วัน 59

เปี่ยมด้วยพระเมตตา

ปัญญานิพนธ์ สดุดี 27:7-14
พันธสัญญาใหม่ มาระโก 10:13-31
พันธสัญญาเดิม เลวีนิติ 4:1-5:13

เกริ่นนำ

ชายคนหนึ่งกำลังเป็นแบบวาดรูปโดยศิลปินผู้ที่มีชื่อเสียง เมื่อภาพวาดเสร็จแล้วก็ถูกนำออกมาให้เห็น ชายคนนั้นไม่พอใจกับรูปวาดเป็นอย่างมาก เมื่อถูกถามว่าเขาชอบไหมเขาตอบว่า ‘ฉันคิดว่าไม่ยุติธรรม’ แต่ศิลปินตอบว่า ‘ท่านครับ ท่านไม่ได้ต้องการความยุติธรรม แต่เป็นความเมตตา!’

สุดท้ายแล้ว เราทุกคนต้องการความเมตตามากกว่าความยุติธรรม พระเจ้าทรง ‘เปี่ยมด้วยพระเมตตา’ (เอเฟซัส 2:4) คำว่า ‘พระเมตตาของพระเจ้า’ ในภาษากรีกดั้งเดิม ‘eleos’ (ความเมตตา) ยังหมายถึงความเห็นอกเห็นใจ ความสงสาร ความเมตตากรุณา พระเมตตาของพระเจ้าที่ทรงจัดเตรียมให้สำหรับคุณในวันนี้เราจะเห็นตัวอย่างของผู้คนที่ได้รับความเมตตาจากพระเจ้า

ปัญญานิพนธ์

สดุดี 27:7-14

7ข้าแต่พระยาห์เวห์ ขอทรงฟัง เมื่อข้าพระองค์ร้องทูล
 ขอทรงพระกรุณาและตรัสตอบข้าพระองค์เถิด
8ใจของข้าเอ๋ย พระองค์ตรัสกับเจ้าว่า “จงแสวงหาหน้าของเรา”
 ข้าแต่พระยาห์เวห์ ข้าพระองค์จะแสวงหาพระพักตร์ของพระองค์
9ขออย่าซ่อนพระพักตร์ของพระองค์จากข้าพระองค์
อย่าทรงผลักไสผู้รับใช้ของพระองค์ออกไปด้วยความกริ้ว
 พระองค์ทรงเป็นผู้อุปถัมภ์ข้าพระองค์
ข้าแต่พระเจ้าแห่งความรอดของข้าพระองค์
 ขออย่าทรงละข้าพระองค์หรือทิ้งข้าพระองค์
10แม้บิดาและมารดาของข้าพระองค์ทอดทิ้งข้าพระองค์
 แต่พระยาห์เวห์จะทรงยกข้าพระองค์ขึ้น
11ข้าแต่พระยาห์เวห์ ขอทรงสอนพระมรรคาของพระองค์แก่ข้าพระองค์
 และขอทรงนำข้าพระองค์ไปบนวิถีราบ
 เนื่องจากศัตรูของข้าพระองค์
12ขออย่าทรงมอบข้าพระองค์ให้คู่อริทำตามใจชอบ
 เพราะพยานเท็จได้ลุกขึ้นสู้ข้าพระองค์
 และเขาหายใจออกมาเป็นความทารุณ
13ข้าพเจ้าเชื่อแน่ว่า ข้าพเจ้าจะเห็นความดีของพระยาห์เวห์
 ในแผ่นดินของคนเป็น
14จงรอคอยพระยาห์เวห์
 จงเข้มแข็ง และให้จิตใจของท่านกล้าหาญเถิด
 เออ จงรอคอยพระยาห์เวห์

อรรถาธิบาย

1. ผู้ที่กำลังต่อสู้ดิ้นรน

ไม่ว่าคุณจะเผชิญปัญหาอะไรในชีวิต จงยึดมั่นในพระสัญญาของพระเจ้า ขอให้เรารอคอยที่จะได้เห็นความดีงามของพระเจ้าไม่ใช่เพียงแผ่นดินสวรรค์หลังจากเราจากโลกนี้ไปเท่านั้น แต่รวมถึงชีวิตประจำวันบนโลกใบนี้ของคุณด้วย (‘ในแผ่นดินของคนเป็น’ ข้อ 13)

ดาวิดร้องทูลพระเจ้าว่า ‘ขอทรงพระกรุณา’ (ข้อ 7ข) การถูกกล่าวหาว่าแอบอ้างเป็นประสบการณ์ที่น่ากลัว ดาวิดเผชิญกับ ‘ศัตรู’ (ข้อ 11ข) และ ‘พยานเท็จ’ (ข้อ 12ข) จากประสบการณ์ที่เจ็บปวดมากนี้เขาร้องทูลขอความเมตตาจากพระเจ้า และท่ามกลางข้อกล่าวหาทั้งหมดเขาสามารถกล่าวได้ว่า ‘ข้าพเจ้าเชื่อแน่ว่า ข้าพเจ้าจะเห็นความดีของพระยาห์เวห์ในแผ่นดินของคนเป็น’ (ข้อ 13)

สาเหตุที่ดาวิดมั่นใจเช่นนี้เพราะเขาตระหนักดีว่าพระเจ้าทรงเป็นพระผู้ช่วยให้รอด (ข้อ 9ข) และเป็นพ่อแม่ที่สมบูรณ์แบบ ‘แม้บิดาและมารดาของข้าพระองค์ทอดทิ้งข้าพระองค์ แต่พระยาห์เวห์จะทรงยกข้าพระองค์ขึ้น’ (ข้อ 10)

ในปัจจุบันหลายคนพยายามต่อสู้ดิ้นรนอันเป็นผลมาจากการขาดความรักจากพ่อแม่ แต่ไม่ว่าความสัมพันธ์ของคุณกับพ่อแม่จะเป็นอย่างไร คุณก็ยังสามารถเห็นภาพความสัมพันธ์กับพ่อแม่ที่สมบูรณ์แบบด้วย

พระลักษณะของพระเจ้าปรากฏในความเป็นพ่อแม่เช่นเดียวกัน ความซื่อสัตย์ของพระองค์ไม่มีข้อสงสัย ความอ่อนสุภาพของพระองค์สมบูรณ์แบบ ความเป็นมิตรของพระองค์แสนอ่อนโยนและเปี่ยมด้วยความรัก การทรงสถิตของพระองค์ถาวรนิรันดร์ การที่พระองค์ยอมรับคุณนั้นไม่มีเงื่อนไข การสื่อสารของพระองค์เป็นสิ่งที่สร้างขึ้นและเพื่อประโยชน์สูงสุดของคุณ สิทธิอำนาจของพระองค์ถูกต้องและเป็นความจริง

เมื่อดาวิดเขียนว่า ‘พระยาห์เวห์จะทรงยกข้าพระองค์ขึ้น’ (ข้อ 10ข) พระองค์กำลังคิดถึงคุณลักษณะของพ่อแม่ที่สมบูรณ์แบบเหล่านั้น

พระเจ้าจะไม่ทำให้คุณล้มเหลวโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณกำลังดิ้นรน พ่อแม่บางคนให้ความรักและความคุ้มครองเมื่อพวกเขารู้สึกว่าลูกสมควรได้รับ แต่สำหรับพระเจ้าความจริงที่น่าอัศจรรย์ก็คือพระบิดาของเราทรงพระเมตตา ประทานความรักและความคุ้มครองแก่เราแม้ว่าเราจะไม่สมควรได้รับก็ตาม

คำอธิษฐาน

‘ข้าแต่พระยาห์เวห์ ขอทรงฟัง เมื่อข้าพระองค์ร้องทูล ขอทรงพระกรุณาและตรัสตอบข้าพระองค์เถิด ใจของข้าเอ๋ย พระองค์ตรัสกับเจ้าว่า “จงแสวงหาหน้าของเรา” ข้าแต่พระยาห์เวห์ ข้าพระองค์จะแสวงหาพระพักตร์ของพระองค์ ขอทรงสอนพระมรรคาของพระองค์แก่ข้าพระองค์’ (ข้อ 7–8,11)
พันธสัญญาใหม่

มาระโก 10:13-31

การทรงอวยพรเด็กเล็กๆ

 13ขณะนั้นมีบางคนพาเด็กเล็กๆ มาหาพระองค์เพื่อจะให้พระองค์สัมผัสตัวเด็กเหล่านั้น แต่พวกสาวกห้ามไว้ 14เมื่อพระเยซูทอดพระเนตรเห็นอย่างนั้นก็ไม่พอพระทัย ตรัสกับพวกสาวกว่า “จงยอมให้เด็กเล็กๆ เข้ามาหาเรา อย่าห้ามเขาเลย เพราะว่าแผ่นดินของพระเจ้าเป็นของคนอย่างพวกเขา 15เราบอกความจริงกับท่านทั้งหลายว่า ใครที่ไม่ยอมรับแผ่นดินของพระเจ้าเหมือนเด็กเล็กๆ จะเข้าในแผ่นดินนั้นไม่ได้” 16แล้วพระองค์ทรงอุ้มเด็กเล็กๆ เหล่านั้น วางพระหัตถ์บนตัวพวกเขา แล้วทรงอวยพรให้พวกเขา

เศรษฐีคนหนึ่ง

 17เมื่อพระองค์กำลังจะเสด็จออกไปนั้น มีคนหนึ่งวิ่งมาหาพระองค์ คุกเข่าลงทูลถามพระองค์ว่า “อาจารย์ผู้ประเสริฐ ข้าพเจ้าจะทำอย่างไร ถึงจะได้ชีวิตนิรันดร์?” 18พระเยซูตรัสกับคนนั้นว่า “ท่านใช้คำว่าประเสริฐทำไม? ไม่มีใครประเสริฐนอกจากพระเจ้าองค์เดียว 19ท่านก็รู้จักบัญญัติแล้วที่ว่า ‘ห้ามฆ่าคน ห้ามล่วงประเวณีผัวเมียเขา ห้ามลักทรัพย์ ห้ามเป็นพยานเท็จ ห้ามโกงเขา จงให้เกียรติบิดามารดาของเจ้า ’ ” 20คนนั้นจึงทูลพระองค์ว่า “ท่านอาจารย์ บัญญัติเหล่านั้นข้าพเจ้าถือรักษาไว้ตั้งแต่เด็ก” 21พระเยซูทอดพระเนตรดูคนนั้น ทรงเอ็นดูภาษากรีกแปลตรงตัวว่า ทรงรักเขาแล้วตรัสว่า “ท่านยังขาดอยู่อย่างหนึ่ง จงไปขายบรรดาสิ่งของที่ท่านมีอยู่ แจกจ่ายให้กับคนยากจน ท่านจึงจะมีทรัพย์สมบัติในสวรรค์ แล้วจงกลับมาติดตามเรา” 22เมื่อเขาได้ยินอย่างนั้น ใบหน้าของเขาก็สลด แล้วออกไปเป็นทุกข์ เพราะเขามีทรัพย์สิ่งของจำนวนมาก
 23พระเยซูจึงทอดพระเนตรรอบๆ แล้วตรัสกับเหล่าสาวกของพระองค์ว่า “คนมั่งมีจะเข้าในแผ่นดินของพระเจ้าก็ยากจริงๆ” 24เหล่าสาวกก็ประหลาดใจเพราะถ้อยคำของพระองค์ แล้วพระเยซูตรัสกับพวกเขาอีกว่า “ลูกเอ๋ย การเข้าในแผ่นดินของพระเจ้าก็ยากจริงๆ 25อูฐจะลอดรูเข็มก็ง่ายกว่าคนมั่งมีจะเข้าในแผ่นดินของพระเจ้า” 26เหล่าสาวกก็ประหลาดใจอย่างยิ่ง พูดกันเองว่า “ถ้าอย่างนั้นใครจะรอดได้?” 27พระเยซูทอดพระเนตรพวกเขาแล้วตรัสว่า “ส่วนมนุษย์ก็เหลือกำลังที่จะทำได้ แต่ไม่เหลือกำลังของพระเจ้า เพราะว่าพระเจ้าทรงทำให้สำเร็จได้ทุกสิ่ง” 28เปโตรจึงเริ่มทูลพระองค์ว่า “นี่แน่ะ ข้าพระองค์ทั้งหลายยอมสละสิ่งสารพัดและติดตามพระองค์มา” 29พระเยซูตรัสตอบเขาว่า “เราบอกความจริงกับท่านว่า ใครก็ตามที่สละบ้าน หรือพี่น้องชายหญิง หรือบิดามารดา หรือลูก หรือไร่นา เพราะเห็นแก่เราและข่าวประเสริฐของเรา 30คนนั้นจะได้รับผลตอบแทนร้อยเท่าในยุคนี้คือ บ้าน พี่น้องชายหญิง มารดา ลูก และไร่นา พร้อมการข่มเหงด้วย และในยุคหน้าจะได้ชีวิตนิรันดร์ 31แต่หลายคนที่เป็นคนแรกจะกลับไปเป็นคนสุดท้าย และคนสุดท้ายจะกลับไปเป็นคนแรก”

อรรถาธิบาย

2. เด็ก ๆ

ในสังคมที่ไม่ใส่ใจต่อ ‘เด็กเล็ก ๆ’ (ข้อ 13) พระเยซูทรงสงสารพวกเขา (ข้อ 13–16) พระองค์กล่าวว่า ‘แผ่นดินของพระเจ้าเป็นของคนอย่างพวกเขา’ (ข้อ 14ข) ‘แล้วพระองค์ทรงอุ้มเด็กเล็กๆ เหล่านั้น วางพระหัตถ์บนตัวพวกเขาแล้วทรงอวยพรให้พวกเขา’ (ข้อ 16) เราต้องแน่ใจว่าในคริสตจักรเราให้ความรัก ความคุ้มครองและให้ความสำคัญแก่เด็ก ๆ เช่นเดียวกับที่พระเยซูทรงประทานแก่พวกเขา ทั้งในด้านเวลา กำลังและทรัพยากรที่มี

อันที่จริงพระเยซูตรัสแก่เราว่า ไม่ว่าเราจะเป็นใครหรือเราจะอายุเท่าไหร่ เราทุกคนต้องเรียนรู้จากเด็ก ๆ เมื่อต้องเป็นส่วนหนึ่งของแผ่นดินของพระเจ้าว่า ‘เราบอกความจริงกับท่านทั้งหลายว่า ใครที่ไม่ยอมรับแผ่นดินของพระเจ้าเหมือนเด็กเล็ก ๆ จะเข้าในแผ่นดินนั้นไม่ได้’ (ข้อ 15)

พระเยซูไม่ได้แนะนำให้เราเป็นเหมือนเด็กในทุก ๆ ด้าน เราไม่ควรทำตามใจตัวเองแบบเด็ก ๆ หรือไม่รับผิดชอบต่อการกระทำของเรา แต่เช่นเดียวกับเด็ก ๆ เราต้องเปิดกว้างและเปิดใจ ซื่อสัตย์ต่อความรู้สึกของเรา โดยยอมรับว่าเราอ่อนแอและเปราะบางแค่ไหนและเราต้องการคนอื่นมากเพียงใด เช่นเดียวกับเด็ก ๆ จงให้อภัยอย่างรวดเร็วและก้าวไปข้างหน้าด้วยความไว้วางใจ

เด็ก ๆ มักจะกระตือรือร้น ชื่นชมและตื่นเต้นเมื่อได้รับของขวัญ เช่นเดียวกันเมื่อพูดถึงแผ่นดินของพระเจ้า เราควรจะเป็นเหมือนเด็ก ๆ ทุกประการ ตามขนาดของขวัญของพระเยซูที่มอบให้เราและคุณสมบัติของเรา เราไม่สมควรได้รับของขวัญนี้แต่โดยพระเมตตาของพระเยซู พระองค์มอบให้กับเราแล้ว

ข้าแต่พระเจ้า โปรดช่วยข้าพระองค์ให้เรียนรู้จากเด็ก ๆ ในการเป็นเหมือนพวกเขาในทางที่ถูกต้องและให้ลำดับความสำคัญเช่นเดียวกับที่พระองค์มีต่อพวกเขา

3. ผู้ยากไร้

พระเยซูบอกเศรษฐีให้ ‘แจกจ่ายให้กับคนยากจน’ (ข้อ 21ข) สิ่งนี้ไม่ได้เป็นเพียงเพื่อผลประโยชน์ของเขาเอง แต่เพราะคนยากจนเป็นอีกกลุ่มหนึ่งที่พระเยซูให้ความสำคัญในชีวิตและพันธกิจของพระองค์

*ข้าแต่พระเจ้า โปรดช่วยข้าพระองค์ให้มีความรักและความเมตตาต่อคนยากจนเช่นเดียวกับที่พระองค์ทรงทำ *

4. คนมั่งมี

ความสงสารของพระเยซูไม่เพียงส่งถึงคนยากจน แต่ยังรวมถึงเศรษฐีด้วย พระเยซูมองเศรษฐีหนุ่มคนนี้และ ‘ทรงเอ็นดู’ (ข้อ 21ก) คนมั่งมีจะเข้าในแผ่นดินของพระเจ้าได้ยากมาก (ข้อ 24–25)

บางครั้งคนมั่งมีและแม้แต่ประเทศร่ำรวยก็ต่อต้านพระกิตติคุณมากกว่า ความมั่งคั่งอาจนำไปสู่ความหยิ่งผยองและการพึ่งพาตนเองแบบผิด ๆ แต่พระเยซูไม่ได้หมายความว่าเป็นไปไม่ได้ที่เศรษฐีจะได้รับความรอด ‘ทุกสิ่งเป็นไปได้สำหรับพระเจ้า’ (ข้อ 27)

ข้าแต่พระเจ้า ขอบคุณที่พระองค์ทรงพระเมตตา ไม่เพียงแต่กับคนยากจน แต่ยังรวมถึงคนมั่งมีด้วย

5. ผู้ถูกข่มเหง

พระเยซูตรัสว่าสาวกทุกคนจะถูกข่มเหง (ข้อ 30) สำหรับพวกเราบางคนอาจถูก ‘การข่มเหง’ เพียงเล็กน้อยและไม่รุนแรง ผู้คนอาจหัวเราะใส่คุณ เยาะเย้ยคุณและต่อต้านคุณ แต่สำหรับคริสเตียนหลายล้านคนทั่วโลกการข่มเหงนั้นจริงและรุนแรง

ต้นทุนส่วนหนึ่งในการติดตามพระเยซูคือการถูกข่มเหง การติดตามพระเยซูมีราคาที่ต้องจ่ายเสมอ เราอาจต้องสูญเสียเพื่อนหรือพระเยซูทรงเรียกให้เราออกจากสถานการณ์หรือความสัมพันธ์บางอย่าง แต่การจ่ายราคานี้มาพร้อมกับแซนวิชแห่งพระพรคือในชีวิตนี้จะได้รับผลตอบแทนร้อยเท่า (ข้อ 29–30) ‘และตามด้วย โบนัสแห่งชีวิตนิรันดร์’ (ข้อ 30, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) พระเจ้าทรงมีพระเมตตาต่อผู้ถูกข่มเหง

คำอธิษฐาน

ข้าแต่พระเจ้า ขอขอบคุณพระองค์สำหรับความกล้าหาญ ตัวอย่างและแรงบันดาลใจของผู้ที่แบกรับความยากลำบากอย่างแท้จริงเพื่อพระองค์ ขอให้ข้าพระองค์มีใจกล้าที่จะติดตามพระองค์ไม่ว่าราคาที่ต้องจ่ายเท่าใด
พันธสัญญาเดิม

เลวีนิติ 4:1-5:13

เครื่องบูชาลบล้างบาป

 1พระยาห์เวห์ตรัสกับโมเสสว่า 2“จงกล่าวแก่คนอิสราเอลว่า ถ้าผู้ใดทำบาปโดยไม่เจตนาต่อพระบัญญัติประการหนึ่งประการใดของพระยาห์เวห์ที่ทรงห้ามไว้ และเขาได้ทำผิดข้อหนึ่งข้อใด 3ถ้าปุโรหิตผู้รับการเจิมไว้ทำบาป ย่อมนำความผิดมาสู่ประชาชน เนื่องจากบาปที่เขาทำ ให้เขานำโคหนุ่มไร้ตำหนิมาถวายแด่พระยาห์เวห์เป็นเครื่องบูชาลบล้างบาป 4ให้เขานำโคนั้นมาที่ประตูเต็นท์นัดพบเฉพาะพระพักตร์พระยาห์เวห์ และให้เขาเอามือวางบนหัวโคตัวนั้น และให้เขาฆ่าโคเฉพาะพระพักตร์พระยาห์เวห์ 5และปุโรหิตผู้รับการเจิมไว้ จะนำเลือดส่วนหนึ่งของโคนั้นมาที่เต็นท์นัดพบ 6ปุโรหิตจะเอานิ้วจุ่มเลือด และประพรมหน้าม่านวิสุทธิสถานเจ็ดครั้งเฉพาะพระพักตร์พระยาห์เวห์ 7และปุโรหิตจะนำเลือดเล็กน้อยเจิมเชิงงอนแท่นเผาเครื่องหอม ซึ่งอยู่ในเต็นท์นัดพบเฉพาะพระพักตร์พระยาห์เวห์ ส่วนเลือดโคที่เหลือนั้นเขาจะเทลงที่ฐานของแท่นเครื่องบูชาเผาทั้งตัวซึ่งอยู่ที่ประตูเต็นท์นัดพบ 8และเขาจะเอาไขมันทั้งหมดออกจากโคตัวที่เป็นเครื่องบูชาลบล้างบาปนี้ คือไขมันที่หุ้มเครื่องใน และไขมันทั้งหมดที่อยู่บนเครื่องใน 9ส่วนไตทั้งสองและไขมันที่ติดอยู่กับไตซึ่งอยู่ที่บั้นเอว และให้เขาตัดไขที่อยู่เหนือตับนั้นออกพร้อมกับไต 10(ให้เอาออกเช่นเดียวกับเอาออกจากโคที่ถวายเป็นศานติบูชา) และปุโรหิตจะเผาสิ่งเหล่านี้บนแท่นเครื่องบูชาเผาทั้งตัว 11แต่หนังของโคพร้อมกับเนื้อโค หัว ขา เครื่องในและมูลของมัน 12คือโคทั้งตัวนี้ ให้เขานำออกไปนอกค่ายยังที่ไม่มีมลทิน ที่ทิ้งมูลเถ้า และให้ใส่ฟืนสุมไฟเผาเครื่องบูชาบนฟืนบนมูลเถ้า
 13“ถ้าชุมนุมชนอิสราเอลทั้งหมดทำผิดโดยไม่เจตนา และความผิดนั้นถูกปิดบังจากสายตาของที่ประชุม คือพวกเขาได้ทำผิดพระบัญญัติข้อหนึ่งข้อใดที่พระยาห์เวห์ทรงห้ามทำ พวกเขาจึงมีความผิด 14เมื่อความบาปที่พวกเขาได้ทำนั้นเป็นที่ประจักษ์ขึ้น ให้ที่ประชุมถวายโคหนุ่มตัวหนึ่งเป็นเครื่องบูชาลบล้างบาป ให้นำโคนั้นมาที่หน้าเต็นท์นัดพบ 15และบรรดาผู้ใหญ่ของชุมนุมชนจะเอามือวางบนหัวของโคนั้นเฉพาะพระพักตร์พระยาห์เวห์ และให้ฆ่าโคตัวนั้นเสียเฉพาะพระพักตร์พระยาห์เวห์ 16แล้วปุโรหิตผู้รับการเจิมไว้จะนำเลือดส่วนหนึ่งของโคมาที่เต็นท์นัดพบ 17และปุโรหิตจะเอานิ้วจุ่มเลือดและประพรมหน้าม่านเจ็ดครั้งเฉพาะพระพักตร์พระยาห์เวห์ 18และปุโรหิตจะนำเลือดเล็กน้อยเจิมเชิงงอนแท่นบูชาซึ่งอยู่ในเต็นท์นัดพบเฉพาะพระพักตร์พระยาห์เวห์ ส่วนเลือดที่เหลือนั้น เขาจะเทลงที่ฐานของแท่นเครื่องบูชาเผาทั้งตัวซึ่งอยู่ที่ประตูเต็นท์นัดพบ 19และเขาจะเอาไขมันออกจากโคนั้นหมด นำไปเผาเสียบนแท่น 20ให้เขาทำกับโคตัวนี้เหมือนทำกับโคที่ถวายเป็นเครื่องบูชาลบล้างบาป โดยวิธีนี้ปุโรหิตจะลบล้างบาปของชุมนุมชน แล้วเขาทั้งหลายจะได้รับการอภัย 21แล้วปุโรหิตจะนำโคออกไปนอกค่าย และเผาเสียอย่างกับเผาโคตัวก่อน เป็นเครื่องบูชาลบล้างบาปของที่ประชุม
 22“ถ้าผู้นำทำบาป คือทำผิดพระบัญญัติข้อหนึ่งข้อใดของพระยาห์เวห์พระเจ้าของเขาที่ทรงห้ามทำโดยไม่เจตนา เขาจึงมีความผิด 23ถ้าได้แจ้งให้เขารู้ถึงความผิดที่เขาได้ทำนั้นแล้ว ก็ให้เขานำเครื่องบูชาเป็นแพะหนุ่มที่ไร้ตำหนิตัวหนึ่งมาถวาย 24ให้เขาเอามือวางบนหัวแพะและให้ฆ่าแพะในที่ซึ่งเขาฆ่าเครื่องบูชาเผาทั้งตัวแด่พระยาห์เวห์ เป็นเครื่องบูชาลบล้างบาป 25ปุโรหิตจะเอานิ้วจุ่มเลือดบางส่วนของเครื่องบูชาลบล้างบาป นำไปเจิมเชิงงอนของแท่นเครื่องบูชาเผาทั้งตัว และเทเลือดที่เหลือนั้นที่ฐานของแท่นเครื่องบูชาเผาทั้งตัว 26และให้เขาเผาไขมันทั้งหมดบนแท่น เช่นเดียวกับเผาไขมันเครื่องศานติบูชา โดยวิธีนี้แหละปุโรหิตจะลบล้างบาปของผู้นำและเขาจะได้รับการอภัย
 27“ถ้าสามัญชนคนหนึ่งทำบาปโดยไม่เจตนา คือทำผิดพระบัญญัติข้อหนึ่งข้อใดของพระยาห์เวห์ที่ทรงห้ามทำ เขาจึงมีความผิด 28เมื่อได้แจ้งให้เขารู้ถึงบาปซึ่งเขาได้ทำแล้ว ให้เขานำเครื่องบูชาของเขาเป็นแพะสาวตัวหนึ่งที่ไร้ตำหนิมาถวาย เป็นเครื่องบูชาลบล้างบาปที่เขาได้ทำไปนั้น 29และเขาจะเอามือวางบนหัวของเครื่องบูชาลบล้างบาป และฆ่าเครื่องบูชาลบล้างบาปนั้น ในที่เดียวกับเครื่องบูชาเผาทั้งตัว 30ปุโรหิตจะเอานิ้วจุ่มเลือดแพะนั้นไปเจิมเชิงงอนแท่นเครื่องบูชาเผาทั้งตัว และเทเลือดทั้งหมดลงที่ฐานของแท่นนั้น 31และเขาจะเอาไขมันออกจนหมดอย่างที่เอาออกจากเครื่องศานติบูชา และปุโรหิตจะเผาไขมันนั้นบนแท่น เป็นกลิ่นพอพระทัยแด่พระยาห์เวห์ ปุโรหิตจะลบล้างบาปของคนนั้น และเขาจะได้รับการอภัย
 32“ถ้าเขานำลูกแกะมาเป็นเครื่องบูชาลบล้างบาป ก็ให้เขานำลูกแกะตัวเมียไร้ตำหนิมา 33เขาจะเอามือวางบนหัวของเครื่องบูชาลบล้างบาป และฆ่ามันเสียเป็นเครื่องบูชาลบล้างบาปในที่ซึ่งเขาฆ่าเครื่องบูชาเผาทั้งตัว 34และปุโรหิตจะเอานิ้วจุ่มเลือดเครื่องบูชาลบล้างบาป นำไปเจิมเชิงงอนแท่นเครื่องบูชาเผาทั้งตัวและเทเลือดทั้งหมดลงที่ฐานของแท่นนั้น 35และเขาจะเอาไขมันทั้งหมดออกอย่างที่เอาไขมันของลูกแกะออกจากเครื่องศานติบูชา และปุโรหิตจะเผาไขมันบนแท่น บนเครื่องบูชาด้วยไฟของพระยาห์เวห์ แล้วปุโรหิตจะลบล้างบาปของคนนั้นซึ่งเขาได้ทำ และเขาจะได้รับการอภัย

เลวีนิติ 5

 1“ถ้าผู้ใดทำบาป คือได้ยินคำประกาศเรียกพยาน โดยที่เขารู้เห็นหรือรู้เรื่องในเหตุการณ์ที่เป็นคดี แต่เขาไม่ยอมให้การ เขาต้องรับโทษความผิดของเขา 2หรือผู้ใดแตะต้องสิ่งที่เป็นมลทิน จะเป็นซากสัตว์ป่าที่เป็นมลทิน หรือซากสัตว์เลี้ยงที่เป็นมลทิน หรือซากสัตว์ที่เคลื่อนที่ติดพื้นดินที่เป็นมลทินโดยไม่ทันรู้ตัว เขาจึงเป็นมลทินและมีความผิด 3ถ้าเขาแตะต้องมลทินของคน จะเป็นสิ่งใดก็ตามที่ทำให้เขาเป็นมลทินโดยไม่รู้ตัว แล้วรู้ทีหลัง เขายังคงมีความผิด 4ถ้าคนใดเผลอตัวกล่าวคำสาบานว่าจะทำชั่วหรือดี หรือเผลอตัวกล่าวคำสาบานใดๆ โดยไม่ยั้งคิด แล้วเขานึกขึ้นได้ภายหลัง เขามีความผิดในเรื่องนั้นๆ 5เมื่อผู้ใดมีความผิดเรื่องหนึ่งเรื่องใดตามที่กล่าวมานี้ ก็ให้เขาสารภาพบาปที่เขาได้ทำ 6และให้เขานำเครื่องบูชาเป็นค่าปรับสำหรับบาปซึ่งเขาได้ทำนั้นมาถวายแด่พระยาห์เวห์ จะเป็นสัตว์ตัวเมียจากฝูง ลูกแกะหรือแพะก็เป็นเครื่องบูชาลบล้างบาปได้ โดยวิธีนี้ปุโรหิตจะลบล้างบาปของเขา
 7“ถ้าเขาไม่สามารถถวายลูกแกะตัวหนึ่งได้ ก็ให้เขานำนกเขาสองตัวหรือนกพิราบสองตัวมาถวายแด่พระยาห์เวห์เพื่อชดใช้บาปของเขา นกตัวหนึ่งเป็นเครื่องบูชาลบล้างบาป และนกอีกตัวหนึ่งเป็นเครื่องบูชาเผาทั้งตัว 8ให้เขานำนกทั้งสองตัวนี้มาให้ปุโรหิต ปุโรหิตจะถวายนกตัวที่เป็นเครื่องบูชาลบล้างบาปก่อน โดยบิดหัวนกหลุดจากคอแต่ไม่ทำให้ขาด 9และให้เอาเลือดเครื่องบูชาลบล้างบาปประพรมข้างแท่นบูชาเล็กน้อย ส่วนเลือดที่เหลือให้ไหลออกที่ฐานแท่นบูชา นี่เป็นเครื่องบูชาลบล้างบาป 10แล้วเขาจะถวายนกตัวที่สองเป็นเครื่องบูชาเผาทั้งตัวตามกฎเกณฑ์ แล้วปุโรหิตจะลบล้างบาปของเขาที่เขาได้ทำ และเขาจะได้รับการอภัย
 11“แต่ถ้าเขายังไม่สามารถนำนกเขาสองตัวหรือนกพิราบสองตัวมา ก็ให้เขานำแป้งอย่างดีหนึ่งกิโลกรัมมาเป็นเครื่องบูชาลบล้างบาปซึ่งเขาได้ทำนั้น ห้ามเขาใส่น้ำมัน หรือวางเครื่องกำยานบนแป้ง เพราะเป็นเครื่องบูชาลบล้างบาปไม่ใช่ธัญบูชาซึ่งต้องใส่น้ำมันและกำยาน 12ให้เขานำแป้งมาให้ปุโรหิต และปุโรหิตจะเอาแป้งกำมือหนึ่งเป็นส่วนอนุสรณ์ และเผาบนแท่นเป็นเครื่องบูชาด้วยไฟถวายแด่พระยาห์เวห์ เป็นเครื่องบูชาลบล้างบาป 13เช่นนี้แหละ ปุโรหิตจะลบล้างบาปของเขา ซึ่งเขาได้ทำในเรื่องหนึ่งเรื่องใดที่กล่าวมานี้ และเขาจะได้รับการอภัย ส่วนที่เหลือนั้นจะเป็นของปุโรหิตเช่นเดียวกับธัญบูชา”

อรรถาธิบาย

6. ผู้กระทำผิด

เราทุกคนมีความผิดบาป (ยากอบ 2:10) คำว่า ‘ความผิด’ ปรากฏซ้ำแล้วซ้ำเล่าในข้อนี้ (เลวีนิติ 4:3,13, 22, 27; 5:2, 3,4,5) มีค่าปรับสำหรับบาป (5:5–6) อัครสาวกเปาโลบอกเราว่าโทษของบาปคือความตาย (โรม 6:23)

การเสียสละที่อธิบายไว้อย่างละเอียดในตอนนี้เป็นการเตรียมผู้คนให้พร้อมสำหรับการเสียสละอันสมบูรณ์แบบของพระเยซูที่สิ้นพระชนม์เพื่อคุณและผม (ผู้มีความผิด) เพื่อที่เราจะได้รับพระเมตตาจากพระเจ้า

  • พระเยซูทรงลบล้างบาปของคุณ

การให้อภัยไม่ได้มาโดยปราศจากการลบล้างบาป (เลวีนิติ 4:31,35; 5:10,13) คำจำกัดความอย่างหนึ่งของการลบล้างคือ ‘การแสดงออกถึงการแก้ไขสิ่งผิดหรือความเจ็บปวดจนทำให้สองฝ่ายมารวมกันเป็นหนึ่งเดียว’ ดังนั้นคำว่า ‘at-one-ment’ (ลบ-ล้าง-บาป) ท้ายที่สุดแล้วมีเพียงพระเยซูเท่านั้นที่ทำการลบมลทินบาปของเรา (ฮีบรู 2:17)

  • พระเยซูสิ้นพระชนม์เป็นเครื่องบูชาลบล้างบาป

เราอ่านเกี่ยวกับขั้นตอนอย่างละเอียดของ ‘เครื่องบูชาลบล้างบาป’ (เลวีนิติ 4: 3,29,33,34; 5: 9,11,12) พระเยซูทรงสิ้นพระชนม์ในฐานะ ‘เครื่องบูชาลบล้างบาป’ (โรม 3:25) สำหรับบาปของคุณและของผม

  • พระเยซูเป็นเครื่องบูชาที่สมบูรณ์แบบ

เครื่องบูชานั้นต้อง ‘ไร้ตำหนิ’ (เลวีนิติ 4:3,28,32) ท้ายที่สุดแล้วมีเพียงพระเยซูเท่านั้นที่ปราศจากบาป พระองค์จึงสามารถเป็นเครื่องบูชาที่สมบูรณ์แบบได้ (ฮีบรู 5:9)

  • พระเยซูทรงเป็นลูกแกะของพระเจ้า

มีการนำลูกแกะมาเป็นเครื่องบูชาไถ่บาป (เลวีนิติ 4:32) ผู้กระทำผิดต้องวางมือบนศีรษะ ลูกแกะต้องตายเป็นเครื่องบูชาไถ่บาปเพื่อกำจัดบาป พระเยซูทรงเป็น ‘พระเมษโปดกของพระเจ้า ผู้ทรงรับบาปของโลกไป!’ (ยอห์น 1:29)

  • พระโลหิตของพระเยซูได้หลั่งเพื่อคุณ

ปุโรหิตต้องเอา ‘เลือดเครื่องบูชาลบล้างบาป ... เทเลือดทั้งหมด’ (เลวีนิติ 4:34) เลือดแสดงถึงชีวิตของสัตว์ (17:11) การเทเลือดออกเป็นสัญลักษณ์ของความจริงที่ว่าสัตว์นั้นตายไปแล้ว นี่คือสถานที่ของผู้เสียสละ พระโลหิตของพระเยซูหลั่งออกมาเพื่อคุณและผม (มัทธิว 26:28)

  • พระเยซูทรงทำให้ทุกคนได้รับความเมตตาของพระเจ้า

คำว่า ‘การอภัย’ และ ‘ได้รับการอภัย’ ปรากฏซ้ำแล้วซ้ำเล่า (เลวีนิติ 4:20,26,31,35; 5: 10,13) ‘ถ้าไม่มีโลหิตไหลออกแล้ว ก็จะไม่มีการยกโทษบาปเลย’ (ฮีบรู 9:22) โดยโลหิตของพระเยซูการยกโทษบาปจึงเป็นไปได้ (เอเฟซัส 1:7) ด้วยเหตุนี้ความเมตตาของพระเจ้าจึงเตรียมไว้เพื่อคุณและผม

คำอธิษฐาน

ข้าแต่พระเจ้า ขอบคุณพระองค์ที่ข้าพระองค์ไม่ต้องผ่านกระบวนการที่ซับซ้อนเหล่านี้อีกต่อไปเพื่อขอรับพระเมตตาและการยกโทษ ขอบคุณพระองค์ที่การยกโทษทั้งหมดมีให้สำหรับข้าพระองค์ผ่านทางพระเยซู ขอบคุณพระองค์ในความรักที่ยิ่งใหญ่ของพระองค์ที่มีต่อข้าพระองค์ พระองค์ทรง ‘เปี่ยมด้วยพระเมตตา’ (2:4)

เพิ่มเติมโดยพิพพา

เลวีนิติ 4: 1–5:13

การเสียสละทั้งหมดนั้น ช่างเป็นวิธีที่ยุ่งยากและซับซ้อนในการให้อภัย มันช่างวิเศษมากที่เราสามารถเข้าหาพระเยซูได้อย่างเงียบ ๆ และถ่อมตัวเพื่อรับการอภัยและรับการชำระบาปทั้งหมดของเรา สิ่งนี้น่าทึ่งขนาดไหน!

ข้อพระคำประจำวัน

มาระโก 10:27

‘พระเจ้าทรงทำให้สำเร็จได้ทุกสิ่ง’

reader

App

Download the Bible in One Year app for iOS or Android devices and read along each day.

reader

อีเมล

Sign up now to receive Bible in One Year in your inbox each morning. You’ll get one email each day.

reader

เว็บไซต์

Subscribe and listen to Bible in One Year delivered to your favourite podcast app everyday.

การอ้างอิง

ข้อพระคัมภีร์อ้างอิงมาจากพระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 2011 สงวนสิทธิ์โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย (ยกเว้นข้อที่ระบุว่าเป็นฉบับอื่น)

เว็บไซต์นี้จัดเก็บข้อมูล เช่น คุกกี้ เพื่อเปิดใช้งานฟังก์ชั่นและการวิเคราะห์ที่จำเป็นเท่านั้น ดูเพิ่มเติม