ชีวิตที่มีชัยชนะ
เกริ่นนำ
แน่นอนว่าเขาไม่รู้ว่ามันอยู่ที่ไหน เขาอายุแปดสิบห้าปีและได้เขียนหนังสือหลายสิบเล่ม ผมถามเขาว่าเขาสามารถบอกผมได้หรือไม่ว่าผมสามารถหาข้อความที่ผมกำลังมองหาได้ที่ไหนในหนังสือของเขา เขาบอกผมว่าเขาไม่รู้ แต่เขาอนุญาตให้ผมอ้างอิงข้อความนั้นต่อไป ตั้งแต่นั้นมา ผมก็ใช้คำพูดของเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า เพราะสำหรับผมดูเหมือนว่า บิชอป เลสลี นิวบิกิน ได้สรุปใจความที่สำคัญยิ่งสำหรับความเข้าใจของเราเกี่ยวกับพระเยซูและพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาใหม่
‘การเป็นขึ้นจากความตายไม่ใช่การตอบสนองต่อความพ่ายแพ้ แต่เป็นการแสดงถึงชัยชนะ’
ที่ไม้กางเขนไม่ใช่ความพ่ายแพ้ ตรงกันข้าม กางเขนและเป็นขึ้นจากความตายเป็นชัยชนะครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของโลก เป็นชัยชนะที่มีความหมายอย่างใหญ่หลวงต่อชีวิตของเรา สังคมของเรา และอนาคตของโลกนี้
แนวคิดเรื่อง ‘ชัยชนะ’ สามารถถึงเรื่องการปกครองหรือความเย่อหยิ่งได้ แน่นอนว่าต้องหลีกเลี่ยงความลุ่มหลง อย่างไรก็ตาม ‘ชัยชนะ’ ไม่ใช่คำที่มีความหมายเชิงลบในพระคัมภีร์ หรือแม้แต่ในพันธสัญญาใหม่
กุญแจสู่ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับ ‘ชัยชนะ’ คือการมองว่าสิ่งนั้นเป็นของประทานที่เป็นไปได้ ‘โดยพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา’ (1 โครินธ์ 15:57) ซึ่งหมายความว่าการตอบสนองที่เหมาะสมไม่ใช่ความเย่อหยิ่ง แต่เป็นการขอบคุณ
สุภาษิต 20:25-21:4
25การพูดพล่อยๆ ว่า “นี่เป็นของบริสุทธิ์” ก็เป็นบ่วงดักตนเอง
แล้วจึงมาคิดได้หลังจากปฏิญาณไปแล้ว
26พระราชาที่มีปัญญาย่อมทรงฝัดร่อนคนอธรรม
แล้วทรงขับล้อเกวียนทับพวกเขา
27มโนธรรมของมนุษย์เป็นประทีปของพระยาห์เวห์
ส่องดูทุกส่วนภายในเขา
28ความจงรักภักดีและความซื่อสัตย์เฝ้ารักษาพระราชาไว้
และพระราชาจะทรงค้ำชูพระที่นั่งไว้ด้วยความชอบธรรม
29ศักดิ์ศรีของคนหนุ่มคือกำลังของเขา
แต่ความภูมิฐานของคนแก่คือผมหงอก
30การเฆี่ยนที่ให้เป็นบาดแผลก็ขจัดความชั่วเสีย
การโบยตีชำระล้างส่วนลึกภายใน
สุภาษิต 21
1พระทัยพระราชาเหมือนธารน้ำในพระหัตถ์พระยาห์เวห์
พระเจ้าจะทรงชักนำไปทางไหนก็ตามแต่จะโปรด
2ทางทุกสายของมนุษย์ก็ถูกต้องในสายตาของเขาเอง
แต่พระยาห์เวห์ทรงตรวจดูจิตใจ
3การประพฤติชอบธรรมและยุติธรรม
เป็นที่โปรดปรานแด่พระยาห์เวห์มากกว่าเครื่องบูชา
4ดวงตายโส และใจลำพอง
ประทีปของคนอธรรมเป็นบาป
อรรถาธิบาย
ชัยชนะในจิตใจ
การสู้รบที่หนักหน่วงที่สุดคือการสู่รบภายในจิตใจและความคิดของเรา พระเจ้าไม่เพียงแต่สนพระทัยในสิ่งที่คุณทำหรือคำพูดของคุณ แต่พระองค์ทรงสนพระทัยชีวิตภายในของคุณ พระองค์ทรงดูและสำรวจทุกส่วน ‘ภายในและภายนอก’ (20:27, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) พระเจ้าทรง ‘ชั่งใจเรา’ (21:2, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)
‘ชีวิตที่บริสุทธิ์ต่อพระพักตร์พระเจ้าและความยุติธรรมต่อเพื่อนบ้านมีความหมายต่อพระเจ้ามากกว่าการปฏิบัติศาสนกิจ’ (ข้อ 3, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) ‘มโนธรรมของมนุษย์เป็นประทีปของพระยาห์เวห์ ส่องดูทุกส่วนภายในเขา’ (20:27) ผมพยายามอธิษฐานอย่างสม่ำเสมอเหมือนกับผู้เขียนสดุดีอธิษฐาน ‘ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงตรวจค้นข้าพระองค์และทรงรู้จักจิตใจของข้าพระองค์...และขอทอดพระเนตรว่ามีทางชั่วใด ๆ ในข้าพระองค์หรือไม่’ (สดุดี 139:23-4, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก Revised Standard Version โดยผู้แปล)
ผมยังอธิษฐานเรื่องนี้เผื่อผู้อื่น สุภาษิต 20:27 เป็นข้อพระคริสตธรรมคัมภีร์ที่มีประโยชน์มากในพันธกิจการอธิษฐาน ถ้ามีใครบางคนรู้สึกว่ากำลังปล้ำสู้กับบางสิ่งที่เขาไม่สามารถแก้ไขด้วยตัวเองได้ ผมอธิษฐานให้พระวิญญาณของพระเจ้าทรงตรวจค้นภายในจิตใจของเขาและสำแดงให้เห็นว่ามีบาปอะไรที่จำเป็นที่จะต้องได้รับการแก้ไขบ้าง
พระเจ้าไม่เคยให้เรารู้สึกผิดอย่างคลุมเครือ ถ้าความรู้สึกผิดนั้นมาจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ พระองค์จะทรงเปิดเผยถึงความบาปที่เฉพาะเจาะจงที่ต้องได้รับการแก้ไข ถ้าบางสิ่งบางอย่างที่ไม่ถูกต้องเข้ามาในความคิด การกลับใจนำมาซึ่งการได้รับการยกโทษผ่านทางพระเยซู
จากนั้นผมอธิษฐานให้ตะเกียงของพระเจ้าส่องสว่างอีกครั้งและเปิดเผยถึงสิ่งที่ต้องได้รับการแก้ไข เพราะว่าพระเยซูได้มีชัยชนะเหนือความบาปบนกางเขนที่ซึ่งการกลับใจใหม่และความเชื่อในพระเยซูคริสต์จะไม่มีการกล่าวโทษอีกต่อไป
ชัยชนะของกษัตริย์ (หรือเราอาจเรียกว่า ‘ผู้นำ’) มาจากความรักและความซื่อสัตย์: ‘ความรักและความจริงก่อให้เกิดผู้นำที่ดี ผู้นำที่ดีมีพื้นฐานมาจากความสัตย์ซื่อ’ (ข้อ 28, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)
พระทัย ‘พระราชาเหมือนธารน้ำในพระหัตถ์พระยาห์เวห์ พระเจ้าจะทรงชักนำไปทางไหนก็ตามแต่จะโปรด’ (21:1) พระเจ้าทรงควบคุมจิตใจของผู้นำ ผมเชื่อในพระสัญญานี้หลายครั้งในชีวิตเมื่อผมอธิษฐานเกี่ยวกับการสัมภาษณ์งาน การติดต่อกับสภา ผู้พิพากษา หรือรัฐบาล ขอบคุณพระเจ้าที่หัวใจของผู้นำอยู่ในพระหัตถ์ของพระเจ้าและพระองค์จะทรงกำกับดูแลในทางใดก็ตามที่พระองค์พึงพอใจ
หัวใจมีความสำคัญมาก: ‘ทางทุกสายของมนุษย์ก็ถูกต้องในสายตาของเขาเอง แต่พระยาห์เวห์ทรงตรวจดูจิตใจ การประพฤติชอบธรรมและยุติธรรม เป็นที่โปรดปรานแด่พระยาห์เวห์มากกว่าเครื่องบูชา’ (ข้อ 2-3)
เนื่องจากชัยชนะเป็นของขวัญจากพระเจ้า มันไม่ควรนำไปสู่ความเย่อหยิ่ง ‘ดวงตายโส และใจลำพอง ประทีปของคนอธรรมเป็นบาป!’ (ข้อ 4)
คำอธิษฐาน
1 โครินธ์ 15:50-16:4
50พี่น้องทั้งหลาย ข้าพเจ้าหมายความว่า เนื้อและเลือดไม่สามารถมีส่วนในอาณาจักรของพระเจ้า และสิ่งที่เสื่อมสลายไม่มีส่วนในสิ่งที่ไม่เสื่อมสลาย 51นี่แน่ะ ข้าพเจ้ามีความล้ำลึกที่จะบอกกับพวกท่าน คือเราจะไม่ล่วงหลับหมดทุกคน แต่จะถูกเปลี่ยนใหม่ทุกคน 52ในชั่วขณะเดียว ในพริบตาเดียว เมื่อเป่าแตรครั้งสุดท้าย เพราะว่าจะมีการเป่าแตร และพวกที่ตายแล้วจะถูกทำให้เป็นขึ้นโดยปราศจากความเสื่อมสลาย แล้วเราจะถูกเปลี่ยนใหม่ 53เพราะว่าสิ่งที่เสื่อมสลายได้นี้ต้องสวมด้วยสิ่งที่เสื่อมสลายไม่ได้ และสภาพที่ต้องตายนี้ต้องสวมด้วยสภาพที่ไม่ตาย 54เมื่อสิ่งที่เสื่อมสลายได้นี้สวมด้วยสิ่งที่เสื่อมสลายไม่ได้และสภาพที่ต้องตายนี้สวมด้วยสภาพที่ไม่ตาย เมื่อนั้นพระวจนะที่เขียนไว้จะสำเร็จว่า
“ความตายก็ถูกกลืนเข้าในชัยชนะแล้ว
55 โอ ความตาย ชัยชนะของเจ้าอยู่ที่ไหน?
โอ ความตาย เหล็กในของเจ้าอยู่ที่ไหน?”
56เหล็กในของความตายนั้นคือบาป และอำนาจของบาปคือธรรมบัญญัติ 57สาธุการแด่พระเจ้า ผู้ประทานชัยชนะแก่เรา โดยพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา
58ฉะนั้นพี่น้องที่รักของข้าพเจ้า จงมั่นคงอยู่ อย่าหวั่นไหว จงทำงานขององค์พระผู้เป็นเจ้าให้บริบูรณ์ทุกเวลา ท่านทั้งหลายพึงรู้ว่า ในองค์พระผู้เป็นเจ้า การตรากตรำของท่านจะไม่ไร้ประโยชน์
1 โครินธ์ 16
การเรี่ยไรช่วยธรรมิกชน
1เรื่องการเรี่ยไรเพื่อช่วยธรรมิกชนนั้น ข้าพเจ้าสั่งคริสตจักรที่แคว้นกาลาเทียว่าอย่างไร ท่านทั้งหลายก็จงทำเช่นนั้นด้วย 2ทุกวันต้นสัปดาห์ให้พวกท่านแต่ละคนแยกเงินออกและสะสมไว้ตามรายได้ เพื่อจะไม่ต้องเก็บเรี่ยไรเมื่อข้าพเจ้ามาถึง 3และเมื่อข้าพเจ้ามาแล้วหากพวกท่านรับรองใคร ข้าพเจ้าจะส่งคนนั้นให้นำเงินถวายของท่านพร้อมกับจดหมายไปยังกรุงเยรูซาเล็ม 4และถ้าเห็นว่าข้าพเจ้าควรจะไปด้วย พวกเขาก็จะไปพร้อมกับข้าพเจ้า
อรรถาธิบาย
ชัยชนะเหนือความตาย
หลายคนคิดว่าความตายคือจุดจบ พวกเขาเชื่อว่าความตายเป็นสิ่งสุดท้ายเสมอ ความตายในท้ายที่สุดจะได้รับชัยชนะ
แต่เปาโลประกาศว่า ไม่เป็นเช่นนั้น 'ความตายก็ถูกกลืนเข้าในชัยชนะแล้ว’ (15:54) เขาเย้ยหยันความตาย ‘โอ ความตาย ชัยชนะของเจ้าอยู่ที่ไหน?’ (ข้อ 55)
ผ่านทางไม้กางเขนและการเป็นขึ้นจากความตาย พระเยซูได้ทรงชนะความบาปและความตาย ด้วยเหตุนี้วันนึงคุณจะเป็นขึ้นมาอย่าง ‘เสื่อมสลายไม่ได้’ และ ‘สภาพที่ไม่ตาย’ (ข้อ 53-54)
มีสามสิ่งที่คุณสามารถให้เพื่อตอบสนองต่อของประทานแห่งชัยชนะอันน่าทึ่งนี้ผ่านทางพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา:
1. ขอบพระคุณ
‘โอ ความตาย เหล็กในของเจ้าอยู่ที่ไหน? เหล็กในของความตายนั้นคือบาป และอำนาจของบาปคือธรรมบัญญัติ สาธุการแด่พระเจ้า ผู้ประทานชัยชนะแก่เรา โดยพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา’ (ข้อ 55-57)
นักประกาศข่าวประเสริฐ เดวิด วัตสัน ได้เล่าเรื่องตอนที่เขาถูกเรียกตัวเข้าไปในสวนด้วยเสียงร้องอันน่ากลัวของลูกสาวที่ถูกผึ้งตัวหนึ่งไล่ตาม เขาโอบแขนของเขาไว้รอบตัวเธอ แล้วเธอก็รู้สึกว่าร่างกายของเขานั้นตึงไปหมด เขาปล่อยเธอและพูดกับเธอว่า 'ลูกไม่ต้องกังวลอีกต่อไปแล้วที่รัก ผึ้งต่อยพ่อแล้ว’
บนไม้กางเขนนั้น ราวกับว่าพระเยซูโอบแขนของพระองค์ไว้รอบตัวเราและรับเหล็กไนแห่งความตายเพื่อเรา เรายังคงต้องตาย (ถ้าพระเยซูไม่เสด็จกลับมาก่อน) แต่สำหรับทุกคนที่วางใจในพระคริสต์ ‘เหล็กไนแห่งความตาย’ ได้ถูกขจัดออกไปที่บนกางเขนและการเป็นขึ้นจากความตาย และเหมือนที่เดวิด วัตสันพูดกับลูกสาวของเขาว่า ‘ผึ้งไม่ได้ต่อยสองครั้ง’ ‘ขอบคุณพระเจ้า!’ (ข้อ 57, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)
2. อุทิศตัว
บางครั้งคุณสงสัยหรือไม่ว่าสิ่งที่คุณทำในการรับใช้พระเจ้านั้นได้สร้างความแตกต่างอยู่หรือไม่? คุณกำลังถูกล่อลวงให้คิดว่ามันเป็นการเสียเวลาและไร้ประโยชน์อยู่หรือเปล่า?
จงรับการหนุนใจ: ‘ไม่มีอะไรที่ท่านทำเพื่อพระองค์จะเสียเวลาเปล่าและไร้ประโยชน์’ (ข้อ 58, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) เปาโลเขียนไว้ว่าการตอบสนองที่เหมาะสมต่อชัยชนะของพระเยซู คือ การ ‘มั่นคงอยู่ อย่าหวั่นไหว จงทำงานขององค์พระผู้เป็นเจ้าให้บริบูรณ์ทุกเวลา ท่านทั้งหลายพึงรู้ว่า ในองค์พระผู้เป็นเจ้า การตรากตรำของท่านจะไม่ไร้ประโยชน์’ (ข้อ 58)
จงทำ ‘งานขององค์พระผู้เป็นเจ้า’ (ข้อ 58) นั่นคืองานที่พระเจ้าทรงเรียกให้คุณทำ อย่าวิตกกังวลหรือถูกทำให้สั่นคลอนจากสิ่งที่ผู้อื่นทำในพันธกิจของเขา แต่ละคนมีการทรงเรียกที่แตกต่างกัน ไม่ใช่เรื่องของเราที่จะตัดสิน พวกเขากำลังแสวงหาที่จะรับใช้พระเจ้า วิธีการอาจแตกต่างออกไป เราแต่ละคนควรทำตามการทรงเรียกของพระเจ้าที่ทรงเรียกชีวิตของเรา
จงอุทิศตัวให้กับทุกสิ่งที่พระเจ้าทรงเรียกให้คุณทำอย่างเต็มที่ เพราะการเป็นขึ้นจากความตาย คุณสามารถยืนหยัดอย่างมั่นคงและรู้ว่าการงานของคุณในพระเจ้าไม่จะสูญเปล่า
3. มอบทรัพย์สมบัติของคุณ
ส่วนหนึ่งของการอุทิศตนเพื่องานของพระเจ้าคือมอบทรัพย์สมบัติของคุณ (16:2) เราเห็นหลักการของการถวายของคริสเตียนหลายประการ ประการแรก ‘เรี่ยไรเพื่อช่วยธรรมิกชน’ เป็นหลัก (ข้อ 1) นั่นคือคริสตจักร ประการที่สอง ควรถวาย ‘ทุกวันต้นสัปดาห์' เป็นประจำ (ข้อ 2) ประการที่สาม ถวายทุกคน (“พวกท่านแต่ละค”,ข้อ 2) ประการที่สี่ ควรแยกเงินออกเป็นสัดส่วน เพื่อให้สอดคล้องกับรายได้ของคุณ (ดูเฉลยธรรมบัญญัติ 16:17): ‘จงให้ด้วยใจกว้างขวางเท่าที่คุณจะทำได้’ (1 โครินธ์ 16:2 พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)
คำอธิษฐาน
2 พงศาวดาร 21:4-23:21
4เมื่อเยโฮรัมทรงขึ้นครองราชอาณาจักรของพระราชบิดาของพระองค์และทำให้ตนเองมั่นคงแล้ว พระองค์ทรงสังหารพระอนุชาทั้งหมดของพระองค์ด้วยดาบ รวมทั้งเจ้านายบางคนของชาวอิสราเอลด้วย 5เยโฮรัมมีพระชนมายุ 32 พรรษาเมื่อทรงเป็นกษัตริย์ และพระองค์ครองราชย์ในกรุงเยรูซาเล็ม 8 ปี 6และพระองค์ทรงดำเนินตามทางของบรรดาพระราชาแห่งอิสราเอล ตามอย่างราชวงศ์อาหับได้ทำ เพราะว่าพระราชธิดาของอาหับเป็นมเหสีของพระองค์ และพระองค์ทรงทำสิ่งชั่วร้ายในสายพระเนตรพระยาห์เวห์ 7อย่างไรก็ดีพระยาห์เวห์ไม่ได้ตั้งพระทัยทำลายราชวงศ์ของดาวิด เพราะทรงเห็นแก่พันธสัญญาซึ่งพระองค์ทรงทำไว้กับดาวิด และเนื่องด้วยพระองค์ตรัสสัญญาว่าจะประทานประทีปแก่ดาวิดและแก่เชื้อสายของท่านเป็นนิตย์
เอโดมกบฏ
8ในรัชกาลของพระองค์ เอโดมได้กบฏไม่ยอมอยู่ใต้การปกครองของยูดาห์ และตั้งกษัตริย์ขึ้นเหนือตนเอง 9แล้วเยโฮรัมก็เสด็จข้ามไปพร้อมกับบรรดาแม่ทัพ และรถรบทั้งหมด เอโดมได้ล้อมพระองค์และบรรดาแม่ทัพรถรบ แต่พอกลางคืนพระองค์ทรงตีฝ่าออกไป 10เอโดมจึงได้กบฏ และไม่ยอมอยู่ใต้การปกครองของยูดาห์จนทุกวันนี้ ในเวลาเดียวกันลิบนาห์ก็กบฏ และไม่ยอมอยู่ใต้การปกครองของพระองค์ เพราะว่าพระองค์ได้ทรงละทิ้งพระยาห์เวห์พระเจ้าของบรรพบุรุษของพระองค์
จดหมายของเอลียาห์
11นอกจากนั้น พระองค์ทรงสร้างปูชนียสถานสูงในบริเวณเทือกเขาของยูดาห์ ทั้งทรงนำชาวเยรูซาเล็มไปในการนอกใจพระเจ้า และทำให้ยูดาห์หลงไป 12และมีจดหมายฉบับหนึ่งมาถึงพระองค์จากเอลียาห์ผู้เผยพระวจนะว่า “พระยาห์เวห์พระเจ้าของดาวิดบรรพบุรุษของฝ่าพระบาท ตรัสดังนี้ว่า ‘เพราะเจ้าไม่ได้ดำเนินในทางของเยโฮชาฟัทบิดาของเจ้า หรือในทางของอาสาพระราชาของยูดาห์ 13แต่ดำเนินในทางของบรรดาพระราชาของอิสราเอล และนำยูดาห์กับชาวเยรูซาเล็มไปในการนอกใจพระเจ้า เหมือนอย่างราชวงศ์อาหับที่นำอิสราเอลไปในการนอกใจพระเจ้า และเจ้ายังฆ่าบรรดาน้องชายของเจ้า ผู้เป็นเชื้อวงศ์บิดาของเจ้าซึ่งดีกว่าเจ้า 14นี่แน่ะ พระยาห์เวห์จะทรงนำภัยพิบัติยิ่งใหญ่มาเหนือชนชาติของเจ้า ลูกหลานและภรรยาทั้งหลายของเจ้ารวมทั้งข้าวของทุกอย่าง 15และตัวเจ้าเองจะเจ็บป่วยด้วยโรคลำไส้ร้ายแรง จนกว่าลำไส้ของเจ้าจะหลุดออกมาวันแล้ววันเล่าเพราะโรคนั้น’ ”
16และพระยาห์เวห์ทรงเร้าคนฟีลิสเตียและคนอาหรับ ผู้อยู่ใกล้กับคนคูชให้โกรธเยโฮรัม 17พวกเขายกมาต่อสู้กับยูดาห์ และบุกเข้าไปในยูดาห์ แล้วเอาข้าวของทั้งหมดที่พบในพระราชวังไป รวมทั้งบรรดาพระราชโอรสและมเหสีของพระองค์ จึงไม่มีพระราชโอรสเหลือไว้ให้พระองค์ นอกจากเยโฮอาหาสพระราชโอรสองค์สุดท้อง
18ภายหลังเหตุการณ์นี้ พระยาห์เวห์ทรงทำให้ลำไส้ของเยโฮรัมเป็นโรคที่รักษาไม่ได้ 19แล้วเวลาผ่านไปจนสิ้นสองปีลำไส้ของพระองค์ก็หลุดออกมาเพราะโรคนั้น และพระองค์ก็สิ้นพระชนม์ด้วยความทุรนทุรายอย่างยิ่ง ประชาชนของพระองค์ไม่ได้ก่อเพลิงถวายเกียรติแด่พระองค์ เหมือนอย่างก่อเพลิงให้กับบรรพบุรุษของพระองค์ 20พระองค์มีพระชนมายุ 32 พรรษา เมื่อทรงเป็นกษัตริย์ และครองราชย์ในกรุงเยรูซาเล็ม 8 ปี และพระองค์ทรงจากไปโดยไม่มีใครอาลัย เขาฝังพระศพไว้ในนครดาวิด แต่ไม่ใช่ในอุโมงค์ฝังศพของบรรดาพระราชา
2 พงศาวดาร 22
การขึ้นครองราชย์ของอาหัสยาห์
1และชาวเยรูซาเล็มได้ตั้งอาหัสยาห์พระราชโอรสองค์สุดท้องของพระองค์ เป็นกษัตริย์แทนพระองค์ เพราะกองทัพที่มาถึงค่ายกับพวกคนอาหรับได้ฆ่าบรรดาพระราชโอรสผู้พี่ทั้งหมด ดังนั้นอาหัสยาห์ พระราชโอรสของเยโฮรัมพระราชาของยูดาห์จึงทรงเป็นกษัตริย์ 2อาหัสยาห์มีพระชนมายุ 42 พรรษา เมื่อทรงเป็นกษัตริย์ และครองราชย์ในกรุงเยรูซาเล็ม 1 ปี พระราชมารดาของพระองค์มีพระนามว่าอาธาลิยาห์ เป็นพระราชนัดดาของอม-รี 3พระองค์ทรงดำเนินในทางของราชวงศ์อาหับด้วย เพราะว่าพระราชมารดาของพระองค์เป็นที่ปรึกษาในการทำความชั่วร้าย 4พระองค์ทรงทำความชั่วในสายพระเนตรพระยาห์เวห์เหมือนอย่างราชวงศ์ของอาหับ เพราะว่าหลังจากพระราชบิดาสิ้นพระชนม์ พวกเขาเป็นที่ปรึกษาและนำพระองค์ไปสู่ความหายนะ 5พระองค์ยังทรงทำตามคำแนะนำของเขาทั้งหลายและเสด็จไปกับโยรัมภาษาฮีบรูคือ เยโฮรัมพระราชโอรสของอาหับ พระราชาแห่งอิสราเอลเพื่อทำสงครามกับฮาซาเอลพระราชาแห่งซีเรีย ที่ราโมทกิเลอาด และคนซีเรียทำให้โยรัมบาดเจ็บ 6และพระองค์ทรงกลับมาที่ยิสเรเอล เพื่อรักษาบาดแผลซึ่งได้รับที่เมืองรามาห์ เมื่อทรงสู้กับฮาซาเอลพระราชาแห่งซีเรีย และอาหัสยาห์พระราชโอรสของเยโฮรัมพระราชาแห่งยูดาห์ได้เสด็จลงไปหาโยรัม พระราชโอรสของอาหับในเมืองยิสเรเอล เพราะพระองค์ประชวร
7แต่พระเจ้าทรงกำหนดไว้แล้วว่า ความพินาศของอาหัสยาห์จะมาโดยการเสด็จไปเยี่ยมโยรัม เพราะเมื่อเสด็จไปถึง พระองค์ก็เสด็จออกไปกับโยรัม เพื่อเผชิญหน้ากับเยฮูบุตรนิมชี ผู้ซึ่งพระยาห์เวห์ทรงเจิมตั้งไว้ให้ทำลายราชวงศ์ของอาหับ 8และเมื่อเยฮูกำลังพิพากษาโทษราชวงศ์ของอาหับ ท่านพบพวกเจ้านายของยูดาห์ และบรรดาพระราชโอรสของพระเชษฐาของอาหัสยาห์ ซึ่งมาปรนนิบัติอาหัสยาห์ และท่านจึงประหารเขาทั้งหลาย 9ท่านค้นหาอาหัสยาห์ และพระองค์ก็ทรงถูกจับเมื่อซ่อนพระองค์อยู่ในกรุงสะมาเรีย แล้วทรงถูกนำตัวมาหาเยฮู และถูกประหารชีวิต เขาทั้งหลายก็ฝังพระศพไว้ เพราะพวกเขากล่าวว่า “พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าหลานเธอของเยโฮชาฟัท ผู้แสวงหาพระยาห์เวห์ด้วยสุดพระทัย” และราชวงศ์ของอาหัสยาห์ก็ไม่มีใครสามารถปกครองอาณาจักรได้
พระนางอาธาลิยาห์แย่งราชบัลลังก์
10เมื่ออาธาลิยาห์พระราชมารดาของอาหัสยาห์ทรงเห็นว่าพระราชโอรสของพระนางสิ้นพระชนม์แล้ว พระนางก็ทรงตั้งต้นทำลายเชื้อสายของราชวงศ์แห่งยูดาห์ทั้งหมด 11แต่พระนางเยโฮชาเบอาท พระราชธิดาของกษัตริย์ลักลอบนำโยอาชพระราชโอรสของอาหัสยาห์ไปจากท่ามกลางบรรดาพระราชโอรสของพระราชา ซึ่งต้องถูกสังหาร และพระนางก็เก็บพระราชโอรสและพระพี่เลี้ยงไว้ในห้องนอน ดังนั้นแหละเยโฮชาเบอาทพระราชธิดาของกษัตริย์เยโฮรัม และเป็นภรรยาของเยโฮยาดาปุโรหิต (เพราะว่าพระนางเป็นพระขนิษฐาของอาหัสยาห์) ก็ซ่อนพระราชโอรสเสียจากอาธาลิยาห์ ดังนั้นอาธาลิยาห์ภาษาฮีบรูแปลตรงตัวว่า พระนางจึงสังหารพระราชโอรสไม่ได้ 12และพระราชโอรสทรงอยู่กับพวกเขาในพระนิเวศของพระเจ้าและทรงซ่อนตัวอยู่ 6 ปี ส่วนอาธาลิยาห์ก็ครองแผ่นดิน
2 พงศาวดาร 23
1แต่ในปีที่เจ็ดเยโฮยาดามีใจกล้าขึ้น และท่านทำพันธสัญญากับพวกนายร้อยคืออาซาริยาห์บุตรเยโรฮัม ยิชมาเอลบุตรเยโฮฮานัน อาซาริยาห์บุตรโอเบด มาอาเสยาห์บุตรอาดายาห์ และเอลีชาฟัทบุตรศิครี 2แล้วเขาทั้งหลายออกไปทั่วยูดาห์ และรวบรวมคนเลวีจากทุกเมืองของยูดาห์ พร้อมทั้งพวกหัวหน้าตระกูลของอิสราเอล และพวกเขาก็มายังกรุงเยรูซาเล็ม 3แล้วชุมนุมชนทั้งหมดก็ทำสัตยาบันกับพระราชาในพระนิเวศของพระเจ้า และเยโฮยาดากล่าวกับเขาทั้งหลายว่า “ดูสิ พระราชโอรสของพระราชาจะทรงครองตามที่พระยาห์เวห์ตรัสไว้เกี่ยวกับพระราชโอรสทั้งหลายของดาวิด 4นี่เป็นสิ่งที่ท่านทั้งหลายพึงทำ คือหนึ่งในสามของพวกท่านผู้เข้าเวรวันสะบาโต ซึ่งเป็นปุโรหิตและคนเลวี ให้เป็นคนเฝ้าประตู 5หนึ่งในสามให้อยู่ที่พระราชวัง และหนึ่งในสามให้อยู่ที่ประตูฐานราก และให้ประชาชนทั้งหมดอยู่ในลานพระนิเวศของพระยาห์เวห์ 6แต่อย่าให้ใครเข้าไปในพระนิเวศของพระยาห์เวห์ นอกจากพวกปุโรหิตและคนเลวีที่ปรนนิบัติอยู่ พวกเขาเข้าไปได้ เพราะเขาทั้งหลายบริสุทธิ์ แต่ประชาชนทุกคนต้องรักษาคำบัญชาของพระยาห์เวห์ 7ให้พวกเลวีรายล้อมพระราชาไว้โดยรอบ แต่ละคนมีอาวุธในมือ และใครที่เข้าไปในพระนิเวศจะต้องถูกประหาร จงอยู่กับพระราชาเมื่อพระองค์เสด็จออกและเสด็จเข้า”
การตั้งโยอาชขึ้นเป็นกษัตริย์
8คนเลวีและคนยูดาห์ทั้งหมดได้ทำทุกสิ่งตามที่เยโฮยาดาปุโรหิตสั่งไว้ พวกเขาต่างนำคนของตนที่จะเข้าเวรวันสะบาโต และคนที่จะออกเวรวันสะบาโตมา เพราะเยโฮยาดาปุโรหิตไม่ได้ปล่อยกองเวร 9และเยโฮยาดาปุโรหิตมอบหอกกับโล่ใหญ่และโล่เล็กที่เป็นของกษัตริย์ดาวิด ซึ่งอยู่ในพระนิเวศของพระเจ้านั้นแก่บรรดากองร้อย 10และท่านได้ให้ประชาชนทั้งหมดที่มีอาวุธในมือของแต่ละคนประจำตั้งแต่ด้านขวาของพระนิเวศไปถึงด้านซ้ายของพระนิเวศ ตรงบริเวณแท่นบูชาและพระนิเวศโดยรายล้อมพระราชา 11พวกเขานำพระราชโอรสของพระราชาออกมา และสวมมงกุฎ แล้วมอบพระโอวาทให้ และเขาทั้งหลายตั้งพระราชโอรสให้เป็นกษัตริย์ เยโฮยาดากับบรรดาบุตรของท่านก็เจิมพระองค์ แล้วเขาทั้งหลายก็ร้องว่า “ขอพระราชาทรงพระเจริญ”
การปลงพระชนม์อาธาลิยาห์
12เมื่ออาธาลิยาห์ได้ยินเสียงประชาชนวิ่งและสรรเสริญพระราชา ก็เสด็จเข้าไปหาประชาชนที่พระนิเวศของพระยาห์เวห์ 13เมื่อพระนางทอดพระเนตร และดูสิ พระราชาทรงยืนอยู่ข้างเสาของพระองค์ตรงทางเข้า และบรรดาเจ้านายและพลแตรก็อยู่ข้างพระราชา ประชาชนทั้งหมดในแผ่นดินก็เปรมปรีดิ์และเป่าแตร บรรดานักร้องพร้อมด้วยเครื่องดนตรีของพวกเขาก็นำการสรรเสริญ พระนางอาธาลิยาห์ก็ฉีกฉลองพระองค์แล้วทรงร้องว่า “กบฏ กบฏ” 14แล้วเยโฮยาดาปุโรหิตก็นำพวกนายร้อยที่ได้รับการแต่งตั้งให้ควบคุมกองทัพออกมา แล้วสั่งพวกเขาว่า “จงคุมนางออกมาระหว่างแถวทหาร ใครติดตามนางไปก็จงประหารเสียด้วยดาบ” เพราะปุโรหิตกล่าวว่า “อย่าประหารนางในพระนิเวศของพระยาห์เวห์” 15เขาทั้งหลายจึงจับพระนาง แล้วพระนางก็เสด็จไปยังทางเข้าประตูม้า ที่พระราชวังและเขาทั้งหลายก็ประหารพระนางที่นั่น
16เยโฮยาดาได้ทำพันธสัญญาระหว่างท่านเองกับประชาชนทั้งหมด และกับพระราชาว่า พวกเขาจะเป็นประชากรของพระยาห์เวห์ 17แล้วประชาชนทั้งหมดก็เข้าไปในนิเวศของพระบาอัล และพังลงเสีย และพวกเขาทำลายแท่นบูชาและรูปเคารพของพระบาอัลเสียเป็นชิ้นๆ เขาประหารมัทธานปุโรหิตของพระบาอัลที่หน้าแท่นบูชา 18เยโฮยาดาวางยามไว้ดูแลพระนิเวศของพระยาห์เวห์ภายใต้การควบคุมของปุโรหิตที่เป็นคนเลวี ซึ่งดาวิดทรงจัดแบ่งให้ดูแลพระนิเวศของพระยาห์เวห์ เพื่อให้ถวายเครื่องบูชาเผาทั้งตัวแด่พระยาห์เวห์ (ตามที่เขียนไว้ในธรรมบัญญัติของโมเสส) ด้วยความเปรมปรีดิ์และด้วยการร้องเพลง ตามพระบัญชาของดาวิด 19ท่านตั้งคนเฝ้าประตูไว้ที่ประตูพระนิเวศของพระยาห์เวห์ เพื่อไม่ให้ผู้มีมลทินใดๆ เข้าไป 20ท่านนำผู้บังคับกองร้อย ขุนนางผู้ปกครองประชาชน และประชาชนทั้งหมดในแผ่นดิน แล้วท่านอัญเชิญพระราชาลงมาจากพระนิเวศของพระยาห์เวห์ไปยังพระราชวังโดยทางประตูบน และเขาทั้งหลายอัญเชิญพระราชาประทับบนบัลลังก์แห่งราชอาณาจักร 21และประชาชนทั้งหมดในแผ่นดินก็เปรมปรีดิ์ และเมืองกรุงก็มีความสงบเพราะพระนางอาธาลิยาห์ถูกประหารด้วยดาบแล้ว
อรรถาธิบาย
ชัยชนะเหนือความชั่วร้าย
ในข่าวทุกวันนี้มีแต่เหตุการณ์เลวร้าย ระบอบการปกครองที่ชั่วร้าย การฆาตกรรมที่น่ากลัว ไม่มีอะไรใหม่
พระธรรมตอนนี้บรรยายถึงช่วงเวลาที่เลวร้ายในประวัติศาสตร์ของประชากรของพระเจ้า พระเจ้าทรงถือว่าเยโฮรัมเป็น ‘คนชั่ว’ (21:6, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) และ ‘ทำให้ยูดาห์หลงไป’ (ข้อ 11) ‘ไม่มีการคร่ำครวญเมื่อเขาจาก เป็นการขจัดคนชั่วที่ดี’ (ข้อ 20, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)
แต่อาหัสยาห์ไม่ดียิ่งกว่า อาธาลิยาห์มารดาของเขาเลวร้ายเข้าไปอีก: ‘ฝึกเขาในทางชั่ว’ (22:3, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) เมื่อพระองค์สิ้นพระชนม์ นางยังทำสิ่งชั่วร้ายและทำลายล้าง (ข้อ 10) นางพยายามจะฆ่าเจ้าชายทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม โยอาช เช่นเดียวกับโมเสสก่อนหน้าเขาและพระเยซูภายหลังเขา ถูกซ่อนและปกป้องไว้ (ข้อ 11–12)
พระเจ้าสัญญาจะประทานประทีปแก่ดาวิดและแก่เชื้อสายของท่านเป็นนิตย์ (21:7) ความชั่วร้ายพ่ายแพ้ โยอาชได้ขึ้นเป็นกษัตริย์ (23:11) และ ‘ประชาชนทั้งหมดในแผ่นดินก็เปรมปรีดิ์ และเมืองกรุงก็มีความสงบเพราะพระนางอาธาลิยาห์ถูกประหารด้วยดาบแล้ว’ (ข้อ 21)
นี่คือภาพชัยชนะสูงสุดของความดีเหนือความชั่ว โยอาชพยากรณ์ล่วงหน้าถึงผู้ยิ่งใหญ่กว่าที่จะมา พระเจ้าทรงปกป้องพระเยซูจากผู้ที่ต้องการจะฆ่าพระองค์ตั้งแต่ยังเป็นทารก พระองค์ทรงเป็นกษัตริย์ผู้ถูกเจิมซึ่งเอาชนะความชั่วร้ายและความตายได้ในที่สุด
คำอธิษฐาน
เพิ่มเติมโดยพิพพา
1 โครินธ์ 15:58
‘ฉะนั้นพี่น้องที่รักของข้าพเจ้า จงมั่นคงอยู่ อย่าหวั่นไหว จงทำงานขององค์พระผู้เป็นเจ้าให้บริบูรณ์ทุกเวลา ท่านทั้งหลายพึงรู้ว่า ในองค์พระผู้เป็นเจ้า การตรากตรำของท่านจะไม่ไร้ประโยชน์’
นี่เป็นเสียงโห่ร้องที่ยิ่งใหญ่ที่อาจารย์เปาโลส่งให้คริสตจักรเมืองโครินธ์ มันอาจเป็นงานที่หนัก แต่จงทำต่อไป และพระเจ้าจะทรงใช้ทุกอย่างเพื่อถวายเกียรติแด่พระองค์
ข้อพระคำประจำวัน
1 โครินธ์ 15:58
‘เจ้าจงมั่นคงอยู่ อย่าหวั่นไหว จงทำงานขององค์พระผู้เป็นเจ้าให้บริบูรณ์ทุกเวลา ท่านทั้งหลายพึงรู้ว่า ในองค์พระผู้เป็นเจ้า การตรากตรำของท่านจะไม่ไร้ประโยชน์’
App
Download the Bible in One Year app for iOS or Android devices and read along each day.
อีเมล
Sign up now to receive Bible in One Year in your inbox each morning. You’ll get one email each day.
เว็บไซต์
Subscribe and listen to Bible in One Year delivered to your favourite podcast app everyday.
การอ้างอิง
ข้อพระคัมภีร์อ้างอิงมาจากพระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 2011 สงวนสิทธิ์โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย (ยกเว้นข้อที่ระบุว่าเป็นฉบับอื่น)