วัน 221

ความบริสุทธิ์เป็นสิ่งเดียวที่นำไปสู่ความสุข

ปัญญานิพนธ์ สดุดี 93:1-5
พันธสัญญาใหม่ 1 โครินธ์ 5:1-13
พันธสัญญาเดิม 1 พงศาวดาร 28:1-29:30

เกริ่นนำ

ในนิตยสารต่าง ๆ และในจอโทรทัศน์ของเราเต็มไปด้วยเรื่องราวของคนรวย คนสวย และคนแข็งแกร่ง วัฒนธรรมของเราวางสิ่งเหล่านี้เป็นฐาน และพวกเราหลายคนปรารถนาที่จะบรรลุสิ่งเหล่านี้ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ไม่มีอะไรผิดปกติ แต่แน่นอนว่าไม่ได้นำไปสู่ความสุขเสมอไป

นักปราชญ์ชาวฝรั่งเศส แบลส ปาสกาล (Blaise Pascal) กล่าวถึงความยิ่งใหญ่สามกลุ่ม ได้แก่ ความร่ำรวย ความงาม และความแข็งแกร่ง จัดอยู่ในกลุ่มแรกที่เรียกว่า ‘ความยิ่งใหญ่ทางกายภาพ’ ที่ผิวเผิน

นอกจากนี้ สิ่งที่เหนือกว่าความยิ่งใหญ่กลุ่มที่สองคือความยิ่งใหญ่ของความเป็นอัจฉริยะทางวิทยาศาสตร์ และศิลปะ ความยิ่งใหญ่ของศิลปะของไมเคิลแองเจโล (Michelangelo) หรือดนตรีของบาค (Bach) หรือความเฉลียวฉลาดของอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ (Albert Einstein) สิ่งเหล่านี้ยืนอยู่เหนือความยิ่งใหญ่ทางกายภาพที่ผิวเผิน

อย่างไรก็ตาม ปาสกาลมีความยิ่งใหญ่อยู่ในกลุ่มที่สาม คือความบริสุทธิ์ (และมีความแตกต่างเชิงคุณภาพอย่างมากระหว่างกลุ่มที่สองและกลุ่มที่สาม) ความจริงที่ว่าบุคคลจะบริสุทธิ์ได้ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าคนนั้นจะแข็งแกร่งหรืออ่อนแอ รวยหรือจน ฉลาดมากหรือไม่รู้หนังสือ ไม่ได้ทำให้มีความบริสุทธิ์เพิ่มขึ้นหรือลดลงเพราะความยิ่งใหญ่ของบุคคลนั้นมีระดับที่มีความแตกต่างกัน สิ่งนี้เปิดกว้างให้เราทุกคนบรรลุความยิ่งใหญ่ที่แท้จริงนี้ได้ในความบริสุทธิ์

คำว่า ‘ศักดิ์สิทธิ์’ (hallowed, holiest, holiness) ปรากฎมากกว่า 500 ครั้งในพระคริสตธรรมคัมภีร์ พระเจ้าเป็นองค์บริสุทธิ์ พระองค์ประทานพระวิญญาณบริสุทธิ์ของพระองค์เพื่อชำระคุณให้บริสุทธิ์ และคุณได้รับการทรงเรียกให้มีส่วนในความบริสุทธิ์ของพระองค์

คำว่า ‘ธรรมิกชน’ หมายถึง ‘ผู้บริสุทธิ์’ ในพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาใหม่ใช้กับคริสเตียนทุกคน คุณ ‘ได้รับการทรงเรียกให้เป็นคนบริสุทธิ์’ (1 โครินธ์ 1:2) ความบริสุทธิ์เป็นของขวัญที่คุณได้รับเมื่อคุณวางใจในพระเยซู คุณจะได้รับความชอบธรรมของพระองค์ และของประทานแห่งพระวิญญาณบริสุทธิ์ แสวงหาการดำเนินชีวิตที่บริสุทธิ์ด้วยการขอบพระคุณสำหรับของประทานจากพระเจ้า ผ่านการเป็นเหมือนพระเยซูในฤทธิ์อำนาจของพระวิญญาณบริสุทธิ์ ในที่สุด ความบริสุทธิ์เท่านั้นที่นำไปสู่ความสุข

ปัญญานิพนธ์

สดุดี 93:1-5

ความยิ่งใหญ่ของพระเจ้าในการครอบครอง

1พระยาห์เวห์ทรงครอบครอง พระองค์ทรงสวมความยิ่งใหญ่
 พระยาห์เวห์ทรงสวมพระกำลัง ทรงคาดพระองค์เอง
พิภพได้สถาปนาไว้อย่างมั่นคง
 มันจะไม่สั่นคลอน
2พระที่นั่งของพระองค์ได้สถาปนาไว้แล้วตั้งแต่กาลดึกดำบรรพ์
 ตั้งแต่นิรันดร์กาล พระองค์ทรงดำรงอยู่
3ข้าแต่พระยาห์เวห์ กระแสน้ำได้คะนอง
 กระแสน้ำได้คะนองเสียง
 กระแสน้ำคะนองเสียงกึกก้อง
4พระยาห์เวห์ผู้ทรงอยู่ในที่สูงนั้นทรงมหิทธิฤทธิ์
 ยิ่งกว่าเสียงของน้ำมากหลาย
 ยิ่งกว่าคลื่นยักษ์ในทะเล
5พระโอวาทของพระองค์มั่นคงยิ่งนัก
 ข้าแต่พระยาห์เวห์ ความบริสุทธิ์สมควรแก่พระนิเวศของพระองค์เป็นนิตย์

อรรถาธิบาย

พระเจ้าผู้บริสุทธิ์

พระเจ้าเป็นผู้สร้างสรรพสิ่งทั้งปวง แต่พระองค์ยังถูกแยกออกจากโลกที่พระองค์ทรงสร้างไว้ พระองค์ทรงยิ่งใหญ่และสูงส่งยิ่งกว่าสิ่งที่ทรงสร้างทั้งปวง แม้แต่เสียงฟ้าร้องของกระแสน้ำมากหลาย (ข้อ 4)

จุดสูงสุดของการสรรเสริญของผู้แต่งเพลงสดุดีนั้น เน้นถึงความบริสุทธิ์ของพระเจ้า เขาสรุปว่า ‘พระโอวาทของพระองค์มั่นคงยิ่งนัก ข้าแต่พระยาห์เวห์ ความบริสุทธิ์สมควรแก่พระนิเวศของพระองค์เป็นนิตย์’ (ข้อ 5) พระคัมภีร์ฉบับ The New English Bible แปลสิ่งนี้ว่า ‘ความบริสุทธิ์คือความงามของพระนิเวศ(ของพระองค์)...’ พระนิเวศเป็นอาคารที่สวยงามและน่าประทับใจ แต่ผู้แต่งเพลงสดุดีตระหนักดีว่าความบริสุทธิ์ของพระเจ้าคือความงามและพระสิริที่แท้จริงภายในของพระวิหาร

คำอธิษฐาน

ข้าแต่พระเจ้า เรานมัสการพระองค์ในความงามอันบริสุทธิ์ของพระองค์ พระองค์ผู้เดียวที่ทรงบริสุทธิ์ ‘บริสุทธิ์ บริสุทธิ์ บริสุทธิ์ พระยาห์เวห์จอมทัพ’ (อิสยาห์ 6:3)
พันธสัญญาใหม่

1 โครินธ์ 5:1-13

ตัดสินลงโทษการล่วงประเวณี

 1มีเรื่องที่ได้ยินมากับหูภาษากรีกแปลตรงตัวว่า ได้ยินมาจริงๆว่า ในพวกท่านมีการผิดประเวณี และแม้ในพวกต่างชาติก็ไม่มีการผิดประเวณีเช่นนี้ คือคนหนึ่งได้เอาภรรยาของบิดามาเป็นเมีย 2และพวกท่านยังหยิ่งผยอง ท่านควรจะโศกเศร้าและให้คนที่ทำเช่นนี้ถูกขับออกไปจากพวกท่านไม่ใช่หรือ?
 3แม้ตัวข้าพเจ้าไม่ได้อยู่กับพวกท่าน แต่ใจของข้าพเจ้าก็อยู่และเสมือนว่าข้าพเจ้าอยู่ด้วย ข้าพเจ้าได้ตัดสินลงโทษคนที่ทำผิดเช่นนี้ 4ในพระนามของพระเยซูองค์พระผู้เป็นเจ้า [ของเรา] เมื่อท่านทั้งหลายประชุมกันและใจของข้าพเจ้าร่วมอยู่ด้วย พร้อมทั้งฤทธานุภาพของพระเยซูองค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา 5พวกท่านจงมอบคนเช่นนี้ให้ซาตานทำลายเนื้อหนัง เพื่อจิตวิญญาณของเขาจะได้รับความรอด ในวันขององค์พระผู้เป็นเจ้า
 6การที่พวกท่านโอ้อวดนั้นไม่ใช่สิ่งดีเลย ท่านรู้แล้วไม่ใช่หรือว่าเชื้อขนมเพียงนิดเดียว ย่อมทำให้แป้งดิบฟูขึ้นทั้งก้อน? 7จงชำระเชื้อหมายถึง เชื้อขนมเก่าเสีย เพื่อท่านทั้งหลายจะได้เป็นแป้งดิบก้อนใหม่ ดังเช่นที่ท่านเป็นพวกไร้เชื้อ เพราะพระคริสต์ผู้ทรงเป็นปัสกาของเราถูกถวายบูชาแล้ว 8เพราะฉะนั้นให้เราถือปัสกานั้น ไม่ใช่ด้วยเชื้อเก่าซึ่งเป็นเชื้อของความชั่วและความเลว แต่ด้วยขนมปังที่ไม่มีเชื้อ คือความจริงใจและสัจจะ
 9ข้าพเจ้าเขียนจดหมายบอกพวกท่านแล้วว่า อย่าคบพวกที่ล่วงประเวณี 10แต่ไม่ใช่ห้ามคบทุกคนในโลกนี้ที่เป็นคนล่วงประเวณี คนโลภ คนฉ้อโกงหรือคนไหว้รูปเคารพ ถ้าห้ามอย่างนั้นพวกท่านก็ต้องออกไปจากโลกนี้ 11แต่บัดนี้ข้าพเจ้ากำลังเขียนบอกพวกท่านว่า จงอย่าคบคนที่ได้ชื่อว่าเป็นพี่น้องแล้ว แต่ยังล่วงประเวณี โลภ ไหว้รูปเคารพ ชอบกล่าวร้าย เป็นคนขี้เมา และเป็นคนฉ้อโกง แม้จะกินด้วยก็อย่าเลย 12ไม่ใช่หน้าที่ของข้าพเจ้าที่จะไปพิพากษาคนภายนอก แต่ท่านจะต้องพิพากษาคนภายในคณะไม่ใช่หรือ? 13ส่วนคนภายนอกนั้นพระเจ้าจะทรงพิพากษา จงกำจัดคนชั่วออกจากพวกท่านเสียเถิด

อรรถาธิบาย

คริสตจักรที่บริสุทธิ์

มีข้อผิดพลาดหลายประการในการพูดถึงความบริสุทธิ์ในคริสตจักรในปัจจุบัน ประการแรก มีอันตรายจากทัศนคติที่ ‘คิดว่าตัวเองดีกว่าคนอื่น’ จงหลีกเลี่ยงความคิดที่ถือเอาว่าตนเองชอบธรรมกว่าผู้อื่น ประการที่สอง มีอันตรายของอุดมคตินิยม พระเจ้าเท่านั้นที่บริสุทธิ์อย่างสมบูรณ์ จงมุ่งมั่นสู่ความเป็นเลิศ แต่คุณจะไม่บรรลุความสมบูรณ์แบบในชีวิตนี้

ความบริสุทธิ์ของเราคือการตอบสนองที่เหมาะสมต่อความบริสุทธิ์ของพระเจ้า และสิ่งนี้เกิดขึ้นได้จากของประทานและพระคุณของพระเจ้าเท่านั้น ความบริสุทธิ์ในคริสตจักรมาจากของประทานในพระวิญญาณบริสุทธิ์ (1 โครินธ์ 3:16–17)

เนื่องจากคริสตจักรมีจุดมุ่งหมายให้บริสุทธิ์ เปาโลจึงตกตะลึงกับสิ่งที่เกิดขึ้นในเมืองโครินธ์ มีการผิดศีลธรรมทางเพศอย่างร้ายแรงที่ไม่สามารถยอมรับได้ แม้อยู่นอกคริสตจักร (5:1)

เปาโลเขียนว่า ‘และพวกท่านอยู่เหนือสิ่งเหล่านี้จนไม่รบกวนจิตใจของพวกท่านเลยหรือ สิ่งนี้ไม่ควรทำให้พวกท่านเสียใจหรือ? มันไม่ควรทำให้ท่านคุกเข่าร้องไห้เสียใจหรือ? บุคคลนี้และความประพฤติของเขาไม่ควรเผชิญและรับมือด้วยหรือ?’ (ข้อ 2, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)

จำเป็นต้องมีการลงวินัย เพื่อให้คริสตจักรบริสุทธิ์ มีบาปร้ายแรงบางอย่างที่ควรส่งผลให้เกิดการกีดกันออกจากคริสตจักร (ข้อ 13) บาปเหล่านี้เป็นบาปที่ชัดเจนมาก ตัวอย่างเช่น ในกรณีของการผิดศีลธรรมทางเพศ เป็นการผิดศีลธรรมอย่างร้ายแรง (ระหว่างผู้ชายกับแม่เลี้ยงของเขา ข้อ 1)

เปาโลเขียนเกี่ยวกับความจำเป็นในการตีสอนเกี่ยวกับคนที่ ‘โลภ ไหว้รูปเคารพ หรือคนชอบกล่าวร้าย คนขี้เมา หรือคนฉ้อโกง’ (ข้อ 10–11) ‘ความโลภ’ ในที่นี้คงมีความโลภถึงขั้นชิงทรัพย์หรือฉ้อโกง บาปอื่น ๆ เช่น การไหว้รูปเคารพและการกล่าวร้าย (การล่วงละเมิดทางวาจา คือใส่ร้ายและสบประมาทผู้คน)

‘คนขี้เมา’ หมายถึงคนที่ตั้งใจเมาและทำอย่างนี้สม่ำเสมอ ประเด็นของเปาโล คือ ไม่ได้เน้นผู้ที่พยายามเอาชนะโรคพิษสุราเรื้อรัง (หรือการเสพติดอื่น ๆ) ซึ่งคริสตจักรควรเป็นสถานที่แห่งการเยียวยาและไม่ถูกปฏิเสธ คำนี้เกี่ยวข้องกับความชั่วร้ายอื่น ๆ เช่น ความรุนแรงและเรื่องเพศที่ไม่เหมาะสม

เปาโลแสดงให้เห็นชัดเจนว่าเขาไม่ได้พูดถึงผู้คนนอกคริสตจักร (ข้อ 10) เราต้องไม่แยกตัวออกจาก ‘คนบาป’ ที่บาปหนาที่สุด พระเยซูทรงเป็น ‘มิตรกับคนบาป’ ทรงสมาคมกับทุกคน คนเหล่านี้คือคนที่เราควรเข้าหาด้วย

ตรงกันข้าม เปาโลกำลังบอกว่าถ้าผู้คนยังคงทำบาปที่ร้ายแรง และเห็นได้ชัดเจนเหล่านี้ต่อไปในลักษณะที่ไม่สำนึกผิด พวกเขาไม่มีที่ยืนในคริสตจักร เว้นแต่เราจะจัดการกับปัญหานี้ ‘เชื้อขนมเพียงนิดเดียว ย่อมทำให้แป้งดิบฟูขึ้นทั้งก้อน?’ (ข้อ 6) ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อทั้งคริสตจักร

ดังนั้นระเบียบวินัยของคริสตจักรจึงเป็นสิ่งดีในแง่ที่ว่าช่วยให้บุคคลเผชิญหน้ากับความประพฤติของตนเอง และจัดการกับมันได้ (ข้อ 5) นอกจากนี้ยังเป็นผลดีต่อคริสตจักรโดยรวมในการหยุดยั้งความชั่วร้ายที่แพร่กระจายไปทั่วชุมชนคริสตจักร (ข้อ 6)

ขอบพระคุณพระเจ้าที่ การให้อภัยเป็นไปได้ ‘เพราะพระคริสต์ผู้ทรงเป็นปัสกาของเราถูกถวายบูชาแล้ว’ (ข้อ 7) พวกเราไม่มีใครบริสุทธิ์ เว้นแต่โดยของประทานจากพระเจ้า พระเยซูสิ้นพระชนม์ในฐานะลูกแกะปัสกา เพื่อที่เราจะได้รับการอภัยและชำระ ความบริสุทธิ์เป็นของขวัญจากพระเจ้า เมื่อเราล้มเหลว เราต้องกลับมาที่กางเขนโดยไม่ชักช้า และรับเอาการทรงอภัย

คำอธิษฐาน

ข้าแต่พระเจ้า ในวันนี้ข้าพระองค์เข้าหาพระองค์อีกครั้งเพื่อขอการอภัยและการชำระของพระองค์ โปรดช่วยข้าพระองค์ให้มีชีวิตที่บริสุทธิ์ ขอให้คริสตจักรของพระองค์เป็นสถานที่บริสุทธิ์
พันธสัญญาเดิม

1 พงศาวดาร 28:1-29:30

ซาโลมอนรับพระบัญชาการสร้างพระวิหาร

 1ดาวิดทรงเรียกประชุมบรรดาข้าราชการทั้งสิ้นของอิสราเอลที่เยรูซาเล็มคือผู้นำของเผ่า ผู้บัญชาการกองเวรที่รับราชการ นายพัน นายร้อย และเจ้าหน้าที่ทั้งสิ้นผู้ดูแลทรัพย์สมบัติ และฝูงปศุสัตว์ของพระราชา และบรรดาโอรสของพระองค์ พร้อมกับข้าราชสำนัก นักรบ และนักรบกล้าหาญทั้งสิ้น 2แล้วกษัตริย์ดาวิดทรงลุกขึ้นประทับยืน และตรัสว่า “พี่น้อง และประชาชนของข้าพเจ้า ขอจงฟังข้าพเจ้า ข้าพเจ้ามีใจประสงค์ที่จะสร้างพระนิเวศ อันเป็นที่พักของหีบพันธสัญญาของพระยาห์เวห์คือที่รองพระบาทของพระเจ้าของเรา และข้าพเจ้าได้จัดเตรียมการก่อสร้างไว้แล้ว 3แต่พระเจ้าตรัสกับข้าพเจ้าว่า ‘เจ้าอย่าสร้างนิเวศเพื่อนามของเราเลย เพราะเจ้าเป็นนักรบและฆ่าคนมาก’ 4ถึงกระนั้นก็ดีพระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งอิสราเอล ทรงเลือกข้าพเจ้าจากตระกูลทั้งหมดของข้าพเจ้า ให้เป็นพระราชาเหนืออิสราเอลตลอดไป เพราะพระองค์ทรงเลือกยูดาห์ให้เป็นประมุข และในวงศ์ของยูดาห์ ตระกูลของข้าพเจ้า และในบรรดาบุตรชายของบิดาข้าพเจ้า พระองค์พอพระทัยที่จะให้ข้าพเจ้าเป็นพระราชาเหนืออิสราเอลทั้งปวง 5และจากบุตรชายทั้งสิ้นของข้าพเจ้า (เพราะพระยาห์เวห์ประทานบุตรชายหลายคนแก่ข้าพเจ้า) พระองค์ทรงเลือกซาโลมอนบุตรข้าพเจ้า ให้นั่งบัลลังก์แห่งราชอาณาจักรของพระยาห์เวห์เหนืออิสราเอล 6พระองค์ตรัสกับข้าพเจ้าว่า ‘ซาโลมอนบุตรของเจ้า จะสร้างนิเวศของเราและลานนิเวศของเรา เพราะเราได้เลือกเขาให้เป็นบุตรของเรา และเราจะเป็นบิดาของเขา 7เราจะสถาปนาราชอาณาจักรของเขาให้อยู่เป็นนิตย์ ถ้าเขาจะแน่วแน่ที่จะทำตามบรรดาบัญญัติและกฎหมายของเรา อย่างที่เขาทำอยู่ในวันนี้ 8เพราะฉะนั้นต่อหน้าคนอิสราเอลทั้งปวง อันเป็นชุมนุมชนของพระยาห์เวห์ และต่อพระกรรณของพระเจ้าของเรา จงรักษาและแสวงหาพระบัญญัติทั้งสิ้นของพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้าทั้งหลาย เพื่อพวกเจ้าจะได้กรรมสิทธิ์แผ่นดินอันดีนี้ และให้เป็นมรดกของลูกหลานผู้มาภายหลังเจ้า ตลอดนิรันดร์
 9“ส่วนเจ้า ซาโลมอนลูกของเรา เจ้าจงรู้จักพระเจ้าของพ่อ และจงปรนนิบัติพระองค์ด้วยความเต็มใจและด้วยใจยินดี เพราะพระยาห์เวห์ทรงตรวจจิตใจทั้งปวง และทรงเข้าใจในแผนงาน และความคิดทั้งปวง ถ้าเจ้าแสวงหาพระองค์ เจ้าจะพบพระองค์ แต่ถ้าเจ้าทอดทิ้งพระองค์ พระองค์จะทรงทิ้งเจ้าตลอดไป 10บัดนี้จงคิดให้ดี เพราะว่าพระยาห์เวห์ทรงเลือกเจ้าให้สร้างพระนิเวศเพื่อเป็นสถานที่บริสุทธิ์ จงเข้มแข็งและทำงานนี้”
 11แล้วดาวิดทรงมอบให้กับซาโลมอนโอรสของพระองค์ดังนี้ แผนผังมุขของพระวิหาร และเรือนต่างๆ ของพระวิหารนั้น คลัง ห้องชั้นบน ห้องชั้นใน และห้องสำหรับพระที่นั่งกรุณา 12และแผนผังทั้งหมดซึ่งพระองค์มีอยู่ในพระทัยหรือ โดยพระวิญญาณ ในเรื่องลานของพระนิเวศของพระยาห์เวห์ ห้องระเบียงรอบทั้งหมด คลังสำหรับพระนิเวศของพระเจ้า และคลังสำหรับบรรดาของถวาย 13และผังสำหรับบรรดาเวรของปุโรหิต และของคนเลวี และงานปรนนิบัติทั้งสิ้นในพระนิเวศของพระยาห์เวห์ และสำหรับเครื่องใช้ทั้งหมดในงานปรนนิบัติในพระนิเวศของพระยาห์เวห์ 14น้ำหนักทองคำหรือ ทองคำหนักตามที่ต้องการเพื่อของภาชนะทองคำทุกอย่าง สำหรับการปรนนิบัติแต่ละอย่าง น้ำหนักเงินของภาชนะเงินทุกอย่าง สำหรับงานปรนนิบัติแต่ละอย่าง 15น้ำหนักของเชิงประทีปทองคำและตะเกียงทองคำ น้ำหนักของเชิงประทีปแต่ละคันกับตะเกียงแต่ละดวง น้ำหนักเงินของเชิงประทีปคันหนึ่งกับตะเกียงคู่กัน ตามที่จะใช้เชิงประทีปแต่ละอันในการปรนนิบัติ 16น้ำหนักทองคำสำหรับโต๊ะขนมปังตั้งถวายแต่ละโต๊ะ เงินสำหรับโต๊ะเงิน 17และทองคำบริสุทธิ์สำหรับส้อม อ่าง ถ้วย ชามทองคำ และน้ำหนักของแต่ละชาม ชามเงิน และน้ำหนักของแต่ละชาม 18ทองคำเนื้อละเอียดสำหรับแท่นเครื่องหอม และน้ำหนักของแท่นนั้น ทั้งแผนผังสำหรับรถรบของเครูบทองคำ ซึ่งกางปีกออกปกหีบพันธสัญญาของพระยาห์เวห์ 19ดาวิดตรัสว่า “ทั้งหมดนี้ พระยาห์เวห์ทรงให้ข้าพเจ้าเข้าใจในสิ่งที่ทรงเขียน โดยลายพระหัตถ์ของพระองค์ในเรื่องงานทุกอย่างตามแผนผังนั้น”
 20แล้วดาวิดตรัสกับซาโลมอนโอรสของพระองค์ว่า “จงเข้มแข็งและกล้าหาญ และลงมือทำ อย่ากลัวเลย อย่าขยาด เพราะว่าพระยาห์เวห์พระเจ้าคือพระเจ้าของข้าสถิตกับเจ้า พระองค์จะไม่ทรงละจากเจ้าหรือทอดทิ้งเจ้า จนกว่างานทั้งสิ้นสำหรับงานปรนนิบัติแห่งพระนิเวศของพระยาห์เวห์จะสำเร็จ 21ดูสิ มีเวรปุโรหิตและเวรคนเลวี สำหรับงานปรนนิบัติทุกอย่างแห่งพระนิเวศของพระเจ้า ในงานทั้งหมดนี้ จะมีคนอยู่กับเจ้าคือทุกคนที่เต็มใจ ผู้เชี่ยวชาญในงานทุกอย่าง เจ้าหน้าที่ และประชาชนทั้งปวงจะอยู่ในการบัญชาทุกอย่างของเจ้า”

1 พงศาวดาร 29

ของถวายเพื่อการสร้างพระวิหาร

 1และดาวิดพระราชาตรัสกับชุมนุมชนทั้งสิ้นว่า “ซาโลมอนบุตรของข้าพเจ้า ซึ่งเป็นผู้เดียวที่พระเจ้าทรงเลือกไว้นั้น ยังเป็นคนหนุ่มและไม่มีประสบการณ์ การงานก็ใหญ่โต เพราะว่าพระวิหารนั้นไม่ใช่สำหรับคน แต่สำหรับพระยาห์เวห์พระเจ้า 2เพราะฉะนั้นข้าพเจ้าจึงจัดเตรียมไว้สำหรับพระนิเวศของพระเจ้าของข้าพเจ้า เต็มความสามารถของข้าพเจ้าคือ ทองคำสำหรับสิ่งที่ทำด้วยทองคำ เงินสำหรับสิ่งที่ทำด้วยเงิน ทองสัมฤทธิ์สำหรับสิ่งที่ทำด้วยทองสัมฤทธิ์ เหล็กสำหรับสิ่งที่ทำด้วยเหล็ก และไม้สำหรับสิ่งที่ทำด้วยไม้ แก้วโกเมน และแก้วสำหรับฝัง พลวง หินลาย เพชรพลอยทุกชนิดและหินอ่อนจำนวนมาก 3ยิ่งกว่านั้นอีก นอกจากทั้งหมดที่ข้าพเจ้าจัดหาไว้สำหรับนิเวศบริสุทธิ์แล้ว ข้าพเจ้ายังมีทองคำและเงินเป็นสมบัติของข้าพเจ้าเอง และเพราะความรักของข้าพเจ้าที่มีต่อพระนิเวศของพระเจ้าของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าขอมอบให้แก่พระนิเวศแห่งพระเจ้าของข้าพเจ้า ดังนี้ 4ทองคำ 100 ตัน เป็นทองคำจากโอฟีร์ และเงินถลุงแล้ว 240 ตัน เพื่อจะบุผนังพระนิเวศ 5ทองคำสำหรับสิ่งที่ทำด้วยทองคำ และเงินสำหรับสิ่งที่ทำด้วยเงิน และเพื่องานทั้งสิ้นที่ช่างจะทำด้วยมือ ใครบ้างที่เต็มใจจะถวายตัวแด่พระยาห์เวห์ในวันนี้?”
 6แล้วผู้นำของตระกูล ผู้นำของเผ่าทั้งหลายของอิสราเอล ทั้งนายพัน นายร้อยและข้าราชบริพารของพระราชาก็ถวายด้วยความเต็มใจ 7เขาทั้งหลายถวายเพื่องานปรนนิบัติแห่งพระนิเวศของพระเจ้า เป็นทองคำ 170 ตัน และอีก 84 กิโลกรัม เงิน 340 ตัน ทองสัมฤทธิ์ 620 ตัน และเหล็ก 3,400 ตัน 8ใครที่มีเพชรพลอยก็ถวายไว้ที่คลังพระนิเวศของพระยาห์เวห์ ในความดูแลของเยฮีเอล คนเกอร์โชน 9แล้วประชาชนก็เปรมปรีดิ์ เพราะเขาถวายสิ่งเหล่านี้ตามความสมัครใจของเขา เพราะเขาถวายด้วยความเต็มใจแด่พระยาห์เวห์ ดาวิดพระราชาก็ทรงเปรมปรีดิ์เป็นอย่างยิ่งด้วย

ดาวิดสรรเสริญพระเจ้า

 10เพราะฉะนั้นดาวิดจึงสรรเสริญพระยาห์เวห์ต่อหน้าชุมนุมชนทั้งปวง และดาวิดทูลว่า “ข้าแต่พระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งอิสราเอลบรรพบุรุษของข้าพระองค์ทั้งหลาย สาธุการแด่พระองค์ตลอดนิรันดร 11ข้าแต่พระยาห์เวห์ ความยิ่งใหญ่ ฤทธานุภาพ สง่าราศี ชัยชนะ และความโอ่อ่าตระการเป็นของพระองค์ เพราะทุกสิ่งที่มีอยู่ในฟ้าสวรรค์ และในแผ่นดินโลกเป็นของพระองค์ ข้าแต่พระยาห์เวห์ ราชอาณาจักรเป็นของพระองค์ และพระองค์ทรงเป็นที่ยกย่องเป็นจอมของสิ่งสารพัด 12ทั้งความมั่งคั่งและเกียรติมาจากพระองค์ และพระองค์ทรงครอบครองอยู่เหนือทุกสิ่ง ฤทธิ์อำนาจและฤทธานุภาพอยู่ในพระหัตถ์ของพระองค์ และอยู่ที่พระหัตถ์ของพระองค์ที่จะทรงกระทำให้ใหญ่ยิ่งและประทานกำลังแก่คนทั้งปวง 13บัดนี้ข้าพระองค์ทั้งหลายขอบพระคุณพระองค์ผู้เป็นพระเจ้าของข้าพระองค์ทั้งหลาย และสรรเสริญพระนามอันรุ่งโรจน์ของพระองค์
 14“แต่ข้าพระองค์เป็นใคร? และชนชาติของข้าพระองค์เป็นใคร ที่ข้าพระองค์ทั้งหลายจะสามารถถวายแด่พระองค์ด้วยความเต็มใจเช่นนี้? เพราะว่าสิ่งของทุกอย่างมาจากพระองค์ ข้าพระองค์ทั้งหลายได้ถวายของที่มาจากพระองค์แด่พระองค์ 15เพราะว่าข้าพระองค์ทั้งหลายเป็นคนต่างด้าวต่างแดนเฉพาะพระพักตร์พระองค์ และเป็นคนอาศัยอยู่ชั่วคราว ดังเช่นบรรพบุรุษทั้งหมดของข้าพระองค์ วันปีของข้าพระองค์บนแผ่นดินโลกเป็นเหมือนเงา และไม่มีความหวัง 16ข้าแต่พระยาห์เวห์พระเจ้าของข้าพระองค์ทั้งหลาย ของมากมายเหล่านี้ทั้งสิ้นซึ่งข้าพระองค์ทั้งหลายเตรียมมาเพื่อสร้างพระนิเวศถวายแด่พระองค์ เพื่อพระนามบริสุทธิ์ของพระองค์มาจากพระหัตถ์ของพระองค์ และเป็นของพระองค์ทั้งสิ้น 17ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์ ข้าพระองค์ทราบว่า พระองค์ทรงตรวจดูจิตใจ และพอพระทัยในความซื่อตรง ส่วนข้าพระองค์ ข้าพระองค์ถวายของเหล่านี้ทั้งสิ้น ด้วยความเต็มใจตามความซื่อตรงแห่งจิตใจของข้าพระองค์ และบัดนี้ข้าพระองค์ยินดีที่ได้เห็นประชากรของพระองค์ ผู้ซึ่งอยู่ ณ ที่นี้เต็มใจถวายด้วยความชื่นบานต่อพระองค์ 18ข้าแต่พระยาห์เวห์พระเจ้าของอับราฮัม อิสอัคและอิสราเอลบรรพบุรุษของข้าพระองค์ทั้งหลาย ขอทรงรักษาความประสงค์ และความคิดในใจของประชากรของพระองค์ให้เป็นเช่นนี้เสมอไป และขอทรงทำจิตใจของเขาทั้งหลายให้มั่นคงในพระองค์ 19ขอประทานความเต็มใจให้ซาโลมอนบุตรของข้าพระองค์ ที่จะรักษาบรรดาพระบัญญัติ พระโอวาท และกฎเกณฑ์ของพระองค์ และให้ทำทุกอย่างเหล่านี้ และสร้างพระวิหารตามซึ่งข้าพระองค์ได้เตรียมไว้แล้วนั้น”
 20แล้วดาวิดตรัสกับชุมนุมชนทั้งปวงว่า “จงถวายสาธุการแด่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านทั้งหลาย” และชุมนุมชนทั้งปวงก็สรรเสริญพระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งบรรพบุรุษของเขาทั้งหลาย และเขาทั้งหลายก้มลงนมัสการพระยาห์เวห์ และถวายบังคมแด่พระราชา 21ในวันรุ่งขึ้นเขาทั้งหลายถวายสัตวบูชา และถวายเครื่องบูชาเผาทั้งตัวแด่พระยาห์เวห์ เป็นวัวผู้ 1,000 ตัว แกะผู้ 1,000 ตัว และลูกแกะ 1,000 ตัว พร้อมกับเครื่องดื่มบูชาที่คู่กัน และถวายสัตวบูชาอย่างมากมายเพื่ออิสราเอลทั้งปวง 22และเขาทั้งหลายกินและดื่มเฉพาะพระพักตร์พระยาห์เวห์ในวันนั้น ด้วยความยินดียิ่งนัก

ซาโลมอนเป็นกษัตริย์แทนดาวิด

 และเขาทั้งหลายตั้งซาโลมอน โอรสของดาวิดเป็นพระราชาเป็นครั้งที่สอง และเจิมท่านไว้ให้เป็นเจ้านายเพื่อพระยาห์เวห์ และศาโดกให้เป็นปุโรหิต 23แล้วซาโลมอนประทับบนพระที่นั่งของพระยาห์เวห์ เป็นพระราชาแทนดาวิดราชบิดาของพระองค์ และพระองค์ทรงเจริญขึ้นและอิสราเอลทั้งปวงก็เชื่อฟังพระองค์ 24บรรดาผู้บัญชาการทั้งปวง และนักรบทั้งหลาย ทั้งบรรดาโอรสของกษัตริย์ดาวิดได้สาบานตัวต่อกษัตริย์ซาโลมอน 25และพระยาห์เวห์ทรงยกซาโลมอนให้ยิ่งใหญ่ต่อหน้าต่อตาของอิสราเอลทั้งปวง และประทานเกียรติยศของพระราชาแก่พระองค์อย่างที่ไม่มีพระราชาองค์ใดในอิสราเอลก่อนพระองค์ได้รับ

ดาวิดสิ้นพระชนม์

 26ดาวิดบุตรเจสซีครอบครองเหนืออิสราเอลทั้งปวง 27เวลาที่พระองค์ทรงครองราชย์เหนืออิสราเอลนั้นเป็น 40 ปี พระองค์ทรงครองราชย์ในเฮโบรน 7 ปี และในเยรูซาเล็ม 33 ปี 28แล้วพระองค์สิ้นพระชนม์เมื่อทรงชราและแก่หง่อมมาก ทั้งทรงมั่งคั่งและมีพระเกียรติ และซาโลมอนพระราชโอรสของพระองค์ทรงครองราชย์แทนพระองค์ 29ส่วนพระราชกิจของกษัตริย์ดาวิด ตั้งแต่ต้นจนที่สุด มีเขียนไว้ในบันทึกของซามูเอลผู้ทำนาย และในบันทึกของนาธันผู้เผยพระวจนะ และในบันทึกของกาดผู้ทำนาย 30มีเรื่องราวการครอบครองของพระองค์ทั้งสิ้น และยุทธพลังของพระองค์ และเรื่องราวที่บังเกิดกับพระองค์ และกับอิสราเอลและบรรดาราชอาณาจักรทั้งสิ้นของดินแดนต่างๆ

อรรถาธิบาย

พระวิหารอันบริสุทธิ์

ดาวิดถูกเรียกให้เตรียมสร้างพระนิเวศอันบริสุทธิ์ (29:2–3) เนื่องจากพระวิหารนั้นบริสุทธิ์มาก ดาวิดเองก็ไม่สามารถสร้างได้เนื่องจากดาวิด ‘สู้รบมากเกินไป ฆ่าคนมากเกินไป’ (28:3, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)

อย่างไรก็ตาม พระเจ้าได้นำดาวิดไปสู่แผนการที่แน่นอนในการสร้างพระนิเวศ แผนดังกล่าว ‘อยู่ในพระทัย’ โดย ‘พระวิญญาณ’ (ข้อ 12) บ่อยครั้งจะเป็นวิธีที่พระเจ้าชี้นำเรา พระองค์ทรงแสดงเหตุผลให้กับจิตใจของเราเพื่อทำในวิธีนั้น ๆ

ดาวิดมอบหมายงานให้ซาโลมอนบุตรชายของเขา ดาวิดเรียกเขาให้รับใช้พระเจ้าด้วย “ด้วยความเต็มใจและด้วยใจยินดี เพราะพระยาห์เวห์ทรงตรวจจิตใจทั้งปวง และทรงเข้าใจในแผนงาน และความคิดทั้งปวง” (ข้อ 9) พระเจ้าเรียกคุณดังที่พระองค์ทรงทำกับโซโลมอน สู่ความบริสุทธิ์ที่สูงกว่าการกระทำ ไปสู่หัวใจ แรงจูงใจ และความคิด

ดาวิดกล่าวว่าพระเจ้าเป็นพระเจ้าที่ทดสอบจิตใจและพอใจในความซื่อตรง (29:17) ดาวิดเป็นคนที่มี “ใจซื่อตรง” (สดุดี 78:72) เป็นคำนิยามที่ดีของความบริสุทธิ์

กล่าวกันว่าทุกคนมีชีวิต 3 ด้าน ได้แก่ ชีวิตเปิดเผยต่อสาธารณะ ชีวิตส่วนตัว และชีวิตลับ ความบริสุทธิ์เป็นเรื่องการใช้ชีวิตทั้งสามด้านร่วมกัน มากกว่าที่จะใช้ชีวิตแบบแยกส่วน ความบริสุทธิ์เป็นการใช้ชีวิตที่ไม่แตกต่างในด้านที่เปิดเผยต่อสาธารณะ ชีวิตส่วนตัว และชีวิตที่เป็นความลับของเรา และไม่แตกต่างด้านที่เรายอมรับกับสิ่งที่เราปฏิบัติ ความบริสุทธิ์เชื่อมโยงกับความสมบูรณ์ เมื่อพระเจ้าเรียกคุณให้เป็นคนบริสุทธิ์ พระองค์กำลังตรัสว่า “จงเป็นของเราทั้งหมด”

ดาวิดอธิษฐานว่า 'ขอประทานความเต็มใจให้ซาโลมอนบุตรของข้าพระองค์ ที่จะรักษาบรรดาพระบัญญัติ พระโอวาท และกฎเกณฑ์ของพระองค์ และให้ทำทุกอย่างเหล่านี้ และสร้างพระวิหารตามซึ่งข้าพระองค์ได้เตรียมไว้แล้วนั้น’ (1 พงศาวดาร 29:19)

สังเกตได้ว่าในการสร้างพระนิเวศพวกเขาจำเป็นต้องระดมเงินเป็นจำนวนมาก พวกเขาประสบความสำเร็จเพราะผู้นำเป็นผู้นำ ผู้นำมอบให้ก่อน (ข้อ 3) ผู้นำคนอื่น ๆ ก็มอบให้ต่อไป (ข้อ 6) จากนั้นทุกคนก็ ‘ให้ด้วยความเต็มใจ’ (ข้อ 6) ด้วย ความรู้สึกแห่งการเฉลิมฉลอง” (ข้อ 17 พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)

พระเจ้าต้องการให้คุณให้ด้วยความเต็มใจ ถ้าคุณไม่เต็มใจ คุณสามารถอธิษฐานว่า ‘ขอพระองค์โปรดทำให้ข้าพระองค์เต็มใจที่จะมีความเต็มใจ’ และอย่างที่แซนดี้ มิลลาร์ พูดบ่อย ๆ อย่างน้อยคุณก็สามารถอธิษฐานว่า ‘ขอพระองค์โปรดทำให้ข้าพระองค์เต็มใจที่จะมีความเต็มใจ’!

เมื่อประชาชนของพระเจ้าให้ด้วยความเต็มใจ พวกเขาก็เปี่ยมด้วยความยินดีอย่างยิ่ง ทุกสิ่งที่คุณมีมาจากพระเจ้าตั้งแต่แรก (ข้อ 16) ในขณะที่คุณมอบสิ่งที่คุณมีให้กับงานของพระเจ้าอย่างไม่เห็นแก่ตัวและไม่ฝืนใจ คุณจะเต็มไปด้วยความปิติยินดีอย่างยิ่ง

พระนิเวศบริสุทธิ์ที่ดาวิดและซาโลมอนสร้างขึ้นนั้น เป็นเพียงการจัดเตรียมสำหรับพระนิเวศบริสุทธิ์ของคริสตจักรที่พระวิญญาณบริสุทธิ์สถิตอยู่เท่านั้น พระวิญญาณไม่เพียงอาศัยอยู่ในคริสตจักรเท่านั้น แต่พระองค์ยังทรงสถิตอยู่ในคุณด้วย ร่างกายของคุณเป็นวิหารของพระวิญญาณบริสุทธิ์ (1 โครินธ์ 6:19–20)

คำอธิษฐาน

ข้าแต่พระเจ้า โปรดเติมข้าพระองค์ให้เต็มล้นในพระวิญญาณบริสุทธิ์ และโปรดช่วยให้ข้าพระองค์เป็นคนบริสุทธิ์

เพิ่มเติมโดยพิพพา

1 พงศาวดาร 29:9ข

‘...เพราะเขาถวายด้วยความเต็มใจแด่พระยาห์เวห์’

ฉันประหลาดใจเสมอกับการจัดเตรียมของพระเจ้าและความกว้างอย่างไม่น่าเชื่อของคนของพระเจ้า ครั้งแล้วครั้งเล่าที่เราได้เห็นการจัดเตรียมที่ไม่ธรรมดาของพระเจ้าสำหรับงานของคริสตจักรเมื่อสิ่งต่าง ๆ ดูเหมือนจะเป็นไปไม่ได้ ฉันไม่คิดว่าฉันขอบคุณพระเจ้ามากพอสำหรับความมีน้ำใจที่ยอดเยี่ยมของคนเหล่านั้น

ข้อพระคำประจำวัน

1 พงศาวดาร 28:20

‘จงเข้มแข็งและกล้าหาญ และลงมือทำ อย่ากลัวเลย อย่าขยาด เพราะว่าพระยาห์เวห์พระเจ้าคือพระเจ้าของข้าสถิตกับเจ้า’

reader

App

Download the Bible in One Year app for iOS or Android devices and read along each day.

reader

อีเมล

Sign up now to receive Bible in One Year in your inbox each morning. You’ll get one email each day.

reader

เว็บไซต์

Subscribe and listen to Bible in One Year delivered to your favourite podcast app everyday.

การอ้างอิง

ข้อพระคัมภีร์อ้างอิงมาจากพระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 2011 สงวนสิทธิ์โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย (ยกเว้นข้อที่ระบุว่าเป็นฉบับอื่น)

เปลี่ยนภาษา

พระคัมภีร์ในหนึ่งปีมีให้บริการในภาษาต่อไปนี้:

เว็บไซต์นี้จัดเก็บข้อมูล เช่น คุกกี้ เพื่อเปิดใช้งานฟังก์ชั่นและการวิเคราะห์ที่จำเป็นเท่านั้น ดูเพิ่มเติม