ’

เมื่อเร็ว ๆ นี้หนังสือเล่มหนึ่งได้รับการตีพิมพ์ในสหราชอาณาจักร ให้คำแนะนำว่าการล่วงประเวณีอาจดีต่อชีวิตสมรส แต่นี่มันไม่มีทางเป็นความจริงได้เลย

ความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดต้องการความซื่อสัตย์ องค์พระผู้เป็นเจ้า ‘ทรงทำลายถ้อยคำของคนไร้ความเชื่อเสีย’ (ข้อ 12) ‘ปากของหญิงแพศยาเป็นหลุมลึก’ (ข้อ 14ก) การล่วงประเวณีทำลายความซื่อสัตย์ในชีวิตสมรส และทำให้เกิด ‘หลุมลึก’

‘คนที่บริสุทธิ์ใจและวาจามีเมตตาคุณ จะได้พระราชาเป็นมิตร’ (ข้อ 11) ในที่นี้ ผู้เขียนกล่าวถึงพระราชาที่เป็นมนุษย์ การผสมผสานระหว่างคุณธรรมและเสน่ห์สามารถนำผู้คนมาพบปะพูดคุยกับผู้นำได้ทุกประเภท ผูกสัมพันธ์ได้แม้กระทั่งกับพระราชา

แต่ไม่ใช่ทุกคนที่สามารถเป็นเพื่อนกับพระราชวงศ์ได้ น้อยคนนักที่จะรู้จักพระราชาที่เป็นมนุษย์ แต่ช่างน่ามหัศจรรย์ คุณได้รับเชิญให้เป็นสหายกับองค์ราชาแห่งราชาทั้งปวง องค์จอมเจ้านายสูงสุด นั่นคือพระเยซูคริสต์

ภาษาที่ใช้ในข้อ 11 ‘บริสุทธิ์’ และ ‘เมตตาคุณ’ ไม่ต่างจากภาษาที่ใช้ใน 2 โครินธ์ 11:3 ‘ความซื่อ และความบริสุทธิ์ต่อพระคริสต์’

มิตรภาพต้องอาศัยความพยายามด้วย เราต้องเลือกที่จะแสดงความรักและความสัตย์ซื่อในการกระทำของเราต่อไปเพื่อรักษาความสัมพันธ์ใกล้ชิด ‘คนเกียจคร้านพูดว่า “มีสิงโตเดินวนไปมา ถ้าฉันออกไป ฉันจะถูกกินทั้งเป็น”’ (สุภาษิต 22:13, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) กล่าวอีกนัยหนึ่ง คนเกียจคร้านมักจะหาข้อแก้ตัวได้แบบสุดโต่ง มาโต้แย้งถึงเหตุผลที่พวกเขาต้องลุกขึ้นและใช้ความพยายาม

ความสัมพันธ์ใกล้ชิดทั้งหลายทั้งมวล รวมถึงความสัมพันธ์กับพระเยซู ต้องใช้ความพยายาม และให้เวลาหากต้องการเห็นการเติบโต และจำเริญขึ้น จงตัดสินใจในวันนี้เพื่ออุทิศเวลาและพลังงานให้กับมิตรภาพระหว่างคุณกับพระเยซู

คำอธิษฐาน

ข้าแต่พระเจ้า ขอบคุณที่พระองค์เชิญข้าพระองค์มาเป็นเพื่อน ขอทรงช่วยให้ข้าพระองค์มีใจบริสุทธิ์ มีวาจาไพเราะ มีใจกว้าง (ข้อ 9) และสัตย์ซื่อ
พันธสัญญาใหม่

2 โครินธ์ 11:1-15

เปาโลและอัครทูตปลอม

 1ข้าพเจ้าอยากขอให้ท่านทั้งหลายอดกลั้นต่อความโง่เขลาเล็กๆ น้อยๆ ของข้าพเจ้า แต่ที่จริงท่านก็อดกลั้นอยู่แล้วแต่ที่จริงท่านก็อดกลั้นอยู่แล้ว แปลได้อีกว่า พวกท่านจงอดกลั้นต่อข้าพเจ้า 2เพราะว่าข้าพเจ้าหวงแหนพวกท่านอย่างที่พระเจ้าทรงหวงแหน เพราะว่าข้าพเจ้าหมั้นท่านไว้กับสามีคนเดียว เพื่อถวายพวกท่านให้เป็นหญิงพรหมจารีบริสุทธิ์แด่พระคริสต์ 3แต่ข้าพเจ้ากลัวว่า งูนั้นล่อลวงนางเอวาด้วยอุบายของมันอย่างไร ความคิดของท่านทั้งหลายก็จะถูกทำให้หลงไปจากความซื่อ และความบริสุทธิ์ต่อพระคริสต์อย่างนั้น 4เพราะว่าถ้าใครมาเทศนาถึงพระเยซูอีกองค์หนึ่ง ซึ่งไม่ใช่องค์ที่เราเคยเทศนานั้น หรือถ้าพวกท่านรับพระวิญญาณ ซึ่งแตกต่างจากที่ท่านเคยรับนั้น หรือรับข่าวประเสริฐซึ่งแตกต่างกับที่พวกท่านเคยรับไว้แล้ว ท่านทั้งหลายก็ช่างอดกลั้นดีจริงๆ 5เพราะข้าพเจ้าคิดว่าข้าพเจ้าไม่ด้อยกว่าอัครทูตพิเศษเหล่านั้นแม้แต่น้อยเลย 6แม้ข้าพเจ้าพูดไม่เก่ง แต่ข้าพเจ้าก็มีความรู้ดี ที่จริงเราแสดงข้อนี้ต่อพวกท่านเสมอในทุกเรื่องแล้ว
 7ข้าพเจ้าทำผิดหรือที่ถ่อมใจลงเพื่อยกชูท่านขึ้น เพราะข้าพเจ้าประกาศข่าวประเสริฐของพระเจ้าแก่พวกท่านโดยไม่คิดเงิน 8ข้าพเจ้าปล้นคริสตจักรอื่นๆ ด้วยการรับเงินอุดหนุนจากพวกเขา เพื่อปรนนิบัติท่านทั้งหลาย 9และเมื่อข้าพเจ้าอยู่กับพวกท่าน และกำลังขัดสนอยู่นั้น ข้าพเจ้าก็ไม่ได้เป็นภาระกับใคร เพราะว่าพี่น้องที่มาจากแคว้นมาซิโดเนียได้จัดเตรียมสิ่งที่ข้าพเจ้าขัดสนให้กับข้าพเจ้า ข้าพเจ้าทำตัวไม่ให้เป็นภาระกับพวกท่านในทุกด้าน และข้าพเจ้าจะทำตัวเช่นนี้ต่อไป 10ความจริงของพระคริสต์อยู่ในข้าพเจ้าอย่างไร จะไม่มีใครในแคว้นอาคายาที่สามารถห้ามข้าพเจ้าอวดเรื่องนี้อย่างนั้น 11เพราะอะไร? เพราะข้าพเจ้าไม่รักพวกท่านหรือ? พระเจ้าทรงทราบดีว่าข้าพเจ้ารักพวกท่าน
 12และสิ่งใดที่ข้าพเจ้าทำ ข้าพเจ้าก็จะทำต่อไป เพื่อปิดโอกาสคนพวกนั้นที่ชอบฉวยโอกาสให้คนยอมรับว่าเหมือนกับเรา ในสิ่งที่พวกเขาอวด 13เพราะว่าคนพวกนั้นเป็นอัครทูตปลอม เป็นคนงานที่หลอกลวง พวกที่ปลอมตัวเป็นอัครทูตของพระคริสต์ 14การทำเช่นนั้นไม่ประหลาดเลย เพราะว่าซาตานเองก็ยังปลอมตัวเป็นทูตสวรรค์ของความสว่าง 15เพราะฉะนั้นจึงไม่แปลกเลยที่ผู้ปรนนิบัติของซาตาน จะปลอมตัวเป็นผู้ปรนนิบัติของความชอบธรรม บั้นปลายของพวกเขาจะเป็นไปตามการกระทำของเขา

อรรถาธิบาย

ปกป้องชีวิตสมรสของคุณกับพระคริสต์

บางครั้งเราทำให้ชีวิตซับซ้อนเกินไป เราสามารถทำให้ความเชื่อกลายเป็นเรื่องซับซ้อนเกินพอดี คุณได้รับการทรงเรียกให้เข้าสู่ ‘ความบริสุทธิ์ ซึ่งมีอยู่ในพระคริสต์’ (ข้อ 3 พระคัมภีร์ตอนนี้จาก King James Version) ความบริสุทธิ์ไม่ได้หมายถึงความเรียบง่าย แต่หมายถึง ‘การอุทิศตนอย่างบริสุทธิ์ใจและทุ่มเทอย่างบริสุทธิ์แด่พระคริสต์’ (ข้อ 3, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก Amplified Bible โดยผู้แปล)

เปาโลนำชาวโครินธ์ให้เชื่อในพระเยซู ท่านแนะนำให้บรรดาคนเหล่านั้นรู้จักกับสามีและเรียกชาวโครินธ์ว่า ‘เจ้าสาวของพระคริสต์' ท่านไม่ต้องการให้ชาวโครินธ์หลงไป: ‘ข้าพเจ้าหมั้นท่านไว้กับพระคริสต์ ถวายท่านเป็นหญิงพรหมจรรย์บริสุทธิ์แด่สามี... ท่านกำลังถูกล่อให้ห่างจากความบริสุทธิ์อันเข้าถึงได้ของความรักที่มีต่อพระคริสต์’ (ข้อ 2-3, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)

เด็ก ๆ มี ‘ความบริสุทธิ์อันเข้าถึงได้ง่าย’ ในชีวิตของพวกเขา พวกเขามีแนวทางความสัมพันธ์ที่ไม่ซับซ้อน พวกเขาสนุกกับตัวเองมากเท่าที่จะมากได้ ทำตัวตามสบายและปราศจากเรื่องกลัดกลุ้ม นี่คือความบริสุทธิ์ที่คุณต้องปกป้องในความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับพระเยซู

เปาโลรักพวกเขา: ‘ข้าพเจ้าห่วงใยท่านมาก นี่คือความปรารถนาของพระเจ้าที่เร่าร้อนอยู่ภายใน’ (ข้อ 2, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) ‘ไม่ใช่ว่าข้าพเจ้าไม่รักพวกท่าน พระเจ้ารู้ว่าข้าพเจ้ารัก’ (ข้อ 11, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)

เปาโลตั้งใจแน่วแน่ที่จะสั่งสอนออกไป: ‘ข้าพเจ้าประกาศข่าวประเสริฐของพระเจ้าแก่ [พวกท่าน] โดยไม่คิดเงิน’ (ข้อ 7) ‘ข้าพเจ้าจะตายก่อนที่จะรับเงินของท่าน’ (ข้อ 12, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) นี่เป็นเหตุผลหนึ่งที่ผมรู้สึกจริง ๆ ว่าไม่ควรมีสักคนเดียวที่จะต้องชำระเงินเพื่อมาเข้าร่วมอัลฟ่า เราไม่ควรเก็บเงินเมื่อจบหลักสูตร พระกิตติคุณต้อง ‘ไม่มีค่าใช้จ่าย’ เสมอ

อย่างไรก็ตาม บางคนต้องสมทบทุนเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายให้: ‘ความต้องการของข้าพเจ้ามาจากผู้เชื่อจากแคว้นมาซิโดเนียเสมอมา’ (ข้อ 9, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) เปาโลค่อนข้างมีความสุขที่คริสตจักรต่าง ๆ ถวายทรัพย์เพื่องานประกาศพระกิตติคุณจะได้ไปถึงผู้คนโดยไม่มีค่าใช้จ่าย การระดมทุนไม่ได้เป็นเรื่องผิด แต่เราไม่ควรพยายามระดมทุนจากคนที่เรากำลังประกาศข่าวประเสริฐให้

เปาโลกังวลว่า ‘เจ้าสาว’ กำลังหนีไปพร้อมกับพวกผู้สอนเท็จ ซึ่งเป็นพวกที่ประกาศข่าวประเสริฐอื่น ๆ เทศนาถึงพระเยซูอีกองค์หนึ่งด้วยวิญญาณตนอื่นที่ต่างไปจากเดิม (ข้อ 4) พวกเขาเหมือนซาตานกำลังปลอมตัวเป็นทูตสวรรค์แห่งความสว่าง (ข้อ 14)

การปลอมตัวนี้ทำให้การแยกแยะด้วยฝ่ายวิญญาณทำได้ยากขึ้น และเป็นเรื่องที่ละเลยไม่ได้เลย คุณไม่ต้องการที่จะสงสัยในแรงจูงใจของคนอื่นก็จริง แต่คุณต้องขอความเข้าใจทางฝ่ายวิญญาณและสติปัญญา

เปาโลไม่ได้พูดเกี่ยวกับคริสเตียนคนอื่น ๆ ที่มีมุมมองต่างออกไปจากเดิมเล็กน้อย หรือใครก็ตามที่ได้ข้อสรุปต่างไปจากคุณในเรื่องรองลงมาของหลักข้อเชื่อ แต่คนที่อัครสาวกเปาโลกำลังเตือนถึง คือ ‘นักเทศน์ผู้เรียกร้องค่าตอบแทน’ ‘อัครสาวกหลอกลวง’ ‘นักเทศน์โป้ปดมดเท็จ’ ‘คนงานผู้คดเคี้ยว’ ‘เสแสร้งไปจนถึงแก่น’ (ข้อ 12-13, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)

นี่ไม่เทียบเท่ากับนิกายหรือประเพณีของคริสเตียนต่างๆ แต่มันคือ ‘พระเยซูอีกองค์หนึ่ง’ (ข้อ 4, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) นี่คือเหตุผลที่เปาโลใส่ใจอย่างมาก การติดตาม ‘พระเยซูอีกองค์หนึ่ง’ นับเป็นการล่วงประเวณีฝ่ายวิญญาณ เปาโลมีความกระตือรือร้นที่จะรักษาความจงรักภักดีที่จริงใจ และบริสุทธิ์ของชาวโครินธ์ไว้ในฐานะเจ้าสาวของพระเยซูคริสต์ที่แท้จริง

คำอธิษฐาน

ข้าแต่พระเยซู ข้าพระองค์รักพระองค์ ขอทรงช่วยที่ข้าพระองค์จะได้ติดสนิทกับพระองค์ ให้ข้าพระองค์รักและรับใช้พระองค์ด้วยสุดสิ้นดวงใจ ด้วยความจริงใจ และด้วยความทุ่มเทอย่างบริสุทธิ์ใจ
พันธสัญญาเดิม

อิสยาห์ 20:1-23:18

อิสยาห์ใช้การแสดงสื่อถึงการพิชิตอียิปต์และคูช

 1ในปีที่ผู้บัญชาการใหญ่ซึ่งถูกส่งมาจากซาร์กอนพระราชาของอัสซีเรียได้มาถึงเมืองอัชโดดและต่อสู้จนยึดเมืองนั้นได้ 2ในเวลานั้นพระยาห์เวห์ตรัสโดยอิสยาห์บุตรอามอสว่า “จงไปและแก้ผ้ากระสอบออกจากบั้นเอวของเจ้า และถอดรองเท้าออกจากเท้าของเจ้า” แล้วท่านก็ทำตาม คือเดินเปลือยกายและเท้าเปล่า 3และพระยาห์เวห์ตรัสว่า “อิสยาห์ผู้รับใช้ของเราเดินเปลือยกายและเท้าเปล่าเป็นเวลา 3 ปี เป็นสัญญาณและหมายสำคัญแก่อียิปต์และแก่คูช 4ดังนั้นพระราชาของอัสซีเรียจะจับคนอียิปต์ไปและจะกวาดต้อนคนคูชเป็นเชลย ทั้งหนุ่มสาวและคนแก่ ไปแบบเปลือยกายและเท้าเปล่าทั้งเปิดก้น ยังความอับอายแก่อียิปต์ 5แล้วเขาทั้งหลายจะท้อแท้และอับอายเนื่องด้วยคูชซึ่งเป็นความหวังของเขา และเนื่องด้วยอียิปต์ซึ่งเป็นความโอ้อวดของพวกเขา 6และชาวแผ่นดินชายทะเลนี้จะกล่าวในวันนั้นว่า ‘ดูสิ นี่แหละคือผู้ซึ่งเราหวังไว้ และผู้ซึ่งเราหนีไปขอการช่วยกู้ให้พ้นจากพระราชาของอัสซีเรีย และเราคือเราเองจะหนีให้พ้นได้อย่างไร?’ ”

อิสยาห์ 21

ครุวาทเกี่ยวกับบาบิโลน เอโดมและอาระเบีย

1ครุวาทเกี่ยวกับถิ่นทุรกันดารของทะเล
 เหมือนพายุหมุนที่พัดพุ่งไปในเนเกบ
มันมาจากถิ่นทุรกันดาร
 มาจากแผ่นดินที่น่ากลัว
2เขาบอกนิมิตที่หนักหน่วงแก่ข้าพเจ้า
 ว่าคนทรยศก็ได้ทรยศ
คนทำลายก็เข้าทำลาย
 เอลามเอ๋ย จงบุกขึ้นไป
มีเดียเอ๋ย จงเข้าล้อม
 เสียงถอนใจทั้งหมดของเธอ
 เราได้ทำให้สิ้นสุดแล้ว
3เพราะฉะนั้น บั้นเอวของข้าพเจ้าจึงเต็มด้วยความทุกข์
 ความเจ็บปวดเกาะกุมข้าพเจ้าไว้
เหมือนความเจ็บปวดของหญิงที่กำลังคลอดลูก
 ข้าพเจ้าหนักใจจนไม่อาจจะฟัง
 ข้าพเจ้าท้อใจจนไม่อาจมองดู
4ใจของข้าพเจ้าฟุ้งซ่านไป ความหวาดกลัวท่วมท้นข้าพเจ้า
 แสงโพล้เพล้ซึ่งข้าพเจ้าหวัง
 กลับทำให้ข้าพเจ้าสั่นกลัว
5เขาเตรียมการเลี้ยงไว้
 เขาปูพื้น
เขากิน เขาดื่ม
 เจ้านายทั้งหลายเอ๋ย จงลุกขึ้น
 ชโลมโล่ไว้ด้วยน้ำมัน
6เพราะองค์เจ้านายตรัสกับข้าพเจ้าดังนี้ว่า
 “จงไป และตั้งยามไว้
 ให้เขาไปป่าวประกาศสิ่งที่เขาเห็น
7เมื่อเขาเห็นคนขี่ม้า คือพลม้าเป็นคู่ๆ
 หรือคนขี่ลา คนขี่อูฐ
ให้เขาฟังด้วยความตั้งใจ
 ด้วยความตั้งใจจริงๆ”
8แล้วผู้มองเห็นร้องว่า
 “เจ้านาย ข้าพเจ้ายืนอยู่บนหอคอย
อย่างต่อเนื่องตลอดเวลากลางวัน
 และประจำอยู่ที่ตำแหน่งของข้าพเจ้า
 ทุกๆ ค่ำคืน
9และ นี่แน่ะ มีคนขี่ม้ามา
 คือพลม้าเป็นคู่ๆ
และเขาตอบว่า
 ‘บาบิโลนล่มแล้ว ล่มแล้ว
พวกรูปเคารพทั้งหมดแห่งพระของเขา
 แตกหักเป็นชิ้นๆ ลงบนพื้นดิน’ ”
10ท่านผู้ถูกนวดและผู้ถูกฝัดร่อนของข้าเอ๋ย
 สิ่งที่ข้าได้ยินจากพระยาห์เวห์จอมทัพ
 พระเจ้าแห่งอิสราเอล ข้าก็บอกกับพวกท่าน
11ครุวาทเกี่ยวกับดูมาห์
 มีคนหนึ่งร้องถามข้าพเจ้าจากเสอีร์
ว่า “คนยามเอ๋ย ดึกเท่าไรแล้ว?
 คนยามเอ๋ย ดึกเท่าไรแล้ว? ”
12คนยามตอบว่า
 “เช้ามาถึง กลางคืนก็มาด้วย
ถ้าจะถาม ก็ถามเถิด
 จงกลับมาอีก”
13ครุวาทเกี่ยวกับอาระเบีย
 โอ กองคาราวานของคนเดดานเอ๋ย
 เจ้าจะพักอยู่ในป่าแห่งอาระเบีย
14ชาวแผ่นดินเทมาเอ๋ย
 จงเอาน้ำมาให้คนกระหาย
 เอาขนมปังมาต้อนรับผู้ลี้ภัย
15เพราะเขาได้หลบหนีจากดาบ
 จากดาบที่ชักออก
จากธนูที่โก่งอยู่
 และจากสงครามที่ร้ายแรง

 16เพราะองค์เจ้านายตรัสกับข้าพเจ้าดังนี้ว่า “ศักดิ์ศรีทั้งหมดของคนเคดาร์จะสิ้นสุดภายในปีเดียวตามปีจ้างลูกจ้าง 17และจำนวนนักธนูที่เหลืออยู่ของนักรบของคนเคดาร์จะมีน้อย” เพราะพระยาห์เวห์ พระเจ้าของอิสราเอล ได้ตรัสแล้ว

อิสยาห์ 22

คำเตือนถึงการทำลายเยรูซาเล็ม

1 ครุวาทเกี่ยวกับหุบเขาแห่งนิมิต
 นี่มันเรื่องอะไรกัน
 ที่ท่านทุกคนขึ้นไปบนหลังคาบ้าน
2ที่ในเมืองเต็มด้วยเสียงดัง
 ที่ในนครเต็มด้วยความอึกทึกและรื่นเริง?
พวกถูกฆ่าของท่านไม่ได้ถูกฆ่าด้วยดาบ
 หรือตายในสงคราม
3ผู้ปกครองทั้งหมดของท่านหนีไปด้วยกัน
 พวกเขาถูกจับได้โดยไม่ต้องใช้คันธนู
ท่านทุกคนที่ถูกค้นเจอก็ถูกจับด้วยกัน
 แม้ว่าเขาได้หนีไปไกล
4เพราะฉะนั้น ข้าพเจ้าจึงว่า
 “อย่ามองข้าพเจ้า
ให้ข้าพเจ้าร้องไห้อย่างขมขื่น
 อย่าอุตส่าห์ปลอบโยนข้าพเจ้า
 เนื่องด้วยการทำลายชนชาติของข้าพเจ้าเลย”
5เพราะพระยาห์เวห์องค์เจ้านายผู้ทรงเป็นจอมทัพทรงมีวันหนึ่ง
 เป็นวันแห่งการโกลาหล การเหยียบย่ำ และความยุ่งเหยิง
ในหุบเขาแห่งนิมิต
 กำแพงจะถูกทำลาย
 และเสียงร้องให้ช่วยจะไปถึงภูเขา
6เอลามหยิบแล่งธนู
 พร้อมกับคนขับรถรบและพลม้า
 และคีร์ก็ถือโล่ไว้
7หุบเขาดีที่สุดของท่านเต็มด้วยรถรบ
 และพลม้าก็ยืนประจำที่ตรงประตูเมือง
8พระองค์ได้ทรงนำการปกป้องยูดาห์ไปเสียแล้ว
 ในวันนั้น ท่านมองหาศาสตราวุธในพระตำหนักพนา 9และพวกท่านก็เห็นช่องโหว่มากมายในนครดาวิด แล้วท่านก็กักเก็บน้ำในสระล่าง 10พวกท่านนับจำนวนบ้านของเยรูซาเล็ม แล้วก็รื้อบ้านมาเสริมกำแพงเมือง 11ท่านทำที่เก็บน้ำไว้ระหว่างกำแพงสองด้านเพื่อใช้ในสระเก่า แต่ท่านทั้งหลายไม่ได้มุ่งมองไปยังพระองค์ผู้ทรงบันดาลเหตุ และไม่ได้มองดูผู้ทรงวางแผนงานนี้ไว้นานแล้ว
12และในวันนั้น พระยาห์เวห์องค์เจ้านายผู้ทรงเป็นจอมทัพ
 ทรงเรียกให้ร่ำไห้และคร่ำครวญ
 ทั้งทำให้ศีรษะโล้นและสวมผ้ากระสอบ
13แต่ ดูซิ กลับมีความรื่นเริงและยินดี
 มีการฆ่าวัวและฆ่าแกะ
ทั้งกินเนื้อและดื่มเหล้าองุ่น
 “ให้เรากินและดื่มเถิด
 เพราะว่าพรุ่งนี้เราจะตาย”
14พระยาห์เวห์จอมทัพทรงเปิดเผยในหูของข้าพเจ้าว่า
 “จะไม่มีการลบล้างบาปนี้ให้พวกเจ้าอย่างแน่นอนจนกว่าพวกเจ้าจะตาย”
 พระยาห์เวห์องค์เจ้านายผู้ทรงเป็นจอมทัพตรัสดังนี้

ถอดพนักงานเห็นแก่ตัวจากตำแหน่ง

 15พระยาห์เวห์องค์เจ้านายผู้ทรงเป็นจอมทัพตรัสดังนี้ว่า “ไปเถิด ไปหาเจ้าพนักงานคนนี้ คือไปยังเชบนา ผู้ดูแลราชสำนัก และจงพูดกับเขาว่า 16‘เจ้ามีสิทธิ์อะไรที่นี่? ใครให้อำนาจเจ้าที่นี่? เจ้าจึงสกัดอุโมงค์ให้ตัวเจ้าเองที่นี่?’ เขาสกัดอุโมงค์ในที่สูง เจาะที่หยุดพักให้เขาเองในศิลา” 17นี่แน่ะ ท่านผู้มีพลังอำนาจ พระยาห์เวห์จะทรงเหวี่ยงท่านออกไปอย่างแรง พระองค์จะจับท่านไว้แน่น 18แล้วหมุนตัวท่านไปโดยรอบ และขว้างท่านเหมือนลูกบอลออกไปยังดินแดนที่กว้างใหญ่ ท่านจะตายที่นั่น และรถรบโอ่อ่าของท่านอยู่ที่นั่น ก็เป็นความอับอายแก่เรือนเจ้านายของท่าน 19“เราจะไล่เจ้าออกจากหน้าที่ของเจ้า และเจ้าจะถูกดึงลงมาจากตำแหน่งของเจ้า 20และในวันนั้น เราจะเรียกผู้รับใช้ของเรา คือเอลียาคิม บุตรชายฮิลคียาห์ 21เราจะเอาเสื้อยศของเจ้ามาสวมให้เขา และจะเอาสายคาดเอวของเจ้าคาดเขาไว้ แล้วจะมอบอำนาจของเจ้าไว้ในมือของเขา เขาจะเป็นเหมือนบิดาของชาวกรุงเยรูซาเล็ม และของเชื้อวงศ์ยูดาห์ 22และเราจะวางลูกกุญแจแห่งวังของดาวิดไว้บนบ่าของเขา เมื่อเขาเปิดแล้วก็จะไม่มีใครปิดได้ และเมื่อเขาปิดแล้วก็จะไม่มีใครเปิดได้ 23และเราจะตอกเขาเหมือนหมุดไว้ในที่ที่มั่นคง และเขาจะเป็นเหมือนที่นั่งทรงเกียรติแห่งสกุลของเขา 24และพวกเขาจะแขวนน้ำหนักทั้งหมดแห่งเชื้อวงศ์บิดาของเขาไว้บนตัวเขา ทั้งของลูกหลานและบรรดาผู้สืบเชื้อสาย ภาชนะเล็กๆ ทุกชิ้น ตั้งแต่ถ้วยไปจนถึงเหยือกทุกอัน” 25พระยาห์เวห์จอมทัพตรัสว่า “ในวันนั้นหมุดซึ่งตอกอยู่ในที่ที่มั่นคงจะหลุด มันจะถูกโค่นและล้มลงมา และภาระหนักที่อยู่บนนั้นจะถูกตัดออก” เพราะพระยาห์เวห์ได้ตรัสไว้แล้ว

อิสยาห์ 23

ครุวาทเกี่ยวกับเมืองไทระ

1ครุวาทเกี่ยวกับไทระ
 จงคร่ำครวญเถิด เรือทั้งหลายของเมืองทารชิช
เพราะเมืองนั้นถูกทำลาย จนไม่เหลือบ้านหรือทางเข้าเลย
 พวกเขาได้รับการเปิดเผย
 เมื่อมาจากแผ่นดินไซปรัส
2จงอยู่นิ่งๆ เถิด ผู้ที่อยู่ตามฝั่งทะเล
 โอ พ่อค้าแห่งเมืองไซดอน
 ซึ่งผู้ผ่านข้ามทะเลไป ทำให้เจ้าบริบูรณ์
3และเขาข้ามน้ำมากหลาย
 รายได้ของเมืองนั้นคือข้าวจากชิโหร์
และผลเกี่ยวเก็บจากแม่น้ำไนล์
 เมืองนั้นเป็นแหล่งค้าขายของประชาชาติทั้งหลาย
4จงอับอายเถิด ไซดอนเอ๋ย เพราะทะเลได้พูดแล้ว
 ปราการของทะเลพูดว่า
“ข้าไม่เคยเจ็บครรภ์และไม่เคยคลอดลูก
 ข้าไม่เคยเลี้ยงลูกชาย  และไม่เคยฟูมฟักลูกสาว”
5เมื่อข่าวคราวมาถึงอียิปต์
 พวกเขาจะระทมใจด้วยข่าวของเมืองไทระ
6จงข้ามไปยังทารชิช
 จงคร่ำครวญเถิด ผู้อยู่ตามฝั่งทะเลเอ๋ย
7นี่คือเมืองรื่นเริงของเจ้าทั้งหลายหรือ?
 เมืองที่สร้างมาแต่โบราณหรือ?
และเท้าของมันได้พาไป
 อาศัยในแดนไกล
8ใครวางแผนการนี้
 ไว้ต่อสู้เมืองไทระซึ่งเป็นผู้แจกมงกุฎ
ซึ่งพวกพ่อค้าของมันเป็นเจ้านาย
 และนักธุรกิจเป็นคนมีเกียรติของโลก?
9พระยาห์เวห์จอมทัพทรงวางแผนไว้
 เพื่อขจัดความเย่อหยิ่งในศักดิ์ศรีทั้งหมด
 และเพื่อลบหลู่ผู้มีเกียรติทุกคนในแผ่นดินโลก 10จงให้น้ำท่วมแผ่นดินของท่านเหมือนแม่น้ำไนล์
 โอ ธิดาแห่งทารชิชเอ๋ย
 ไม่มีการจำกัดอีกแล้ว
11พระองค์เหยียดพระหัตถ์ของพระองค์เหนือทะเล
 พระองค์ทรงทำให้อาณาจักรทั้งหลายสั่นสะเทือน
พระยาห์เวห์ทรงบัญชาเกี่ยวกับคานาอัน
 ให้ทำลายป้อมปราการของมันเสีย
12และพระองค์ตรัสว่า
 “โอ ธิดาพรหมจารีผู้ถูกบีบบังคับแห่งไซดอนเอ๋ย
เจ้าจะไม่เริงร่าอีกต่อไป
 จงลุกขึ้นข้ามไปยังไซปรัส
 แม้ที่นั่นเจ้าก็จะไม่มีความสงบด้วย”

 13จงดูแผ่นดินของคนเคลเดีย ชนชาตินี้ไม่มีแล้ว อัสซีเรียทำให้มันเป็นที่อยู่ของสัตว์ป่า พวกเขาก่อเชิงเทินของเขาขึ้น และเขาทำลายวังทั้งหลายของมันลง เขาทำให้มันเป็นที่ปรักหักพัง
14จงคร่ำครวญเถิด เรือทั้งหลายของทารชิช
 เพราะว่าปราการของท่านถูกทำลายแล้ว  15ในเวลานั้น เมืองไทระจะถูกลืม 70 ปี เท่าๆ กับอายุของพระราชาองค์หนึ่ง พอสิ้น 70 ปี สิ่งที่เกิดขึ้นกับไทระจะเป็นเหมือนเพลงของหญิงโสเภณีที่ว่า
16“โอ หญิงงามเมืองที่ถูกลืมเอ๋ย
 จงหยิบพิณ
เดินไปทั่วเมือง
 จงบรรเลงอย่างไพเราะ
ร้องเพลงหลายๆ บท
 เพื่อคนจะระลึกถึงเจ้าได้อีก”
 17เมื่อสิ้น 70 ปี พระยาห์เวห์จะทรงเยี่ยมเยียนเมืองไทระ และเมืองนั้นจะกลับไปหากินอีก และจะค้าขายกับทุกอาณาจักรของโลกบนพื้นแผ่นดิน 18กำไรของมันและที่หากินมาได้ของมันจะเป็นของถวายแด่พระยาห์เวห์ จะไม่สะสมหรือเก็บเอาไว้ เพราะกำไรของมันจะทำให้พวกที่อยู่เฉพาะพระพักตร์พระยาห์เวห์มีอาหารอุดมและมีเสื้อผ้างดงาม

อรรถาธิบาย

จดจ่อที่พระผู้สร้างหนึ่งเดียวของคุณ

พระเจ้าสร้างคุณให้มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับพระองค์ น่าเศร้าที่ทั้งโลก และบางครั้งแม้แต่ผู้คนของพระเจ้าต่างไล่ตามสิ่งอื่นและล้มลงจากการแสวงหาพระผู้สร้างของพวกเขาและปรึกษาพระองค์เกี่ยวกับแผนการของพวกเขา

อิสยาห์ประกาศการพิพากษาของพระเจ้าต่อผู้ที่จับจ้องหรือพึ่งพาใครก็ตามหรือสิ่งอื่นใดนอกเหนือจากพระเจ้า (20:5) เขากล่าวว่าพวกไทระ ผู้เป็น ‘นายหน้าข้ามชาติ... ที่ควบคุมตลาดโลก’ (23:3,8 พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) จะพังทลายลง พระเจ้าจะ ‘ขจัดชื่อเสียงที่สูงเกินจริง’ (23:9, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)

อิสยาห์พยากรณ์กล่าวโทษเยรูซาเล็ม: ‘เจ้ามองดู มอง และมอง แต่เจ้าไม่เคยมองไปยังพระองค์ผู้ทรงประทานเมืองนี้แก่เจ้า ไม่เคยปรึกษาพระองค์ผู้วางแผนสำหรับเมืองนี้มาช้านาน’ (22:11, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) พวกเขากำลังแสวงหากำลังของตนเองและไม่หวังพึ่งองค์พระผู้ทรงสร้างเมืองของดาวิด ผู้เดียวกับที่สร้างพวกเขาขึ้นมา

อิสยาห์พยากรณ์เกี่ยวกับเอลียาคิมด้วย เขาเป็นคนดีตามที่ปรากฎเป็นชื่อบันทึกโดยพระเจ้า ‘ผู้รับใช้ของเรา คือเอลียาคิม’ (ข้อ 20) เขาเป็นเจ้ากรมวัง ตำแหน่งเทียบเท่ากับนายกรัฐมนตรี

พระเจ้าตรัสเกี่ยวกับเอลียาคิมว่า: ‘เราจะเอาเสื้อยศของเจ้ามาสวมให้เขา และจะเอาสายคาดเอวของเจ้าคาดเขาไว้ แล้วจะมอบอำนาจของเจ้าไว้ในมือของเขา เขาจะเป็นเหมือนบิดาของชาวกรุงเยรูซาเล็ม และของเชื้อวงศ์ยูดาห์ และเราจะวางลูกกุญแจแห่งวังของดาวิดไว้บนบ่าของเขา เมื่อเขาเปิดแล้วก็จะไม่มีใครปิดได้ และเมื่อเขาปิดแล้วก็จะไม่มีใครเปิดได้’ (ข้อ 21 – 22)

นี่คือเงาสะท้อนล่วงหน้าถึง ‘กุญแจ’ ที่พระเยซูจะมอบให้เปโตรและเหล่าสาวก (มัทธิว 16:19, 18:18) พระองค์ประทานกุญแจแห่งแผ่นดินพระเจ้าแก่พวกเขา แต่สุดท้ายแล้ว พระเยซูทรงเป็นผู้ถือกุญแจทั้งหมด ในพระธรรมวิวรณ์พระเยซูถูกพรรณาว่าเป็นผู้ที่ ‘มีลูกกุญแจของดาวิด ผู้ทรงเปิดแล้วจะไม่มีใครปิดได้ ผู้ทรงปิดแล้วจะไม่มีใครเปิดได้’ (วิวรณ์ 3:7)

มองไปที่พระองค์ ปรึกษาพระองค์เกี่ยวกับแผนการของคุณ อย่าวางใจในกำลังของตนเอง แต่จงมองที่ผู้สร้างของคุณ จอจ่ออยู่ที่พระเยซู (ฮีบรู 12:2)

คำอธิษฐาน

ข้าแต่พระเจ้า เหนือสิ่งอื่นขอทรงช่วยข้าพระองค์ให้ซื่อสัตย์ในความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับพระองค์ในฐานะสหาย องค์ราชา และพระผู้สร้างของข้าพระองค์

เพิ่มเติมโดยพิพพา

สุภาษิต 22:12

‘พระเนตรของพระยาห์เวห์เฝ้ารักษาความรู้’

พระเจ้าสนพระทัยในความรู้ รวมทั้งวิทยาศาสตร์และการวิจัยค้นคว้า

ข้อพระคำประจำวัน

สุภาษิต 22:9

‘คนใจกว้างจะได้รับพระพร เพราะเขาแบ่งปันอาหารของเขาแก่คนจน’

reader

App

Download the Bible in One Year app for iOS or Android devices and read along each day.

reader

อีเมล

Sign up now to receive Bible in One Year in your inbox each morning. You’ll get one email each day.

reader

เว็บไซต์

Subscribe and listen to Bible in One Year delivered to your favourite podcast app everyday.

การอ้างอิง

ข้อพระคัมภีร์อ้างอิงมาจากพระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 2011 สงวนสิทธิ์โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย (ยกเว้นข้อที่ระบุว่าเป็นฉบับอื่น)

เว็บไซต์นี้จัดเก็บข้อมูล เช่น คุกกี้ เพื่อเปิดใช้งานฟังก์ชั่นและการวิเคราะห์ที่จำเป็นเท่านั้น ดูเพิ่มเติม