วัน 318

การแข่งขันที่กำหนดไว้เพื่อคุณ

ปัญญานิพนธ์ สดุดี 125:1-5
พันธสัญญาใหม่ ฮีบรู 12:1-13
พันธสัญญาเดิม เอเสเคียล 26:1-27:36

เกริ่นนำ

ผมเคยทำผิดพลาดมามากมายในชีวิตและรู้สึกเสียใจไม่น้อย ตอนผมอายุสิบเก้าผมเข้าร่วมใน ‘The Boundary Run’ โดยไม่ได้ตั้งใจ และไม่ได้ฝึกฝนใด ๆ เป็นการวิ่งระยะทางยาวกว่ามาราธอนเล็กน้อย และเป็นการวิ่งรอบเขตเมืองเคมบริดจ์ โดยส่วนใหญ่จะข้ามทุ่งนาที่มีการไถเสร็จแล้ว

สำหรับ 14 ไมล์แรกผมวิ่งได้สบายเลย แต่หลังจากนั้นชิ้นส่วนต่าง ๆ ของร่างกายของผมก็เริ่มตึง แม้ว่าผมจะวิ่งจบการแข่งขันในเวลาที่เหมาะสม แต่ก็ต้องใช้เวลาหลายสัปดาห์กว่าจะฟื้นตัว การวิ่งมาราธอนโดยไม่ฝึกฝนไม่ใช่สิ่งที่ควรทำเอาเสียเลย

ผู้เขียนพระธรรมฮีบรูกล่าวว่าชีวิตคริสเตียนก็เหมือนการวิ่งแข่ง เหมือนกับการวิ่งมาราธอนมากกว่าการวิ่งระยะสั้น เราเป็น ‘นักวิ่งระยะไกล’ (ฮีบรู 12:13, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) ต้องมีการฝึกฝน ความอดทน และวินัย ‘ถ้าเราไม่ท้อถอยและหมดกำลังใจ’ (ข้อ 3) ข้อพระคัมภีร์ในแต่ละข้อสำหรับวันนี้ คุณจะเห็นสิ่งที่คุณต้องทำเพื่อวิ่ง ‘การแข่งขันที่กำหนดไว้สำหรับ (คุณ)’ (ข้อ 1) รวมถึงผลลัพธ์ของการทำเช่นนั้น

ปัญญานิพนธ์

สดุดี 125:1-5

คำขอบพระคุณพระเจ้า ที่ทรงช่วยกู้อิสราเอลให้พ้นจากศัตรู

บทเพลงใช้แห่ขึ้น ของดาวิด

1“ถ้าพระยาห์เวห์มิได้ทรงอยู่ฝ่ายเรา”
 เออ ขอให้อิสราเอลกล่าวว่า
2“ถ้าพระยาห์เวห์มิได้ทรงอยู่ฝ่ายเรา
 เมื่อคนลุกขึ้นต่อสู้เรา
3แล้วพวกเขาจะกลืนเราเสียทั้งเป็น  เมื่อความกริ้วของพวกเขาพลุ่งขึ้นต่อเรา
4แล้วน้ำทั้งหลายจะซัดเราไป
 กระแสน้ำจะไหลท่วมเรา
5แล้วน้ำที่เดือดดาล
 จะไหลท่วมเรา”

อรรถาธิบาย

อยู่ในลู่ และยังคงวิ่งต่อไป

เซนต์แคทเธอรีนแห่งเซียนาเขียนว่า ‘ไม่มีสิ่งยิ่งใหญ่ใดที่ทำสำเร็จ โดยปราศจากความอดทน’

กุญแจสู่ความพากเพียรอยู่ที่การวางใจในพระเจ้า ‘บรรดาผู้ที่วางใจในพระยาห์เวห์ก็เหมือนภูเขาศิโยน ซึ่งไม่หวั่นไหว แต่ดำรงอยู่เป็นนิตย์’ (ข้อ 1) สิ่งนี้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับความปรารถนาที่ไม่มีเหตุผล แต่ขึ้นอยู่กับพระลักษณะและการปกป้องของพระเจ้าที่เราวางใจ

พระเจ้าสถิตอยู่กับคุณ พระองค์มาเพื่อคุณ ทรงครอบครองคุณ พระองค์ทรงประทับอยู่ในคุณ และทรงโอบล้อมคุณไว้ ‘พระยาห์เวห์ทรงอยู่รอบประชากรของพระองค์’ (ข้อ 2) การปกป้องนี้เป็นสิ่งที่คุณวางใจได้ ‘ตั้งแต่บัดนี้สืบไปเป็นนิตย์’ (ข้อ 2)

ความเชื่อ (‘วางใจในพระยาห์เวห์’ ข้อ 1) นำไปสู่ความชอบธรรม (โรม 3:22) และส่วนที่เหลือของพระธรรมสดุดีนี้เน้นที่มุมมองระยะยาวสำหรับทั้งคนชอบธรรมและคนอธรรม ไม่ว่าสถานการณ์จะดูเป็นอย่างไรในตอนนี้ ‘เพราะคทาของความอธรรมจะไม่อยู่เหนือแผ่นดินที่ตกเป็นส่วนของคนชอบธรรม’ (สดุดี 125:3ก)

ผู้เขียนพระธรรมสดุดีเตือนเรื่องการหลงเจิ่นออกจากทางของพระเจ้าว่า ‘แต่สำหรับผู้ที่หันเข้าหาทางคด พระยาห์เวห์จะทรงพาพวกเขาไปพร้อมกับผู้ทำความชั่ว’ (ข้อ 5) เมื่อเราหลงทาง เราก็จะสูญเสียสันติสุข คำอธิษฐานของผู้เขียนคือ ‘ขอสันติภาพจงมีอยู่ในอิสราเอล’ (ข้อ 5ข)

คำอธิษฐาน

ข้าแต่พระเจ้า ขอบพระคุณที่ทรงอยู่รอบผู้ที่วางใจในพระองค์ ข้าพระองค์วางใจด้วยชีวิตของข้าพระองค์อีกครั้งในวันนี้ โปรดปกป้อง และประทานสันติสุขแก่ข้าพระองค์
พันธสัญญาใหม่

ฮีบรู 12:1-13

การตีสอนขององค์พระผู้เป็นเจ้า

 1เพราะฉะนั้น เมื่อเรามีพยานมากมายอยู่รอบข้างอย่างนี้แล้วก็ขอให้เราละทิ้งทุกอย่างที่ถ่วงอยู่ และบาปที่เกาะแน่น ขอให้เรายังคงวิ่งแข่งด้วยความทรหดอดทนในการแข่งขันที่อยู่ข้างหน้าเรา 2โดยจับตามองที่พระเยซูผู้เบิกทางความเชื่อ และผู้ทรงทำให้ความเชื่อนั้นสมบูรณ์ พระองค์ทรงสู้ทนต่อกางเขน เพื่อความยินดีที่อยู่ต่อหน้าพระองค์ ทรงถือว่าความอับอายนั้นไม่เป็นสิ่งสำคัญ และพระองค์ประทับเบื้องขวาพระที่นั่งของพระเจ้า
 3ท่านทั้งหลายจงคิดถึงพระองค์ผู้ทรงยอมทนต่อการคัดค้านของคนบาป เพื่อท่านจะไม่อ่อนล้าและไม่ท้อใจ 4ในการต่อสู้กับบาปนั้น ท่านยังไม่ได้สู้จนถึงกับต้องหลั่งเลือดเลย 5และท่านได้ลืมคำเตือนที่พระองค์ทรงเตือนพวกท่านในฐานะที่เป็นบุตรว่า

*“บุตรชายของเราเอ๋ย อย่าละเลยต่อการตีสอนขององค์พระผู้เป็นเจ้า
 และอย่าท้อใจเมื่อพระองค์ทรงตักเตือน
6 เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงตีสอนผู้ที่พระองค์ทรงรัก
 และเมื่อพระองค์ทรงรับใครเป็นบุตร พระองค์ก็ทรงเฆี่ยนตีคนนั้น”

 7ท่านทั้งหลายจงสู้ทนเอาเถอะเพราะเป็นการตีสอน พระเจ้าทรงปฏิบัติต่อท่านเหมือนท่านเป็นบุตรของพระองค์ เพราะว่ามีบุตรคนไหนบ้างที่บิดาไม่ตีสอน? 8แต่ถ้าท่านทั้งหลายไม่ได้ถูกตีสอนเช่นเดียวกับคนอื่นๆ ท่านก็ไม่ใช่บุตร แต่เป็นลูกนอกกฎหมาย 9ยิ่งไปกว่านั้น เราทั้งหลายมีบิดาเป็นมนุษย์ที่ตีสอนเรา และเราก็นับถือบิดานั้น เราจึงยิ่งควรอยู่ใต้บังคับของพระบิดาแห่งจิตวิญญาณ และดำรงชีวิตอยู่ไม่ใช่หรือ? 10เพราะบิดาที่เป็นมนุษย์ตีสอนเราเพียงชั่วเวลาเล็กน้อยตามความเห็นดีเห็นชอบของพวกเขา แต่พระองค์ทรงตีสอนเพื่อประโยชน์ของเรา เพื่อเราจะมีส่วนในความบริสุทธิ์ของพระองค์ 11การตีสอนทุกอย่างดูไม่น่ายินดีเลยในเวลานั้น แต่น่าเศร้าใจ แต่ภายหลังก็ก่อให้เกิดผลคือสันติสุขและความชอบธรรม แก่บรรดาคนที่ถูกฝึกฝนโดยการตีสอนนั้น
 12เหตุฉะนั้นจงเสริมกำลังมือที่อ่อนแรง และเข่าที่อ่อนล้า 13และจงทำหนทางให้ตรงเพื่อเท้าของพวกท่าน เพื่อว่าขาที่เขยกนั้นจะได้ไม่เคล็ด แต่จะหายเป็นปกติ

อรรถาธิบาย

วิ่งแข่งด้วยความทรหดอดทน

มีการแข่งขันที่ ‘กำหนดไว้’ สำหรับคุณ ซึ่งคุณได้รับการหนุนใจให้ ‘วิ่งแข่งด้วยความทรหดอดทน’ (ข้อ 1) ในการแข่งขันครั้งนี้คุณมีกำลังใจที่ดี ‘เมื่อเรามีพยานมากมาย’ (ข้อ 1) คนเหล่านี้คือชายและหญิงแห่งความเชื่อ รายชื่อบุคคลต่าง ๆในฮีบรูบทที่ 11 นั้นล้วนไม่ได้มีชีวิตอยู่แล้ว แต่เรามีพยานที่อยู่รายล้อมเรารวมถึงผู้ที่ยังมีชีวิตอยู่ซึ่งเป็นแบบอย่างแห่งความเชื่อ ‘บรรดาผู้บุกเบิกผู้จุดประกายทาง เหล่าทหารผ่านศึกเหล่านั้นล้วนให้กำลังใจเรา’ (ข้อ 1, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)

การวิ่งแข่งของคุณมักไม่ได้ปราศจากความยากลำบาก ทั้งการต่อต้านและความท้าทายต่าง ๆ มีหลายอย่างที่อาจทำให้คุณสะดุดระหว่างทาง แต่ให้เรา ‘ละทิ้งทุกอย่างที่ถ่วงอยู่ และบาปเกาะแน่น’ (ข้อ 1)

ในโลกยุคโบราณ ผู้เข้าแข่งขันมักจะเปลื้องผ้าเหลือไว้แต่ผ้าเตี่ยวเพื่อการแข่งขัน อย่าให้เราเป็นเพียงแต่ผู้ชม จงเข้าร่วมในฐานะผู้เข้าแข่งขัน

เพราะเสื้อผ้ามากเกินไปจะเป็นอุปสรรคต่อนักกีฬา นี่เป็นการเปรียบเทียบไม่เพียงแต่กำจัดบาปเท่านั้น แต่ยังรวมถึงสิ่งกีดขวางและสิ่งเบี่ยงเบนความสนใจอื่น ๆ ด้วย ตัวอย่างเช่น ทุกวันนี้โซเชียลมีเดียอาจเป็นสิ่งที่ดี แต่ก็อาจดึงความสนใจเราออกจากทางพระเจ้าได้เช่นกัน

กุญแจสำคัญในการวิ่งแข่งให้ประสบความสำเร็จคือการ ‘จับตามองที่พระเยซู’ (ข้อ 2) จุดหมายที่นักกรีฑามองเป็นสิ่งสำคัญของความสำเร็จ ดังนั้นเหล่านักกีฬาของพระเจ้าจงจับตามองไปที่เส้นชัย

พระเยซู ‘ไม่เคยละสายตาไปจากที่ที่พระองค์กำลังมุ่งหน้าไป คือการเข้าเส้นชัยอย่างชื่นบานและอยู่กับพระเจ้า’ (ข้อ 2, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) วิธีเดียวที่จะทำ ‘ทางตรงสำหรับเท้าของคุณ’ (ข้อ 13, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก King James Version) คือการมองไปข้างหน้าที่เป้าหมายแทนที่จะมองลงไปที่เท้าของคุณ ให้เราจงจับตามองพระเยซูอยู่เสมอ คนที่มองแต่ตัวเอง ก็จะต้องกลับมองพระองค์ถึงสิบครั้งเลยทีเดียว

ในฐานะผู้ติดตามพระคริสต์ คุณอาจจะได้รับการต่อต้าน คำวิจารณ์ และการพูดต่อ ๆ เชิงลบมากมาย แต่ไม่มีอะไรเทียบได้กับสิ่งที่พระเยซูทรงอดทนกระทำเพื่อคุณ

พระเยซูทรงเป็น ‘ผู้สร้าง’ ( ‘ผู้นำ’, ‘ผู้ริเริ่ม’, ‘ผู้บุกเบิก’) และผู้ที่สมบูรณ์แบบ (‘ผู้ครบถ้วน’, ‘ผู้เสร็จสิ้น’) ของความเชื่อของเรา ทรงเป็นผู้ที่ซึ่งตั้งไว้สำหรับความยินดีต่อหน้าพระเจ้า ‘ทรงทนการตรึงกางเขน ถูกดูหมิ่นด้วยความละอาย และประทับที่เบื้องขวาพระที่นั่งของพระเจ้า’ (ข้อ 2, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก Amplified Bible โดยผู้แปล) กุญแจสู่ความอดทนของคุณคือ ‘จงคิดถึงพระองค์ผู้ทรงยอมทนต่อการคัดค้านของคนบาป เพื่อท่านจะไม่อ่อนล้าและไม่ท้อใจ’ (ข้อ 3)

การจดจ่ออยู่ที่พระเยซูจะช่วยให้คุณมองทุกอย่างในแง่ดี สำหรับพวกเราส่วนใหญ่ในการต่อสู้กับบาป (เช่นเดียวกับผู้อ่านจดหมายฉบับนี้) เรายังไม่ได้ถูกต่อต้านจนถึงขั้นต้องหลั่งเลือด (ข้อ 4)

การวิ่งแข่งที่ประสบความสำเร็จต้องได้รับการฝึกฝน การฝึกฝนเป็นงานหนัก มันต้องมีวินัย และอาจถึงกับเจ็บปวดทีเดียว

ตอนนี้ผู้เขียนใช้ภาพพ่อแม่ที่อบรมสั่งสอนลูก ซึ่งกระทำด้วยความรัก ‘พระเจ้าทรงตีสอนผู้ที่พระองค์ทรงรัก’ (ข้อ 6 ก) วินัยคือข้อพิสูจน์ว่า ‘พระเจ้าถือว่าคุณเป็นบุตรของพระองค์’ (ข้อ 6, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)

ผู้เขียนพูดต่อไปว่า ‘พระเจ้ากำลังตีสอนท่าน นั่นเป็นเหตุผลที่ท่านจะไม่ล้มลง ทรงปฏิบัติต่อท่านเหมือนลูกที่รัก ปัญหาที่ท่านเผชิญไม่ใช่การลงโทษ มันคือการฝึกฝน ซึ่งเป็นประสบการณ์ปกติของบุตร’ (ข้อ 7–8, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)

‘เราเคารพบิดามารดาของเราในการสั่งสอนที่จะทำให้เราไม่เสียคนฉันใด ทำไมจึงไม่ยอมรับการฝึกฝนของพระเจ้าเพื่อที่เราจะสามารถมีชีวิตอยู่ได้อย่างแท้จริง?’ (ข้อ 9, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) พระเจ้ากำลังฝึกคุณเพื่อประโยชน์ของคุณเองเพื่อที่คุณจะได้ ‘มีส่วนในความบริสุทธิ์ของพระองค์’ (ข้อ 10) มันอาจจะเจ็บปวดในตอนนั้น แต่แน่นอน มันได้กำไรอย่างงามใน ‘ภายหลัง’ ‘เพราะเป็นผู้ที่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างดี จะพบว่าตัวเองเป็นผู้ใหญ่ในความสัมพันธ์กับพระเจ้า’ (ข้อ 11, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)

จงวิ่งต่อไป ‘อย่านั่งทับมือตัวเอง ไม่เดินลากเท้าอีกต่อไป! เคลียร์เส้นทางสำหรับนักวิ่งระยะไกล เพื่อไม่ให้ใครสะดุดล้ม ดังนั้น จึงไม่มีใครตกหลุมและข้อเท้าแพลง ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน และวิ่งเพื่อสิ่งนั้น!’ (ข้อ 12–13, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)

คำอธิษฐาน

ข้าแต่พระเจ้า โปรดช่วยให้ข้าพระองค์อดทนความยากลำบากดั่งการฝึกวินัย แล้วให้ตระหนักว่า พระองค์ทรงปฏิบัติต่อข้าพระองค์เหมือนบุตรของพระองค์ (ข้อ 7) ขอให้ข้าพระองค์มีส่วนในความบริสุทธิ์ และเก็บเกี่ยวผลของความชอบธรรมและสันติสุข
พันธสัญญาเดิม

เอเสเคียล 26:1-27:36

เผยพระวจนะต่อสู้เมืองไทระ

 1อยู่มาในวันต้นเดือนของปีที่ 11 พระวจนะของพระยาห์เวห์มายังข้าพเจ้าว่า 2“บุตรมนุษย์เอ๋ย เพราะว่าไทระได้พูดเกี่ยวกับเยรูซาเล็มว่า

‘ดีแล้ว ประตูเมืองของประชาชนนั้นพังเสียแล้ว
 มันเปิดกว้างไว้รับข้า
มันร้างเปล่า
 ส่วนข้าจะบริบูรณ์ขึ้น’ 3เพราะฉะนั้น พระยาห์เวห์องค์เจ้านายตรัสว่า
นี่แน่ะ ไทระ เรามาต่อสู้เจ้า
 และจะนำประชาชาติมากมายมาต่อสู้เจ้า
 เหมือนทะเลนำคลื่นทั้งหลายของมันมา
4พวกเขาจะทำลายกำแพงของไทระ
 และพังหอคอยของมันเสีย
และเราจะขูดดินเสียจากมัน
 แล้วทำให้เป็นศิลาเปล่าๆ
5และมันจะกลายเป็นที่สำหรับตากอวน
 ซึ่งอยู่ท่ามกลางทะเล
เพราะเราได้ลั่นวาจาแล้ว พระยาห์เวห์องค์เจ้านายตรัสดังนี้แหละ
 และเมืองนั้นจะเป็นของปล้นของบรรดาประชาชาติ
6และคนในเมืองต่างๆ ของมันที่อยู่บนแผ่นดินใหญ่
 จะต้องถูกฆ่าเสียด้วยดาบ
 แล้วเขาทั้งหลายจะรู้ว่าเราคือยาห์เวห์
7“เพราะพระยาห์เวห์องค์เจ้านายตรัสดังนี้ว่า นี่แน่ะ เราจะนำเนบูคัดเนสซาร์กษัตริย์บาบิโลน ผู้เป็นจอมกษัตริย์จากทิศเหนือมายังไทระ พร้อมกับม้า รถรบ พลม้าและกำลังพลมากมาย
8คนในเมืองต่างๆของเจ้าบนแผ่นดินใหญ่นั้น
 เขาจะฆ่าเสียด้วยดาบ
เขาจะก่อกำแพงล้อมเจ้าไว้
 และก่อเชิงเทินต่อสู้เจ้า
 และจะยกโล่ขึ้นต่อสู้เจ้า
9เขาจะกระแทกกำแพงของเจ้าด้วยท่อนไม้ทะลวงกำแพง  และเขาจะเอาขวานของเขาพังหอคอยเจ้าลง
10ม้าของเขามีมากมาย
 จนฝุ่นม้าตลบคลุมเจ้าไว้
กำแพงเมืองของเจ้าจะสั่นสะเทือน
 เนื่องด้วยเสียงพลม้าและล้อรถรบ
เมื่อเขายกเข้าประตูเมืองของเจ้า
 จะเป็นเหมือนคนเดินเข้าเมืองที่แตกแล้ว
11เขาจะย่ำไปบนถนนทุกสายของเจ้า
 ด้วยกีบม้าทั้งหลายของเขา
เขาจะฆ่าประชาชนของเจ้าด้วยดาบ
 และเสาหานอันแข็งแรงของเจ้าจะล้มลงถึงดิน
12พวกเขาจะเอาทรัพย์สมบัติของเจ้าเป็นของริบ
 และเขาจะเอาสินค้าของเจ้าเป็นของปล้น
เขาทั้งหลายจะพังกำแพงของเจ้าลง
 และจะรื้อบ้านที่เจ้าชอบใจลง
ไม่ว่าหินหรือไม้หรือดินของเจ้านั้น
 เขาจะโยนทิ้งเสียกลางน้ำ
13เสียงเพลงของเจ้านั้น เราจะให้หยุด
 และเสียงพิณของเจ้าก็จะไม่ให้ได้ยินอีก
14เราจะทำเจ้าให้เป็นศิลาเปล่า
 เจ้าจะเป็นสถานที่สำหรับตากอวน
เจ้าจะไม่ถูกสร้างขึ้นใหม่อีก
 เพราะเราคือยาห์เวห์ได้ลั่นวาจาแล้ว”
 พระยาห์เวห์องค์เจ้านายตรัสดังนี้แหละ

 15“พระยาห์เวห์องค์เจ้านายตรัสดังนี้แก่ไทระ ว่า แผ่นดินชายทะเลจะสั่นสะเทือนด้วยเสียงที่เจ้าล้มลง และเสียงผู้บาดเจ็บร้องครวญคราง เมื่อการเข่นฆ่าเกิดขึ้นท่ามกลางเจ้าไม่ใช่หรือ? 16แล้วเจ้านายแห่งทะเลทั้งหมดจะก้าวลงมาจากบัลลังก์ แล้วจะเปลื้องเครื่องทรงออก และปลดเครื่องแต่งตัวที่มีลายปักออกเสีย และจะเอาความสั่นกลัวมาเป็นเครื่องทรง จะนั่งอยู่บนพื้นดินและสั่นอยู่ทุกขณะ และหวาดกลัวเพราะเจ้า 17คนทั้งหลายจะกล่าวบทคร่ำครวญในเรื่องเจ้า และกล่าวแก่เจ้าว่า
โอ เจ้าพินาศแล้ว เมืองที่มีพลเมืองมาจากทะเล
 เมืองที่มีชื่อเสียงเลื่องลือ
เป็นเมืองเข้มแข็งอยู่ที่ทะเล
 ทั้งเมืองนั้นและชาวเมืองนั้น
ได้สร้างความหวาดกลัว  แก่คนที่อาศัยอยู่ทั้งหมด
18บัดนี้ เกาะทั้งหลายก็สั่นสะเทือน
 ในวันที่เจ้าล้มลง
เออ บรรดาเกาะที่อยู่ในทะเล  ก็กลัวเพราะการที่เจ้าสิ้นไป’

 19“เพราะพระยาห์เวห์องค์เจ้านายตรัสดังนี้ว่า เมื่อเราทำให้เจ้าเป็นเมืองร้างเปล่า เหมือนอย่างเมืองที่ไม่มีคนอาศัย เมื่อเรานำที่ลึกมาท่วมเจ้า และน้ำมากหลายปกคลุมเจ้าไว้ 20แล้วเราจะผลักเจ้าลงไปพร้อมกับคนเหล่านั้นที่ลงไปยังหลุมลึก ไปยังคนในสมัยเก่าก่อน เราจะทำให้เจ้าอาศัยอยู่ในที่ต่ำสุดของแผ่นดินโลกเหมือนซากปรักหักพังสมัยดึกดำบรรพ์ ด้วยกันกับผู้ที่ลงไปยังหลุมลึก เพื่อเจ้าจะไม่ดำรงอยู่ต่อไป และเจ้าจะไม่ตั้งอยู่ในแผ่นดินของผู้มีชีวิต 21เราจะทำให้เจ้าจบลงอย่างน่ากลัว จะไม่มีเจ้าอีกแล้ว ถึงใครจะเสาะหาเจ้า เขาจะหาเจ้าไม่พบอีกต่อไปเป็นนิตย์” พระยาห์เวห์องค์เจ้านายตรัสดังนี้แหละ

เอเสเคียล 27

บทคร่ำครวญเรื่องไทระ

 1พระวจนะของพระยาห์เวห์มายังข้าพเจ้าว่า 2“และเจ้า บุตรมนุษย์เอ๋ย จงกล่าวบทคร่ำครวญเรื่องไทระ 3และจงกล่าวแก่ไทระ ซึ่งอยู่ที่ทางเข้าสู่ทะเล ซึ่งเป็นพ่อค้าของชนชาติทั้งหลายที่อยู่ตามแผ่นดินชายทะเล พระยาห์เวห์องค์เจ้านายตรัสดังนี้ว่า

โอ ไทระ เจ้าได้กล่าวว่า
 ‘ข้างดงามอย่างไม่มีที่ติ’
4พรมแดนของเจ้าอยู่ใจกลางทะเล
 ผู้ก่อสร้างได้ทำให้เจ้างามพร้อม
5ไม้กระดานทั้งหมดของเจ้า
 ทำด้วยไม้สนสามใบมาจากเสนีร์
เขาเอาไม้สนสีดาร์จากเลบานอน
 มาทำเป็นเสากระโดงให้เจ้า
6เอาไม้โอ๊กจากเมืองบาชาน
 มาทำเป็นไม้กรรเชียงของเจ้า
เขาทำดาดฟ้าของเจ้าด้วยไม้ช้องรำพัน
 ที่มาจากชายฝั่งเกาะไซปรัส
 แล้วฝังด้วยงาช้าง
7ส่วนใบเรือของเจ้านั้น
 ทำด้วยผ้าป่านปักเนื้อละเอียดจากอียิปต์
ทั้งยังใช้เป็นธงเรือของเจ้า
 ผ้าสีฟ้าสีม่วงจากเกาะเอลีชาห์
 เป็นหลังคาดาดฟ้าของเจ้า
8ชาวไซดอนและชาวอารวัด
 เป็นฝีพายของเจ้า
โอ ไทระ ช่างฝีมือของเจ้าที่อยู่ในเจ้า
 เขาเป็นกะลาสีเรือของเจ้า
9ผู้อาวุโสเมืองเกบาลและพวกช่างฝีมือก็อยู่ในเจ้า
 เป็นช่างซ่อมรอยรั่วให้เจ้า
เรือในทะเลทั้งหมดรวมทั้งพวกลูกเรือก็อยู่กับเจ้า
 เพื่อแลกเปลี่ยนสินค้ากับเจ้า
10ชาวเปอร์เซีย ชาวลูด และชาวพูต
 ก็อยู่ในกองทัพของเจ้า
เป็นนักรบของเจ้า
 พวกเขาแขวนโล่และหมวกเหล็กอยู่ในเจ้า
 เขาทำให้เจ้ารุ่งโรจน์
11ชาวอารวัดและชาวเฮเลค
 อยู่บนกำแพงโดยรอบเจ้า
ชาวกามัดอยู่ในหอคอยของเจ้า
 พวกเขาแขวนโล่ไว้ตามกำแพงโดยรอบเจ้า  เขาทั้งหลายทำให้เจ้างามพร้อม
 12“ทารชิชค้าขายกับเจ้า เพราะว่าทรัพย์สินทั้งหมดของเจ้ามีมากมาย เขาเอาเงิน เหล็ก ดีบุก และตะกั่วมาแลกเปลี่ยนกับสินค้าของเจ้า 13กรีซ ทูบัล และเมเชค เป็นคู่ค้าของเจ้า เขาเอาคนและภาชนะทองสัมฤทธิ์มาแลกกับสินค้าของเจ้า 14เมืองเบธโทการมาห์ เอาม้า ม้าศึก และล่อมาแลกกับสินค้าของเจ้า 15ชาวเดดานเป็นคู่ค้าของเจ้า แผ่นดินชายทะเลจำนวนมากเป็นตลาดที่อยู่ในอำนาจของเจ้า พวกเขานำงาช้างและไม้มะเกลือมาเป็นค่าสินค้า 16ซีเรียเป็นคู่ค้าของเจ้า เพราะเจ้ามีผลผลิตอันอุดม เขาเอาเทอร์คอยซ์ ผ้าสีม่วง ผ้าป่านปักเนื้อละเอียด กัลปังหา และทับทิมมาแลกกับสินค้าของเจ้า 17ยูดาห์และแผ่นดินอิสราเอลก็เป็นคู่ค้าของเจ้า พวกเขาเอาข้าวสาลีจากเมืองมินนิท ขนมพันนัก น้ำผึ้ง น้ำมัน และพิมเสน มาแลกกับสินค้าของเจ้า 18ดามัสกัสค้าขายกับเจ้า เพราะผลผลิตมากมายของเจ้า จากทรัพย์สินทั้งหมดที่มีมากมายนั้น คือเหล้าองุ่นจากเฮลโบน และขนแกะขาว 19วาดานและกรีซจากอุซาลมาแลกเปลี่ยนสินค้ากับเจ้า เขาเอาเหล็กแปรรูป การบูร ตะไคร้มาแลกกับสินค้าของเจ้า 20เมืองเดดานเป็นคู่ค้าของเจ้าในด้านผ้าอานสำหรับขับขี่ 21เมืองอาระเบียและเจ้านายทั้งหลายของเมืองเคดาร์ เป็นผู้ค้าขายใต้อำนาจของเจ้าในด้านลูกแกะ แกะผู้ แพะ เขาค้าขายสิ่งเหล่านี้กับเจ้า 22พ่อค้าทั้งหลายของเมืองเชบา และเมืองราอามาห์ก็เป็นคู่ค้าของเจ้า พวกเขาเอาเครื่องเทศอย่างดีทุกชนิดและอัญมณีทุกประเภท รวมทั้งทองคำมาแลกกับสินค้าของเจ้า 23เมืองฮาราน คานเนห์และเอเดน และพ่อค้าทั้งหมดของเมืองเชบา อัสชูร และคิลมาด ก็เป็นคู่ค้าของเจ้า 24เขาทั้งหลายค้าขายกับเจ้าในตลาดของเจ้าด้วยเสื้อผ้าที่งดงาม เสื้อคลุมผ้าสีฟ้า และเสื้อปักลวดลาย ทั้งพรมที่ทำด้วยด้ายสีต่างๆ มัดไว้แน่นด้วยเชือก 25เรือทั้งหลายของเมืองทารชิชเดินทางไปค้าขายให้กับเจ้า

“ดังนั้น เจ้าจึงบรรทุกจนเต็มและหนักมากๆ  ในใจกลางของทะเล
26พวกฝีพายของเจ้านำเจ้าออกไป
 ยังทะเลอันกว้างใหญ่
ลมตะวันออกทำให้เจ้าอับปาง
 ที่ใจกลางของทะเล
27ทรัพย์สินของเจ้า ของขายของเจ้า และสินค้าของเจ้า
 ลูกเรือของเจ้า และกะลาสีของเจ้า
ช่างซ่อมรอยรั่วของเจ้า คนขายสินค้าของเจ้า
 นักรบทั้งหมดของเจ้าผู้อยู่ในเจ้า
พร้อมกับพลพรรคทั้งหมดของเจ้า
 ที่อยู่ท่ามกลางเจ้า
ก็จมลงยังใจกลางทะเล
 ในวันที่เจ้าล่มจม
28ดินแดนชนบทก็สั่นสะท้าน
 เมื่อได้ยินเสียงร่ำร้องของกะลาสีของเจ้า 29พวกที่ถือกรรเชียงทุกคน
 ต่างขึ้นมาจากเรือของเขา
พวกลูกเรือและกะลาสี
 ก็มายืนอยู่บนฝั่งทั้งหมด
30และร่ำร้องเพราะเจ้า
 และร้องไห้ด้วยความขมขื่น
พวกเขาโปรยฝุ่นขึ้นศีรษะเขา
 และกลิ้งเกลือกอยู่บนกองขี้เถ้า
31พวกเขาโกนศีรษะเพื่อเจ้า
 และเอาผ้ากระสอบคาดเอวไว้
เขาร้องไห้เพราะเจ้าด้วยจิตใจที่ขมขื่น
 และคร่ำครวญด้วยความขมขื่น
32ในการร่ำไห้นั้น เขากล่าวบทคร่ำครวญเพื่อเจ้า
 และร้องคร่ำครวญเพื่อเจ้าว่า
‘มีผู้ใดเหมือนเมืองไทระ
 ที่เงียบเหงาอยู่กลางทะเล?
33เมื่อสินค้าของเจ้าขึ้นจากเรือ
 ก็ทำให้ประชาชนมากมายพอใจ
เจ้าได้ทำให้บรรดากษัตริย์ของโลกมั่งคั่ง
 ด้วยสมบัติและสินค้ามากมายของเจ้า
34บัดนี้ เจ้าอับปางด้วยทะเล
 ในห้วงน้ำที่ลึกนั้น
สินค้าของเจ้าและคนทั้งหมดของเจ้า
 ได้จมลงพร้อมกับเจ้า
35ชาวแผ่นดินชายทะเลทั้งหมด
 ต่างตกตะลึงเพราะเจ้า
บรรดากษัตริย์ของเมืองเหล่านั้นก็กลัวยิ่งนัก
 ใบหน้าล้วนซีดเซียว
36พ่อค้าท่ามกลางชนชาติทั้งหลายโห่เจ้า
 เจ้าสูญสิ้นลงอย่างน่าครั่นคร้าม
 และจะไม่ดำรงอยู่อีกต่อไปเป็นนิตย์”

อรรถาธิบาย

ทิ้งทุกสิ่งที่ทำให้คุณช้าลง

สังคมตะวันตกกำลังตกอยู่ในอันตรายที่จะไปในทิศทางเดียวกับเมืองไทระ เมืองนี้ทั้งมั่งคั่งและมีอำนาจ เป็นประเทศที่ประสบความสำเร็จทางธุรกิจและการค้าขายทั่วโลก นี่เป็นความรู้สึกที่ร่วมสมัย ดังที่ เคน คอสต้า อธิบายไว้ในหนังสือ ชื่อ God at Work (พระเจ้าในที่ทำงาน) ของเขาว่า ‘เมืองไทระเป็นเมืองแห่งเศษฐกิจและการค้าของภูมิภาคนี้ หากเปรียบเมืองไทระ อาจเป็นลอนดอน หรือวอลล์สตรีท หรือโตเกียวก็เป็นได้’

เมืองไทระ เป็นตัวอย่างของสังคมที่ตั้งขึ้นเพื่อเติมเต็มความต้องการของตนเองโดยปราศจากพระเจ้า เมืองไทระเป็นเมืองที่มีเสน่ห์ (27:3) และนั่นคือสิ่งที่ทำให้เย้ายวนใจ ทั้งเรื่องเศษฐกิจ การสร้างอาณาจักร และความหรูหราเป็นสิ่งดึงดูดใจยิ่งนัก

เราควรที่จะรักผู้คนและใช้สิ่งของ แต่เราผิดพลาดเมื่อเรากลับเริ่มรักสิ่งของและใช้ผู้คน การยึดติดกับคุณค่าทางวัตถุ หรือทรัพย์สิน เป็นอันตรายอย่างยิ่งในโลกสมัยใหม่ แต่ก็ไม่มีอะไรใหม่ ไทระเป็นเมืองที่จบลงด้วยความลุ่มหลงในทรัพท์สิ่งของแต่กลับใช้ชีวิตมนุษย์ แม้กระทั่งการค้าทาส (ข้อ 14)

การจะวิ่งแข่งให้ไปถึงเส้นชัยเราควรต้อง ‘ละทิ้งทุกอย่างที่ถ่วงอยู่ และบาปเกาะแน่น’ (ฮีบรู 12:1)

บาปของเมืองไทระคือความจองหอง หลงระเริงและพึ่งพาแต่ตัวเอง (อิสยาห์ 23; เอเสเคียล 27:3) มีการทรยศหักหลังและการค้าทาส (อาโมส 1:9; เอเสเคียล 27:13) เอเสเคียลเตือนว่าการพิพากษาของพระเจ้าจะตกอยู่กับชนชาตินี้ (เอเสเคียล 26:1–6) ความทะนงตัวของเมืองนั้นนำพามาซึ่งหายนะ พวกเขาอวดตัวว่า ‘ข้างดงามอย่างไม่มีที่ติ’ (27:3)

แต่พระเจ้าเตือนว่า ‘ทุกสิ่งจะจมลง คือบรรดาสินค้าและผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ มากมาย กะลาสีและลูกเรือ ช่างไม้และทหารของเรือ จมลงสู่ก้นทะเล ซากเรืออับปางทั้งหมด’ (ข้อ 27, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)

คำพยากรณ์นี้สำเร็จบางส่วนในปีที่ 586–573 ก่อนคริสตกาล เมื่อเนบูคัดเนสซาร์ กษัตริย์แห่งบาบิโลนล้อมเมืองไทระเป็นเวลาสิบสามปี เนบูคัดเนสซาร์ไม่ได้ทำลายเมืองไทระทั้งหมด แต่อเล็กซานเดอร์มหาราชทำให้ข้อนั้นสำเร็จ 332 ปีก่อนคริสตกาล

การให้ความสนใจการค้าขาย เงินทอง และสินค้าอุปโภคบริโภคดูเหมือนจะคล้ายกันอย่างน่าขนลุกกับบางแง่มุมของลัทธิบริโภคนิยมยุคใหม่ (โดยเฉพาะในฤดูกาลนี้ที่กำลังเข้าสู่คริสต์มาส) เราต้องจำไว้ว่าไม่ว่าสิ่งเหล่านี้จะดูน่าดึงดูดเพียงใด แต่มันเป็นเพียงสิ่งของชั่วคราวและสามารถหายวับไปกับตา

อย่าเข้าไปพัวพันกับความบาปเหล่านั้น แต่ให้เราจับจ้องไปที่พระเยซูผู้สร้างและทำให้ความเชื่อของคุณสมบูรณ์ยิ่งขึ้น (ฮีบรู 12:1–2) จงทิ้งทุกอย่างที่ถ่วงคุณอยู่รวมถึงบาปที่เกาะแน่น จงวิ่งด้วยความอุตสาหะในการแข่งขันที่กำหนดไว้สำหรับคุณ

คำอธิษฐาน

ข้าแต่พระเจ้า โปรดช่วยข้าพระองค์ให้วิ่งด้วยความอุตสาหะในการแข่งขันที่อยู่ข้างหน้าข้าพระองค์ ให้ข้าพระองค์จับจ้องไปที่พระเยซู และไม่เหนื่อยล้า หรือท้อใจ

เพิ่มเติมโดยพิพพา

สดุดี 125:2

‘ภูเขาอยู่รอบเยรูซาเล็มฉันใด พระยาห์เวห์ทรงอยู่รอบประชากรของพระองค์ ตั้งแต่บัดนี้สืบไปเป็นนิตย์ฉันนั้น’

เป็นภาพที่ทรงพลังของการปกป้อง พระกำลังและการอดทนของพระเจ้าที่มีต่อเรา

ข้อพระคำประจำวัน

ฮีบรู 12:1–2

‘…ขอให้เรายังคงวิ่งแข่งด้วยความทรหดอดทนในการแข่งขันที่อยู่ข้างหน้าเรา โดยจับตามองที่พระเยซู…’

reader

App

Download the Bible in One Year app for iOS or Android devices and read along each day.

reader

อีเมล

Sign up now to receive Bible in One Year in your inbox each morning. You’ll get one email each day.

reader

เว็บไซต์

Subscribe and listen to Bible in One Year delivered to your favourite podcast app everyday.

การอ้างอิง

ข้อพระคัมภีร์อ้างอิงมาจากพระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 2011 สงวนสิทธิ์โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย (ยกเว้นข้อที่ระบุว่าเป็นฉบับอื่น)

เว็บไซต์นี้จัดเก็บข้อมูล เช่น คุกกี้ เพื่อเปิดใช้งานฟังก์ชั่นและการวิเคราะห์ที่จำเป็นเท่านั้น ดูเพิ่มเติม